สะพัดทั่วยุโรป "แดงถ่อยลุย-ปฎิวัติ" เยอรมันโร่พบไตรรงค์ชี้แจง

ลือ! แดงถ่อยลุย-ปฎิวัติ สะพัดทั่วยุโรป รมต.เยอรมัน ร้อนใจ โร่พบแกนนำรัฐบาลเพื่อขอคำชี้แจง ห่วงสถานการณ์บานปลาย กระทบนักลงทุน-นักท่องเที่ยว "ไตรรงค์" ยันไม่มีปฏิวัติ รัฐคุมม็อบอยู่

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวภายหลังจากที่นายไมเคิล โกรส (Mr.Michael Glos) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี อดีต รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ได้เดินทางเข้าพบ โดยระบุว่า ทางเยอรมันได้แสดงความเป็นห่วงภาคธุรกิจที่เข้ามาลงทุน ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย เนื่องจากเกิดกระแสข่าวในยุโรปว่า สถานการณ์การเมืองไทยในเดือนนี้ จะรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง รวมทั้งจะมีการปฏิวัติรัฐประหาร ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้เข้ามาสอบถามสถานการณ์ทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจโดยตรงจากรัฐบาล

กรณีดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตนเองได้ชี้แจงและสร้างความมั่นใจถึงสถานการณ์การเมืองของไทยว่า จะไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งจะไม่มีการรัฐประหารขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันไม่เข้าข่าย 3 เหตุผลที่จะอ้างการปฏิวัติรัฐประหารได้เหมือนในอดีต กล่าวคือ 1.การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ 2.การคอร์รัปชัน ซึ่งแม้จะมีบางแต่เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ต้องไล่ตามไล่จับกันไป และ 3.เกิดการจลาจล

นอกจากนี้ รัฐบาลยังขอยืนยันว่า ในช่วงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สถานการณ์จะไม่น่าเป็นห่วงและไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยช่วงเดือนเมษายน 2552 เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ทั้งนี้ เยอรมนีและไทยต่างมีความผูกพันธ์และความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจผ่านคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจ (Joint Economic Committee) หรือ JEC ซึ่งได้มีการจัดประชุมระหว่างกันเป็นประจำ โดยการประชุม JEC ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลินได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนกันในหลายประเด็นที่สำคัญ และในครั้งต่อไป คือ การจัดประชุม JEC ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ หวังว่าทางเยอรมนีและไทยจะได้มีโอกาสหารือกันในอีกหลายประเด็นเพื่อกระชับความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจระหว่างกันให้มากขึ้น

รองนายกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เยอรมนีและไทยต่างเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดยมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมนีจำนวนมากที่ได้เดินทางเข้ามายังประเทศไทยซึ่งรัฐบาลไทยและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องต่างก็ให้ความสำคัญในการดูแลชาวเยอรมนีที่พำนักอยู่ในประเทศไทยเสมอมาและในส่วนการประชุม JEC ครั้งที่ 3 ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทางเยอรมนีจะได้เข้าร่วมในการประชุมเพื่อหารือและแลกเปลี่ยนในประเด็นที่สำคัญระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ในอีก 3-4 ปีข้างหน้ารัฐบาลไทยจะถังแตกนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดในช่วง 3-4 ปีนี้แน่ แต่ในอีก 10 ปี อาจเป็นไปได้ หากไม่มีการปรับโครงสร้างรายได้ของรัฐบาล ซึ่งตนได้หารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แล้ว เพราะหากไม่ปรับโครงสร้างรายได้ของรัฐบาล จะไม่มีเงินลงทุนเลย มีแต่เงินเดือนข้าราชการและค่ากระดาษและดินสอเท่านั้น ถนนทุกสายจะซ่อมแซมไม่ได้ โรงพยาบาลก็ยังปรับปรุงไม่ได้ ดังนั้น การปรับปรุงโครงสร้างของรัฐบาลเป็นเรื่องที่มีความจำเป็น ซึ่งเป็นเหตุผลที่รัฐบาลต้องเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ทรัพย์สินฯ ให้ออกมาโดยเร็ว