“สมศักดิ์” ย้ำหาก “มาร์ค” หน่อมแน้ม แดงป่วนไม่จบ ชี้ ส.ส.เพื่อแม้ว แห่พบนายใหญ่ ผิด รธน. แนะ ส.ส. ปชป. ล่าชื่อถอน เตือนรบ.อย่าประมาท ตั้งรับให้ดี ด้าน “เทอดภูมิ” ระบุ พธม.เคลื่อนไหวเพื่อบ้านเมือง แต่ ไข่แม้ว ทำเพื่อ นักโทษทักษิณ ยันไม่มีทางชนะ เนื่องจากไม่มีความชอบธรรม
รายการ “ก้าวที่กล้า สู่การเมืองใหม่” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. ประจำวันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ดำเนินรายการโดย นายสำราญ รอดเพชร ได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ โกศัยสุข รักษาการหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายเทอดภูมิ ใจดี ว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงการเดินหน้าของพรรคการเมืองใหม่ และวิเคราะห์สถานการณ์ความวุ่นวาย ที่จะเกิดขึ้นในประเทศ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าแม้จะถูกกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ด้วยการยิงปืน M79 ใสผู้ชุมนุม ตนเชื่อว่าไม่เป็นเหตุให้ พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวาดกลัว เนื่องจากถูกหล่อหลอมมาแล้วจากการชุมนุม 193 วัน ที่เราทำ ทำตามหน้าที่ของปวงชน ตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นได้ว่า สิทธิเสรีภาพขอประชาชน ไม่มี อำนาจรัฐ และกลไกของรัฐ ไม่สามารถคุ้มครองพลเมืองดี ที่ทำกิจกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ นับเป็นข้อบกพร่องของรัฐบาล พฤติกรรมอุจอาจเช่นนี้ รัฐบาลยังทำอะไรไม่ได้ หากเป็นในประเทศที่เจริญแล้ว จะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ หากพรรคการเมืองใหม่ เข้าไปมีอำนาจในสภา เรื่องความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่
“น่าสงสาร นายกฯ ไปไหน พอมีคนใส่เสื้อแดงมาต่อต้าน ก็บอกว่าไปไม่ได้ เที่ยวหนีคนพวกนี้อยู่เรื่อย เมื่อหนีพวกนี้ก็จะได้ใจ ฮึกเหิมป่วนอยู่เรื่อยๆ จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ขนาดตัวนายกเองยังเอาตัวแทบไม่รอด แล้วจะให้ประชาชนไว้วางใจได้อย่างไร อย่างกรณี เสธแดง เป็นทหารของกองทัพ และเป็นทีแน่นอนว่า การไปพบ นักโทษพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทางการตามจับตัวอยู่ ย่อมทำให้ภาพพจน์ของกองทัพเสียหาย ตรงนี้ทางกฎหมายเอาผิดไม่ได้เลยหรือ” นายสมศักดิ์ กล่าว
มีหลายคนถามว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองแล้วเลิกชุมนุมเสียที นายสมศักดิ์ กล่าวว่าคนที่ถามยังไม่เข้าใจเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ ว่า บุคคลมีสิทธิชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ อย่างในประเทศเกาหลี เวลาเขาเดินขบวนจะใช้ธงพรรคการเมืองเดินนำหน้า และในอีกหลายๆประเทศก็มี ทั้งนี้ตนไม่ได้หมายความว่า พรรคการเมืองใหม่จะต้องไปถือธงนำหน้า แต่หน้าที่ของพรรคการเมืองใหม่ นอกจากเข้าไปทำหน้าที่ในสภาแล้ว ยังต้องมีหน้าที่ให้การศึกษากับประชาชน เรียนรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ อย่างมหาวิทยาลัยราชดำเนิน
เมื่อถามว่า หากมีการชุมนุมอีก พันธมิตรฯ จะมีมาตรการในการป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีก นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการชุมนุมครั้งที่แล้ว เราได้ประสานงานกับ ตำรวจ ให้ดูแลความปลอดภัยอย่างดี และพันธมิตรฯเองก็ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่เเราไม่คาดคิดว่า การไปชุมนุมแสดงความจงรักภักดิ์ดี ไม่ไช่ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะมีใครกล้าทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองใหม่ ยังยึดหลัก 3 ประสาน คือ ใครมีเงินก็ช่วยสนับสนุนเงิน ใครมีแรงก็ช่วยออกแรง และใครมีสติปัญญา ก็ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เราเอาทั้งสามอย่างสี้มารวมเป็นการบริหารพรรค ในอนาคตเราต้องมีสาขาพรรค ทั่วประเทศ ทั้ง 76 จังหวัด ย่อมต้องมีปัญหาเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิจกรรมทางการเมือง สัมนาต่างๆ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องจ่าย จึงต้องจัดกิจกรรม ระดมทุนก้อนใหญ การเมืองใหม่เกิดจากภาคประชาชน ยืนอยู่ได้ด้วยประชาชน การจะก้าวต่อไปอย่างสง่างามหรือไม่ ก็ด้วยประชาชน เราไม่ต้องการกลุ่มทุน ถ้าพรรคการเมืองใหม่ ขายอุดมการณ์ รับใช้นายทุน อย่าว่าแต่ 50 ล้านเลย 100 ล้านเขาก็ให้ แต่เรามีพลังมวลชน จึงต้องขอเอาประชาชนเป็นที่พึ่ง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่จริงๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการระดมคนสูงสุด เป้าหมายเพื่อ ต้องการกลับมามีอำนาจ ตอนนี้เป็นช่วงดินสุดตัว เพื่อหาทางเอาเงินที่ถูกอายัด 7.6 หมื่นล้านคืน โดยใช้แผนสร้างแนวรบสองทาง ด้านหนึ่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองเคลื่อนไหวอยู่ตามชายแดนกัมพูชา เพื่อความสะดวกในการสั่งงาน ส่วนด้านที่สอง ล้มรัฐบาล เพื่อให้มีการยุบสภาโดยเร็วที่สุด แล้วใช้วิธีไหนก็ได้ ให้ได้อำนาจรัฐ ฉะนั้นช่วงนี้ จึงทำให้เห็น การประชุมสภาล่มอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม การที่นักการเมืองพรรคเพื่อไทยไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต่างประเทศ ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ทาง ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเข้าชื่อยื่นถอดถอนได้ ทั้งนี้ท้ายที่สุดแล้ว ตนคาดว่า จะเกิดการปั่นป่วน สร้างความวุ่นวายให้รัฐบาลในระดับหนึ่ง แตถ้ารัฐบาลตั้งรับดี ท้ายที่สุดกลุ่มคนพวกนี้จะเหี่ยวแห้งตายไปเอง
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เกิดขึ้นได้เสมอ หากรัฐบาลป้องกันไม่ดี เนื่องจาก กลุ่มที่มามีหลายแนวคิด บางพวกอยางใช้ความรุนแรง บางพวกอยากอยู่เฉยๆ คุมกันไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ว่ามาทำอะไร เพราะถูกเกณฑ์มา ด้านนายเทอดภูมิ กล่าวเสริมว่า ความวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ แต่ไม่มีทางชนะ เพราะไม่มีความชอบธรรม
นายเทอดภูมิ กล่าวว่าตัวป่วนประเทศประเมินพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยผิด อย่างกรณีที่ยิง M79 เข้ามาในสถานที่ชุมนุม ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กำลังปราศรัย เพื่อหวังให้ นายสนธิ วิ่งลงจากเวที จะได้เกิดมุมมองทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น แต่ผิดคาด ทั้งนายสนธิ และพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ได้หวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะผ่านการปฎิวัติทางความคิด แยกแยะได้ระหว่างถูกกับผิด ดี-ชั่ว หลังร่วมชุมนุม 193 วัน ดวงตาเขาเห็นธรรมหมดแล้ว เรื่องแค่นี้เขาไม่กลัวหรอก
นายเทอดภูมิ กล่าวต่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่ตื่นตัวทางการเมือง ส่วนใหญ่มาจากการชุมนุมทางการเมือง การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องละเอียด การต่อสู้ทางความคิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยอมรับว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าไม่มีความขัดแย้งก็เหมือนสังคมนั้น ตายแล้ว ที่เราพิสูจน์ตัวเองจากการชุมนุม โดยยึดหลักการต่อสู้ด้วยแนวทางสันติ มีการเรียกร้องอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มจากต่อต้านไม่ไห้แก้รัฐธรรมนูญ และการชุมนุมวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เราไม่ได้ชุมนุมทางการเมือง เพราะเราได้บอกประชาชนแล้ว ว่าประเทศเกิดวิกฤติ มีขบวนการดูหมิ่นสถาบัน และประเทศเพื่อนบ้าน แต่งตั้งนักโทษอาญาแผนดิน ไปเป็นที่ปรึกษา เป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ เราจึงเชิญชวนให้ประชาชนออกมาแสดงพลัง ปกป้องศักดิ์ศรีประเทศ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดง ชุมนุมต่อสู้เพื่อคนๆ เดียว ที่ศาลพิจารณาลงโทษอย่างเสร็จเด็ดขาดแล้ว การชุมนุมสร้างความวุ่นวาย เผาบ้านเผาเมือง อย่างนี้เป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่น ไม่ใช่ชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
“มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อล้มรัฐบาล แต่ยากที่จะสำเร็จ เพราะความชอบธรรมไม่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดันไปแตะสถาบันกษัตริย์ อันเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทย การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำให้รัฐบาลปกครองประเทศไม่ได้ พยายามสร้างสถานการณ์จนนำไปสู่ปฎิวัติ ด้วยการใช้กลุ่มเสื้อเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย สร้างกระแสข่าวใส่ไฟให้ประชาชนเกลียดรัฐบาล ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ป่วนทำให้ประชุมสภาไม่ได้” นายเทอเภูมิ กล่าว
รายการ “ก้าวที่กล้า สู่การเมืองใหม่” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. ประจำวันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน 2552 ดำเนินรายการโดย นายสำราญ รอดเพชร ได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ โกศัยสุข รักษาการหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายเทอดภูมิ ใจดี ว่าที่คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงการเดินหน้าของพรรคการเมืองใหม่ และวิเคราะห์สถานการณ์ความวุ่นวาย ที่จะเกิดขึ้นในประเทศ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าแม้จะถูกกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ด้วยการยิงปืน M79 ใสผู้ชุมนุม ตนเชื่อว่าไม่เป็นเหตุให้ พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หวาดกลัว เนื่องจากถูกหล่อหลอมมาแล้วจากการชุมนุม 193 วัน ที่เราทำ ทำตามหน้าที่ของปวงชน ตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้น สะท้อนให้เห็นได้ว่า สิทธิเสรีภาพขอประชาชน ไม่มี อำนาจรัฐ และกลไกของรัฐ ไม่สามารถคุ้มครองพลเมืองดี ที่ทำกิจกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ นับเป็นข้อบกพร่องของรัฐบาล พฤติกรรมอุจอาจเช่นนี้ รัฐบาลยังทำอะไรไม่ได้ หากเป็นในประเทศที่เจริญแล้ว จะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ หากพรรคการเมืองใหม่ เข้าไปมีอำนาจในสภา เรื่องความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่
“น่าสงสาร นายกฯ ไปไหน พอมีคนใส่เสื้อแดงมาต่อต้าน ก็บอกว่าไปไม่ได้ เที่ยวหนีคนพวกนี้อยู่เรื่อย เมื่อหนีพวกนี้ก็จะได้ใจ ฮึกเหิมป่วนอยู่เรื่อยๆ จนทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า ขนาดตัวนายกเองยังเอาตัวแทบไม่รอด แล้วจะให้ประชาชนไว้วางใจได้อย่างไร อย่างกรณี เสธแดง เป็นทหารของกองทัพ และเป็นทีแน่นอนว่า การไปพบ นักโทษพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ทางการตามจับตัวอยู่ ย่อมทำให้ภาพพจน์ของกองทัพเสียหาย ตรงนี้ทางกฎหมายเอาผิดไม่ได้เลยหรือ” นายสมศักดิ์ กล่าว
มีหลายคนถามว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองแล้วเลิกชุมนุมเสียที นายสมศักดิ์ กล่าวว่าคนที่ถามยังไม่เข้าใจเรื่อง สิทธิ เสรีภาพ ว่า บุคคลมีสิทธิชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ อย่างในประเทศเกาหลี เวลาเขาเดินขบวนจะใช้ธงพรรคการเมืองเดินนำหน้า และในอีกหลายๆประเทศก็มี ทั้งนี้ตนไม่ได้หมายความว่า พรรคการเมืองใหม่จะต้องไปถือธงนำหน้า แต่หน้าที่ของพรรคการเมืองใหม่ นอกจากเข้าไปทำหน้าที่ในสภาแล้ว ยังต้องมีหน้าที่ให้การศึกษากับประชาชน เรียนรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ อย่างมหาวิทยาลัยราชดำเนิน
เมื่อถามว่า หากมีการชุมนุมอีก พันธมิตรฯ จะมีมาตรการในการป้องกันอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้อีก นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการชุมนุมครั้งที่แล้ว เราได้ประสานงานกับ ตำรวจ ให้ดูแลความปลอดภัยอย่างดี และพันธมิตรฯเองก็ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่เเราไม่คาดคิดว่า การไปชุมนุมแสดงความจงรักภักดิ์ดี ไม่ไช่ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง จะมีใครกล้าทำอะไรบ้าๆ อย่างนี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองใหม่ ยังยึดหลัก 3 ประสาน คือ ใครมีเงินก็ช่วยสนับสนุนเงิน ใครมีแรงก็ช่วยออกแรง และใครมีสติปัญญา ก็ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เราเอาทั้งสามอย่างสี้มารวมเป็นการบริหารพรรค ในอนาคตเราต้องมีสาขาพรรค ทั่วประเทศ ทั้ง 76 จังหวัด ย่อมต้องมีปัญหาเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ากิจกรรมทางการเมือง สัมนาต่างๆ สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องจ่าย จึงต้องจัดกิจกรรม ระดมทุนก้อนใหญ การเมืองใหม่เกิดจากภาคประชาชน ยืนอยู่ได้ด้วยประชาชน การจะก้าวต่อไปอย่างสง่างามหรือไม่ ก็ด้วยประชาชน เราไม่ต้องการกลุ่มทุน ถ้าพรรคการเมืองใหม่ ขายอุดมการณ์ รับใช้นายทุน อย่าว่าแต่ 50 ล้านเลย 100 ล้านเขาก็ให้ แต่เรามีพลังมวลชน จึงต้องขอเอาประชาชนเป็นที่พึ่ง เพื่อให้เกิดการเมืองใหม่จริงๆ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่าการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการระดมคนสูงสุด เป้าหมายเพื่อ ต้องการกลับมามีอำนาจ ตอนนี้เป็นช่วงดินสุดตัว เพื่อหาทางเอาเงินที่ถูกอายัด 7.6 หมื่นล้านคืน โดยใช้แผนสร้างแนวรบสองทาง ด้านหนึ่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เองเคลื่อนไหวอยู่ตามชายแดนกัมพูชา เพื่อความสะดวกในการสั่งงาน ส่วนด้านที่สอง ล้มรัฐบาล เพื่อให้มีการยุบสภาโดยเร็วที่สุด แล้วใช้วิธีไหนก็ได้ ให้ได้อำนาจรัฐ ฉะนั้นช่วงนี้ จึงทำให้เห็น การประชุมสภาล่มอยู่บ่อยๆ อย่างไรก็ตาม การที่นักการเมืองพรรคเพื่อไทยไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต่างประเทศ ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ทาง ส.ส. ของพรรคประชาธิปัตย์ สามารถเข้าชื่อยื่นถอดถอนได้ ทั้งนี้ท้ายที่สุดแล้ว ตนคาดว่า จะเกิดการปั่นป่วน สร้างความวุ่นวายให้รัฐบาลในระดับหนึ่ง แตถ้ารัฐบาลตั้งรับดี ท้ายที่สุดกลุ่มคนพวกนี้จะเหี่ยวแห้งตายไปเอง
นายสมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่าความรุนแรงจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง เกิดขึ้นได้เสมอ หากรัฐบาลป้องกันไม่ดี เนื่องจาก กลุ่มที่มามีหลายแนวคิด บางพวกอยางใช้ความรุนแรง บางพวกอยากอยู่เฉยๆ คุมกันไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ ว่ามาทำอะไร เพราะถูกเกณฑ์มา ด้านนายเทอดภูมิ กล่าวเสริมว่า ความวุ่นวายเกิดขึ้นแน่ แต่ไม่มีทางชนะ เพราะไม่มีความชอบธรรม
นายเทอดภูมิ กล่าวว่าตัวป่วนประเทศประเมินพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยผิด อย่างกรณีที่ยิง M79 เข้ามาในสถานที่ชุมนุม ขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กำลังปราศรัย เพื่อหวังให้ นายสนธิ วิ่งลงจากเวที จะได้เกิดมุมมองทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่น แต่ผิดคาด ทั้งนายสนธิ และพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ได้หวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย เพราะผ่านการปฎิวัติทางความคิด แยกแยะได้ระหว่างถูกกับผิด ดี-ชั่ว หลังร่วมชุมนุม 193 วัน ดวงตาเขาเห็นธรรมหมดแล้ว เรื่องแค่นี้เขาไม่กลัวหรอก
นายเทอดภูมิ กล่าวต่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทย ที่ตื่นตัวทางการเมือง ส่วนใหญ่มาจากการชุมนุมทางการเมือง การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องละเอียด การต่อสู้ทางความคิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ยอมรับว่าความขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าไม่มีความขัดแย้งก็เหมือนสังคมนั้น ตายแล้ว ที่เราพิสูจน์ตัวเองจากการชุมนุม โดยยึดหลักการต่อสู้ด้วยแนวทางสันติ มีการเรียกร้องอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มจากต่อต้านไม่ไห้แก้รัฐธรรมนูญ และการชุมนุมวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เราไม่ได้ชุมนุมทางการเมือง เพราะเราได้บอกประชาชนแล้ว ว่าประเทศเกิดวิกฤติ มีขบวนการดูหมิ่นสถาบัน และประเทศเพื่อนบ้าน แต่งตั้งนักโทษอาญาแผนดิน ไปเป็นที่ปรึกษา เป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ เราจึงเชิญชวนให้ประชาชนออกมาแสดงพลัง ปกป้องศักดิ์ศรีประเทศ ขณะที่กลุ่มเสื้อแดง ชุมนุมต่อสู้เพื่อคนๆ เดียว ที่ศาลพิจารณาลงโทษอย่างเสร็จเด็ดขาดแล้ว การชุมนุมสร้างความวุ่นวาย เผาบ้านเผาเมือง อย่างนี้เป็นการละเมิดสิทธิของคนอื่น ไม่ใช่ชุมนุมตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ
“มีเป้าหมายชัดเจนเพื่อล้มรัฐบาล แต่ยากที่จะสำเร็จ เพราะความชอบธรรมไม่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดันไปแตะสถาบันกษัตริย์ อันเป็นที่เคารพของปวงชนชาวไทย การเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำให้รัฐบาลปกครองประเทศไม่ได้ พยายามสร้างสถานการณ์จนนำไปสู่ปฎิวัติ ด้วยการใช้กลุ่มเสื้อเคลื่อนไหวสร้างความวุ่นวาย สร้างกระแสข่าวใส่ไฟให้ประชาชนเกลียดรัฐบาล ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ป่วนทำให้ประชุมสภาไม่ได้” นายเทอเภูมิ กล่าว