ผู้ใหญ่บ้านดอนแสนสุขโคราช พาป้าจันทร์แดง ร้อง ตร.ขอความเป็นธรรม กรณีลูกชายและเพื่อนถูกกระบะพุ่งชนเสียชีวิต-บาดเจ็บสาหัส แต่ “พ.ต.ท.เจ้าของคดี” เบี่ยงเบนเป็นแค่อุบัติเหตุ ขณะที่ “พงศพัศ” รู้สึกละอายใจพฤติกรรม ตร.ไม่เป็นธรรม เตรียมประสานกองปราบฯ เคลียร์เรื่องนี้ ชี้ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท. ทำคดีนี้แล้วว่าทำตามพยานหลักฐาน แต่ถ้าตรวจพบละเลยต้องจัดการทางวินัย
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเคลื่อน แถมเมืองปัก ผู้ใหญ่บ้านดอนแสนสุข พร้อมชาวบ้านหมู่ 3 ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 30 คน เดินทางยื่นหนังสือให้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่ นายสาธิต ภูมิครบุรี อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนบ้านใหญ่วิทยาคม ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และนายวุฒิชัย แบ่งจะโปะ อายุ 17 ปี ถูกคนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตคาที่ แต่ พ.ต.ท.พูนศักดิ์ ชาติเพชร พนักงานสอบสวน สภ.ดอนแสนสุข เจ้าของคดีกลับเบี่ยงประเด็นเป็นแค่เรื่องอุบัติเหตุ โดยวานนี้ (15 ก.พ.) ได้นำเรื่องนี้เข้าร้องทุกข์ต่อสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยไปแล้ว
นางจันทร์แดง หวยครบุรี แม่ของนายวุฒิชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ต.ค.52 ที่ผ่านมา ลูกชายของตนพร้อมนายสาธิต และนายวรวุฒิ บุตรสำโรง อายุ 17 เพื่อนของลูกชายอีกคนหนึ่ง ได้เดินทางไปดูลิเกที่บ้านหนองใหญ่ ต.ครบุรี อ.ครบุรี โดยระหว่างดูลิเกอยู่นั้น ก็มีกลุ่มวัยรุ่นมาบังคับให้ลูกชายกับเพื่อนดื่มสุรา แต่กลุ่มลูกชายตนได้ปฏิเสธไป ทำให้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวบอกว่า “ถ้างั้นก็กินลูกปืนแทนแล้วกัน” ลูกชายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาประมาณ 02.00 น. โดยมีลูกชายตนเป็นคนขี่ ส่วนนายสาธิตกับนายวรวุฒินั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน โดยใช้เส้นทางถนนสายสะแกราช-หนองเสือปอง
นางจันทร์แดงกล่าวต่อไปว่า ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณบ้านโกรกสำโรง ม.4 ต.ครบุรี อ.ครบุรี ได้มีนายราชวัตร ก้อนสำโรง กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่อริของกลุ่มลูกชายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับชายวัยรุ่นที่บังคับลูกชายดื่มสุรา ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังลูกชายตนมา พร้อมกับชักปืนออกมายิงใส่แต่ปืนด้าน หลังจากนั้นก็มีรถกระบะอีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บย-2741 นครราชสีมา ซึ่งมีนายพิจักร หรือตู้ เจนสำโรง เป็นคนขับ ได้ขับแซงหน้ารถจักรยานยนต์ของลูกชายตนไปประมาณ 200 เมตร ก่อนจะกลับรถแล้วเปิดไฟสูงใส่ ก่อนจะพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของลูกชายตน เป็นเหตุให้ลูกชายตนกับนายสาธิตเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายวรวุฒิได้รับบาดเจ็บสาหัส
“หลังเกิดเหตุ ฉันกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ดอนแสนสุข ถึง 4 ครั้ง แต่ตำรวจก็บอกว่าไม่ต้องแจ้ง มีคนแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมกับไล่พวกฉันกลับมา แต่คดีที่ตำรวจทำสำนวนนั้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุทางจราจร ทั้งๆ ที่เรื่องที่เกิดขึ้นมีพยานรู้เห็นชัดเจนว่ารถกระบะตั้งใจขับรถพุ่งชนลูกชาย แถมพอชนเสร็จแล้วยังลงมาดูด้วย แล้วก็บอกว่าผิดคน จากนั้นก็ขับรถหนีไป พวกเราจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม” นางจันทร์แดงกล่าว
นางจันทร์แดงกล่าวต่อว่า เคยไปร้องเรียนหลายที่แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจมาร้องพล.ต.ท.พงศพัศ เพื่อต้องการให้ตำรวจทำคดีให้ถูกต้อง และที่นี่อาจเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า การที่ประชาชนบากหน้ามาร้องเรียนยัง ตร. เราก็รู้สึกละอายใจ แต่ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของตำรวจด้วยโดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ไม่เป็นธรรม สำหรับกรณีนี้ตนมองว่าถ้าพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมได้ ประชาชนคงไม่บากหน้ามาที่ ตร. ซึ่งเรื่องนี้ทราบมาว่าผู้ร้องทุกข์ได้ร้องไปยัง บก.ป.ด้วยก็จะให้ทาง บก.ป.ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ตนจะประสานไปยัง พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. รรท.ผบก.ป. มารับเรื่องและเป็นเจ้าภาพที่จะเจราจาระหว่างผู้เสียหายและผู้ต้องหาจะผิดจะถูกต้องว่ากันไป แต่ในด้านมนุษยธรรมแล้วเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะสังคมไทย
สำหรับตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีนั้นเบื้องต้นตนได้พูดคุยแล้ว และได้รับการยืนยันว่าทำไปตามพยานหลักฐานที่มี แต่หากทาง ตร.ตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนดังกล่าวปล่อยปละละเลยคงต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเคลื่อน แถมเมืองปัก ผู้ใหญ่บ้านดอนแสนสุข พร้อมชาวบ้านหมู่ 3 ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา จำนวนกว่า 30 คน เดินทางยื่นหนังสือให้ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. หลังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกรณีที่ นายสาธิต ภูมิครบุรี อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนบ้านใหญ่วิทยาคม ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา และนายวุฒิชัย แบ่งจะโปะ อายุ 17 ปี ถูกคนร้ายขับรถกระบะพุ่งชนจนเสียชีวิตคาที่ แต่ พ.ต.ท.พูนศักดิ์ ชาติเพชร พนักงานสอบสวน สภ.ดอนแสนสุข เจ้าของคดีกลับเบี่ยงประเด็นเป็นแค่เรื่องอุบัติเหตุ โดยวานนี้ (15 ก.พ.) ได้นำเรื่องนี้เข้าร้องทุกข์ต่อสมาคมผู้สื่อข่าวช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทยไปแล้ว
นางจันทร์แดง หวยครบุรี แม่ของนายวุฒิชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ต.ค.52 ที่ผ่านมา ลูกชายของตนพร้อมนายสาธิต และนายวรวุฒิ บุตรสำโรง อายุ 17 เพื่อนของลูกชายอีกคนหนึ่ง ได้เดินทางไปดูลิเกที่บ้านหนองใหญ่ ต.ครบุรี อ.ครบุรี โดยระหว่างดูลิเกอยู่นั้น ก็มีกลุ่มวัยรุ่นมาบังคับให้ลูกชายกับเพื่อนดื่มสุรา แต่กลุ่มลูกชายตนได้ปฏิเสธไป ทำให้ชายวัยรุ่นคนดังกล่าวบอกว่า “ถ้างั้นก็กินลูกปืนแทนแล้วกัน” ลูกชายเห็นท่าไม่ดีจึงพากันขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านในเวลาประมาณ 02.00 น. โดยมีลูกชายตนเป็นคนขี่ ส่วนนายสาธิตกับนายวรวุฒินั่งซ้อนท้ายมาด้วยกัน โดยใช้เส้นทางถนนสายสะแกราช-หนองเสือปอง
นางจันทร์แดงกล่าวต่อไปว่า ลูกชายขี่รถจักรยานยนต์มาถึงบริเวณบ้านโกรกสำโรง ม.4 ต.ครบุรี อ.ครบุรี ได้มีนายราชวัตร ก้อนสำโรง กับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งทั้งคู่เป็นคู่อริของกลุ่มลูกชายที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับชายวัยรุ่นที่บังคับลูกชายดื่มสุรา ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามหลังลูกชายตนมา พร้อมกับชักปืนออกมายิงใส่แต่ปืนด้าน หลังจากนั้นก็มีรถกระบะอีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บย-2741 นครราชสีมา ซึ่งมีนายพิจักร หรือตู้ เจนสำโรง เป็นคนขับ ได้ขับแซงหน้ารถจักรยานยนต์ของลูกชายตนไปประมาณ 200 เมตร ก่อนจะกลับรถแล้วเปิดไฟสูงใส่ ก่อนจะพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์ของลูกชายตน เป็นเหตุให้ลูกชายตนกับนายสาธิตเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายวรวุฒิได้รับบาดเจ็บสาหัส
“หลังเกิดเหตุ ฉันกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ดอนแสนสุข ถึง 4 ครั้ง แต่ตำรวจก็บอกว่าไม่ต้องแจ้ง มีคนแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว พร้อมกับไล่พวกฉันกลับมา แต่คดีที่ตำรวจทำสำนวนนั้นเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุทางจราจร ทั้งๆ ที่เรื่องที่เกิดขึ้นมีพยานรู้เห็นชัดเจนว่ารถกระบะตั้งใจขับรถพุ่งชนลูกชาย แถมพอชนเสร็จแล้วยังลงมาดูด้วย แล้วก็บอกว่าผิดคน จากนั้นก็ขับรถหนีไป พวกเราจึงอยากร้องขอความเป็นธรรม” นางจันทร์แดงกล่าว
นางจันทร์แดงกล่าวต่อว่า เคยไปร้องเรียนหลายที่แล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า จึงตัดสินใจมาร้องพล.ต.ท.พงศพัศ เพื่อต้องการให้ตำรวจทำคดีให้ถูกต้อง และที่นี่อาจเป็นที่พึ่งสุดท้ายแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า การที่ประชาชนบากหน้ามาร้องเรียนยัง ตร. เราก็รู้สึกละอายใจ แต่ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของตำรวจด้วยโดยเฉพาะพนักงานสอบสวนที่ไม่เป็นธรรม สำหรับกรณีนี้ตนมองว่าถ้าพนักงานสอบสวนให้ความเป็นธรรมได้ ประชาชนคงไม่บากหน้ามาที่ ตร. ซึ่งเรื่องนี้ทราบมาว่าผู้ร้องทุกข์ได้ร้องไปยัง บก.ป.ด้วยก็จะให้ทาง บก.ป.ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา นอกจากนี้ ตนจะประสานไปยัง พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. รรท.ผบก.ป. มารับเรื่องและเป็นเจ้าภาพที่จะเจราจาระหว่างผู้เสียหายและผู้ต้องหาจะผิดจะถูกต้องว่ากันไป แต่ในด้านมนุษยธรรมแล้วเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะสังคมไทย
สำหรับตำรวจที่เป็นเจ้าของคดีนั้นเบื้องต้นตนได้พูดคุยแล้ว และได้รับการยืนยันว่าทำไปตามพยานหลักฐานที่มี แต่หากทาง ตร.ตรวจสอบพบว่าพนักงานสอบสวนดังกล่าวปล่อยปละละเลยคงต้องดำเนินการทางวินัยต่อไป