“ลีน่า จัง” กับลูกชาย ร้องขอความเป็นธรรมต่อสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย หลังลูกชายถูกตบคะมำ หวั่นตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์จะไปเป็นพยานให้ฝ่ายตรงข้าม เพราะอิทธิพลนักการเมือง ขณะที่ตำรวจระบุแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อคู่กรณีไปแล้ว
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 ก.พ.) นายวิชชุ แสงพรศรีอรุณ บุตรชายของนางลีนา จังจรรจา ถูกนายชัยรัตน์ เชิดชูสกุลชัย แอบอ้างว่าเป็นตำรวจตำแหน่งผู้กำกับการ และทำร้ายร่างกายด้วยการตบและใช้ถาดอาหารตีหัว ภายในร้านแมคโดนัลด์ สาขาหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จนภายหลังนายการุณ โหสกุล ได้โทรศัพท์มาของเคลียร์กับนางลีน่า จัง เพื่อไม่ให้เอาเรื่องนายชัยรัตน์นั้น
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายวิชชุ แสงพรศรีอรุณ อายุ 27 ปี พร้อมนางลีนา จังจรรจา มารดา เดินทางมาขอพบนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว เนื่องจากฝั่งคู่กรณีมีความสนิทสนมกับนักการเมือง จึงเกรงว่าจะมีการใช้อิทธิพลทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางด้านคดี โดยมีนายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายวิชชุกล่าวว่า ตนมาขายการ์ดเกมยูกิโอ อยู่ที่ร้านแมคโดนัลด์มาได้ประมาณเกือบ 3 ปีแล้ว โดยไปรับมาขายอย่างถูกต้อง กำหนดราคาตามเว็บไซต์ ไม่มีการตั้งราคาเกินไปจากนั้น ราคาใบหนึ่งก็ตกอยู่ที่ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถของการ์ดใบนั้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นั้น นายชัยรัตน์กล่าวหาว่าตนขายการ์ดให้ลูกชายของเขาในราคาถึง 6,000-7,000 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอน และเมื่อวานลูกชายของนายชัยรัตน์ก็ไม่ได้เข้ามาสั่งซื้อการ์ดจากตนด้วย เพียงแต่ก่อนหน้านี้ลูกชายของนายชัยรัตน์ เคยมาซื้อการ์ดเกมดังกล่าวจริง แต่ก็ไม่บ่อยและไม่ได้ซื้อราคาแพงอย่างที่นายชัยรัตน์อ้าง
“เมื่อวานนี้หลังจากเขาตบผมจนคว่ำ แล้วเอาถาดตีหัวผมเสร็จแล้ว เขากระชากตัวผมขึ้นมา แล้วตะโกนบอกเด็กในร้านแมโดนัลด์ทุกคนว่า พวกมึงจำหน้ามันเอาไว้ดีๆ ไอ้ผู้ชายคนนี้มันมาหลอกขายของให้พวกมึง แล้วเขาก็กระชากผมเหวี่ยงออกไปจนท้องผมกระแทกกับราวเหล็กหน้าร้าน ทำให้รู้สึกเจ็บมากเพราะผมเคยผ่าตัดถุงน้ำดีมาก่อน” นายวิชชุกล่าว
นายวิชชุกล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าคู่กรณีมีอิทธิพลมากพอสมควร เพราะเมื่อตำรวจสองคนมาถึงร้าน นายชัยรัตน์ก็ชูบัตรให้ตำรวจสองคนนั้นดูก่อนเลยว่า “มึงดูก่อนเลยว่ากูตำแหน่งอะไร จับมันไปเลย มันหลอกขายของให้เด็ก” ซึ่งตนก็เอาการ์ดเกมที่นำมาขายให้ตำรวจดูแล้วว่านำมาขายอย่างถูกต้อง แต่ตำรวจทั้งสองคนมาจับตนแทน ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย
ด้าน นางลีน่ากล่าวว่า ที่เดินทางมาร้องเรียนในวันนี้ก็เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ เนื่องจากขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำลูกชายของตนอยู่ ก็มีนักการเมือง คือ นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย โทรศัพท์เข้ามาหาตำรวจและขอร้องไม่ให้ตนเอาเรื่องคู่กรณีเพราะว่าเป็นคนรู้จักกัน และตนก็บอกนายการุณไปแล้วว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา ยอมความกันไม่ได้ และตนต้องการให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมทั้งมาขอโทษลูกชายของตนต่อหน้าสื่อมวลชนเท่านั้น หลังจากนั้นตนจะทำคำแถลงต่อศาลภายหลังให้ว่าไม่ติดใจเอาความดำเนินคดี
นางลีน่ากล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้พอนักข่าวเข้ามาถึงโรงพัก คู่กรณีก็รีบแยกตัวไปนั่งห้องพนักงานสอบสวนอีกห้องทันที เพราะกลัวว่าจะถูกนักข่าวถ่ายรูป สักพักก็ชิ่งหนีออกไปเลย ตนก็รีบเดินไปโวยวายเพราะไม่ทราบว่าตำรวจปล่อยตัวออกไปได้อย่างไร แต่พนักงานสอบสวนอีกคนบอกว่าคู่กรณีขออนุญาตไปส่งลูกแล้วจะกลับมารับทราบข้อหา แต่ตนกับลูกนั่งให้การต่อพนักงานสอบสวนจนถึง 22.00 น.ก็ยังไม่เห็นกลับมาที่โรงพักเลย
“หากวิชชุไม่ใช่ลูกดิฉัน ไม่ใช่ลูกลีน่า จัง เป็นแค่ลูกตาสีตาสาก็คงโดนจับข้อหาหลอกลวงขายการ์ดให้เด็กนักเรียนไปแล้ว และสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดก็ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญนั้นอาจจะถูกฝั่งคู่กรณีใช้อิทธิพลลบภาพช่วงเกิดเหตุทิ้งไป ซึ่งตัวดิฉันเองก็ไม่ได้อำนาจในการขอภาพวงจรปิดจากทางร้าน ต้องขอให้สื่อมวลชนช่วยจี้ตำรวจทำการประสานขอกล้องวงจรปิดจากร้านด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นห่วงก็คือ ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ถึง 3 นาย อาจจะไปเป็นพยานให้ฝั่งคู่กรณีก็เป็นได้ เพราะคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล และหากลูกดิฉันกลับไปขายการ์ดเกมที่เดิมอีกก็อาจจะถูกดักทำร้ายอีกก็ได้” นางลีน่ากล่าว
ด้าน นายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ ให้รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ โดยในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) ทางสมาคมฯ จะประสานไปยัง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.ให้ช่วยติดตามคดีนี้ว่าคู่กรณีเป็นตำรวจจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ส่วนเรื่องคดีก็จะประสานทางตำรวจให้เร่งรัดเรื่องการดำเนินคดีและหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด
ขณะที่ พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย, กักขังหน่วงเหนี่ยว และหมิ่นประมาท ต่อนายชัยรัตน์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายชัยรัตน์ให้การว่า ลูกชายของตัวเองเรียนอยู่ชั้น ป.6 ของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เรียนได้เกรด 4 มาตลอด แต่ช่วงหลังเกรดตกมาเหลือแค่ 2 เท่านั้น ซึ่งเป็นเพราะติดการ์ดเกมดังกล่าว เงินที่ให้ไปกินข้าวกลางวันก็ไม่ยอมเอาไปซื้อข้าวกิน แต่กลับเอาไปซื้อการ์ดมาจากนายวิชชุ เสียเงินไป 3,500-4,500 บาท
พ.ต.ท.ชยุธ กล่าวต่อว่า นายชัยรัตน์รับว่าวันเกิดเหตุได้เข้าพูดคุยกับนายวิชชุ และเกิดการโต้เถียงกันจนเจ้าตัวระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนจะลงมือตบและใช้ถาดฟาดนายวิชชุไปจริง ส่วนเรื่องที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับผู้กำกับนั้น นายชัยรัตน์อ้างว่าไม่ได้พูดแบบนั้น นายวิชชุอาจจะฟังผิดไปเอง โดยนายชัยรัตน์สนิทกับ ผกก.สน.สามเสน คนก่อน ซึ่งเป็น นรต.รุ่น 38 อย่างไรก็ตาม คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวทั้งคู่มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (4 ก.พ.) นายวิชชุ แสงพรศรีอรุณ บุตรชายของนางลีนา จังจรรจา ถูกนายชัยรัตน์ เชิดชูสกุลชัย แอบอ้างว่าเป็นตำรวจตำแหน่งผู้กำกับการ และทำร้ายร่างกายด้วยการตบและใช้ถาดอาหารตีหัว ภายในร้านแมคโดนัลด์ สาขาหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา จนภายหลังนายการุณ โหสกุล ได้โทรศัพท์มาของเคลียร์กับนางลีน่า จัง เพื่อไม่ให้เอาเรื่องนายชัยรัตน์นั้น
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย นายวิชชุ แสงพรศรีอรุณ อายุ 27 ปี พร้อมนางลีนา จังจรรจา มารดา เดินทางมาขอพบนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีดังกล่าว เนื่องจากฝั่งคู่กรณีมีความสนิทสนมกับนักการเมือง จึงเกรงว่าจะมีการใช้อิทธิพลทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางด้านคดี โดยมีนายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ เป็นผู้รับเรื่องแทน
นายวิชชุกล่าวว่า ตนมาขายการ์ดเกมยูกิโอ อยู่ที่ร้านแมคโดนัลด์มาได้ประมาณเกือบ 3 ปีแล้ว โดยไปรับมาขายอย่างถูกต้อง กำหนดราคาตามเว็บไซต์ ไม่มีการตั้งราคาเกินไปจากนั้น ราคาใบหนึ่งก็ตกอยู่ที่ 300-500 บาท ขึ้นอยู่กับความสามารถของการ์ดใบนั้น ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้นั้น นายชัยรัตน์กล่าวหาว่าตนขายการ์ดให้ลูกชายของเขาในราคาถึง 6,000-7,000 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้แน่นอน และเมื่อวานลูกชายของนายชัยรัตน์ก็ไม่ได้เข้ามาสั่งซื้อการ์ดจากตนด้วย เพียงแต่ก่อนหน้านี้ลูกชายของนายชัยรัตน์ เคยมาซื้อการ์ดเกมดังกล่าวจริง แต่ก็ไม่บ่อยและไม่ได้ซื้อราคาแพงอย่างที่นายชัยรัตน์อ้าง
“เมื่อวานนี้หลังจากเขาตบผมจนคว่ำ แล้วเอาถาดตีหัวผมเสร็จแล้ว เขากระชากตัวผมขึ้นมา แล้วตะโกนบอกเด็กในร้านแมโดนัลด์ทุกคนว่า พวกมึงจำหน้ามันเอาไว้ดีๆ ไอ้ผู้ชายคนนี้มันมาหลอกขายของให้พวกมึง แล้วเขาก็กระชากผมเหวี่ยงออกไปจนท้องผมกระแทกกับราวเหล็กหน้าร้าน ทำให้รู้สึกเจ็บมากเพราะผมเคยผ่าตัดถุงน้ำดีมาก่อน” นายวิชชุกล่าว
นายวิชชุกล่าวด้วยว่า ตนเชื่อว่าคู่กรณีมีอิทธิพลมากพอสมควร เพราะเมื่อตำรวจสองคนมาถึงร้าน นายชัยรัตน์ก็ชูบัตรให้ตำรวจสองคนนั้นดูก่อนเลยว่า “มึงดูก่อนเลยว่ากูตำแหน่งอะไร จับมันไปเลย มันหลอกขายของให้เด็ก” ซึ่งตนก็เอาการ์ดเกมที่นำมาขายให้ตำรวจดูแล้วว่านำมาขายอย่างถูกต้อง แต่ตำรวจทั้งสองคนมาจับตนแทน ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายถูกทำร้ายร่างกาย
ด้าน นางลีน่ากล่าวว่า ที่เดินทางมาร้องเรียนในวันนี้ก็เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้ เนื่องจากขณะที่พนักงานสอบสวนกำลังสอบปากคำลูกชายของตนอยู่ ก็มีนักการเมือง คือ นายการุณ โหสกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย โทรศัพท์เข้ามาหาตำรวจและขอร้องไม่ให้ตนเอาเรื่องคู่กรณีเพราะว่าเป็นคนรู้จักกัน และตนก็บอกนายการุณไปแล้วว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นคดีอาญา ยอมความกันไม่ได้ และตนต้องการให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมทั้งมาขอโทษลูกชายของตนต่อหน้าสื่อมวลชนเท่านั้น หลังจากนั้นตนจะทำคำแถลงต่อศาลภายหลังให้ว่าไม่ติดใจเอาความดำเนินคดี
นางลีน่ากล่าวต่อว่า เมื่อวานนี้พอนักข่าวเข้ามาถึงโรงพัก คู่กรณีก็รีบแยกตัวไปนั่งห้องพนักงานสอบสวนอีกห้องทันที เพราะกลัวว่าจะถูกนักข่าวถ่ายรูป สักพักก็ชิ่งหนีออกไปเลย ตนก็รีบเดินไปโวยวายเพราะไม่ทราบว่าตำรวจปล่อยตัวออกไปได้อย่างไร แต่พนักงานสอบสวนอีกคนบอกว่าคู่กรณีขออนุญาตไปส่งลูกแล้วจะกลับมารับทราบข้อหา แต่ตนกับลูกนั่งให้การต่อพนักงานสอบสวนจนถึง 22.00 น.ก็ยังไม่เห็นกลับมาที่โรงพักเลย
“หากวิชชุไม่ใช่ลูกดิฉัน ไม่ใช่ลูกลีน่า จัง เป็นแค่ลูกตาสีตาสาก็คงโดนจับข้อหาหลอกลวงขายการ์ดให้เด็กนักเรียนไปแล้ว และสิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดก็ คือ ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญนั้นอาจจะถูกฝั่งคู่กรณีใช้อิทธิพลลบภาพช่วงเกิดเหตุทิ้งไป ซึ่งตัวดิฉันเองก็ไม่ได้อำนาจในการขอภาพวงจรปิดจากทางร้าน ต้องขอให้สื่อมวลชนช่วยจี้ตำรวจทำการประสานขอกล้องวงจรปิดจากร้านด้วย อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นห่วงก็คือ ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ถึง 3 นาย อาจจะไปเป็นพยานให้ฝั่งคู่กรณีก็เป็นได้ เพราะคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพล และหากลูกดิฉันกลับไปขายการ์ดเกมที่เดิมอีกก็อาจจะถูกดักทำร้ายอีกก็ได้” นางลีน่ากล่าว
ด้าน นายสุรชัย นิโครธานนท์ รองนายกสมาคมฯ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากนายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมฯ ให้รับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ โดยในวันพรุ่งนี้ (6 ก.พ.) ทางสมาคมฯ จะประสานไปยัง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร.ให้ช่วยติดตามคดีนี้ว่าคู่กรณีเป็นตำรวจจริงอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ส่วนเรื่องคดีก็จะประสานทางตำรวจให้เร่งรัดเรื่องการดำเนินคดีและหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด
ขณะที่ พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย, กักขังหน่วงเหนี่ยว และหมิ่นประมาท ต่อนายชัยรัตน์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยนายชัยรัตน์ให้การว่า ลูกชายของตัวเองเรียนอยู่ชั้น ป.6 ของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เรียนได้เกรด 4 มาตลอด แต่ช่วงหลังเกรดตกมาเหลือแค่ 2 เท่านั้น ซึ่งเป็นเพราะติดการ์ดเกมดังกล่าว เงินที่ให้ไปกินข้าวกลางวันก็ไม่ยอมเอาไปซื้อข้าวกิน แต่กลับเอาไปซื้อการ์ดมาจากนายวิชชุ เสียเงินไป 3,500-4,500 บาท
พ.ต.ท.ชยุธ กล่าวต่อว่า นายชัยรัตน์รับว่าวันเกิดเหตุได้เข้าพูดคุยกับนายวิชชุ และเกิดการโต้เถียงกันจนเจ้าตัวระงับอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนจะลงมือตบและใช้ถาดฟาดนายวิชชุไปจริง ส่วนเรื่องที่อ้างว่าเป็นตำรวจระดับผู้กำกับนั้น นายชัยรัตน์อ้างว่าไม่ได้พูดแบบนั้น นายวิชชุอาจจะฟังผิดไปเอง โดยนายชัยรัตน์สนิทกับ ผกก.สน.สามเสน คนก่อน ซึ่งเป็น นรต.รุ่น 38 อย่างไรก็ตาม คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย โดยพนักงานสอบสวนจะเรียกตัวทั้งคู่มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง
