“อธิบดีอัยการคดีอาญา” เผยกองปราบส่งสำนวนสมควรสั่งฟ้อง “แก๊งค้าอาวุธชาวคาซัคสถาน-เบลารุส” แล้ว พร้อมตั้งคณะทำงานพิจารณา มั่นใจสั่งคดีได้ภายในกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย
วันนี้ (15 ม.ค.) นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนกอปงราบปราม ได้ส่งมอบสำนวนพยานหลักฐาน และความเห็นสมควรสั่งฟ้องนายอิสยาส อิสซาคอฟ (IIyas Issakov) อายุ 56 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 1, นายวิกเตอร์ อับดุลลาเยฟ (Viktor Abdullayev) อายุ 58 ปี สัญชาติคาซัคสถาน เนวิเกเตอร์, นายมิคาอิล พีทูคู (Mikhail Petukou) อายุ 54 ปี สัญชาติเบลารุส ช่างเครื่องยนต์, นายอเล็กซ์ซานดะ ไซร์บาเนฟ (Alexandr Zrybnev) อายุ 53 ปี สัญชาติคาซัคสถาน ช่างเทคนิค และนายวิทาลี ชุนคอฟ (Vitaliy Shunkov) อายุ 54 ปี สัญชาติคาซัคสถาน นักบินที่ 2 แก๊งค้าอาวุธข้ามชาติ ผู้ต้องหาที่ 1-5 คดีลอบค้าอาวุธสงครามที่สนามบินดอนเมืองแล้ว โดยความผิดที่สมควรสั่งฟ้องมีหลายข้อหา อาทิ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490, พ.ร.บ.ศุลกากร ฯ พ.ร.บ.ความผิดเกี่ยวกับทางเดินอากาศ แต่ข้อหาหลักที่มีโทษอาญาสูงสุด คือ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นการนำเข้าซึ่งอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 55 มีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต
อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตนได้มอบสำนวนให้อัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวนต่อไป เพราะมีข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ที่ซับซ้อน อย่างไรก็ดีการสั่งคดีมั่นใจว่าอัยการจะพิจารณาสำนวนเสร็จทันกำหนดฝากขังผู้ต้องหาทั้งห้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฝากขังครั้งที่ 3 (จะครบฝากขังครั้งที่ 18 ม.ค.) โดยคดีดังกล่าวสามารถยื่นคำร้องฝากขังได้ทั้งสิ้น 7 ครั้ง รวม 84 วัน
ส่วนการพิจารณาสำนวนแล้ว หากอัยการจะมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา แล้วจะต้องเบิกตัวมาจากเรือนจำเพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลหรือไม่ นายกายสิทธิ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา กล่าวว่า หากยื่นฟ้องแล้วโดยหลักปฏิบัติศาลจะต้องเบิกตัวผู้ต้องหาจากเรือนจำสอบคำให้การ แต่คดีตนไม่แน่ใจว่าศาลจะใช้วิธีสอบคำให้การผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์หรือไม่ เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาคดีสำคัญจึงต้องดูแลความปลอดภัยด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า คดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 คน พร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางจำนวน 145 ลัง หลังจากเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.52 เวลา 15.56 น. นายนิมิต แสงอำไพ หัวหน้าสืบสวนปราบปรามทางบก 2 กรมศุลกากรและพวกได้รับแจ้งว่ามีเครื่องบิน IL-76 เที่ยวบินที่ AWA732 ซึ่งเดินทางจากสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เมืองเปียงยาง เกาหนีเหนือ) มีจุดมายไปยังสาธารณะรัฐนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ได้แวะลงจอดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ท่าอากาศยานดอนเมือง จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบิน ต่อมาสำนักข่าวกรองได้มีหนังสือแจ้งถึงผู้บัญชาการทหารอากาศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจค้นโดยละเอียด ซึ่งวันที่ 12 ธ.ค. เวลา 13.00 น. กองทัพอากาศ เจ้าหน้าที่อากาศยานดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้นำสิ่งของที่บรรทุกมากับเครื่องบินตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดอนเมือง โดยชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด