xs
xsm
sm
md
lg

ป.เผยหลายประเทศสนใจไทยจับอาวุธสงครามข้ามชาติ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

รักษาราชการผู้บังคับการกองปราบปราม เผยมีหลายประเทศสนใจการจับกุมอาวุธสงครามข้ามชาติ ชี้อยู่ระหว่างการสอบว่าจะมีบริษัทในไทยและคนไทยเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร ส่วนผลการสสอบสวนคาดว่าจะได้ผลสรุปภายใน 1-2 สัปดาห์

วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนคดีลำเลียงอาวุธสงครามร้ายแรงทางอากาศยานโดยเครื่องบิน IL76 ภายในอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานดอนเมือง และจับกุม 5 ผู้ต้องหาชาวคาซัคสถาน และเบลารุส ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายว่า พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป.ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อกำหนดแนวทางการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทางคดี ซึ่งต้องดำเนินการร่วมกับทางอัยการฝ่ายต่างประเทศ ก่อนจะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้งหมด

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำพยานไปแล้วประมาณ 10 ปาก ซึ่งได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานจากหลายส่วนที่เกี่ยวข้องตามที่มีการทำหนังสือประสานไปแล้ว เช่น ที่กรมสรรพาวุธตำรวจ เพื่อขอข้อมูลการตรวจสอบในรายละเอียดของอาวุธสงครามที่ตรวจยึดไว้ได้ว่ามีกี่ชนิด ขนาดใดบ้าง ตลอดจนแหล่งผลิต ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนจะนำมาประกอบในสำนวนคดี ส่วนที่กรมวิทยุการบินก็จะสอบปากคำเจ้าหน้าที่ถึงรายละเอียดเส้นทางการบินและการขนส่ง

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวอีกว่า ในส่วนของสำนักข่าวกรองแห่งชาติที่มีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีนี้ว่าจะต้องดำเนินการตามมติขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นั้นก็ต้องพิจารณาว่าตามกฎหมายไทยสามารถดำเนินการในส่วนไหนได้บ้าง และต้องประสานกับกรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศอีกครั้งซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐ หากพนักงานสอบสวนมีข้อมูลใดก็จะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามขั้นตอนอยู่แล้ว

รักษาการ ผบก.ป.กล่าวต่อว่า สำหรับการที่ชาวต่างชาติจะขับเครื่องบินมาแวะจอดในประเทศไทยแน่นอนว่าต้องมีคนไทยหรือบริษัทเอกชนคอยอำนวยความสะดวกหรือให้บริการ ซึ่งข้อมูลส่วนนี้พบว่ามีบริษัท เอ็มเจ็ท เป็นผู้ดำเนินการ ส่วนกลุ่มคนไทยจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้นยังเป็นเพียงการตั้งสมมติฐานในการสืบสวนสอบสวน

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนยังต้องตรวจสอบถึงพฤติการณ์ของกลุ่มผู้ต้องหาเกี่ยวกับเส้นทางการเงิน การตรวจสินค้า และการตกลงกันในทางลับเพื่อติดต่อซื้อขายอาวุธสงคราม ว่ามีการดำเนินการกันหรือไม่อย่างไร ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาว่าพบเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐปลอมด้วยนั้นก็ต้องประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการประสานข้อมูลกับทางกรมราชทัณฑ์ไม่พบว่าผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย รู้จักหรือมีการติดต่อกับนายวิกเตอร์ บูต มาก่อน ส่วนกรณีการตรวจสอบซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาทั้งหมดยังไม่ได้การตอบกลับในข้อมูลส่วนนี้แต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจุน มารุยามา หัวหน้านายตำรวจประสานงานอาวุโส พร้อมล่ามชาวญี่ปุ่น เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุพิศาล โดยมีการหารือกันเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น โดย พ.ต.อ.สุพิศาล เปิดเผยว่า นายจุน มารุยามา ได้สอบถามว่าคดีดังกล่าวมีชาวญี่ปุ่นเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนข้อมูลและสอบถามถึงการดำเนินคดีของทางการไทย ซึ่งในส่วนนี้ตนก็ชี้แจงไปเท่าที่ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่ชัดเจนแล้ว ส่วนที่เป็นข้อมูลที่เป็นความลับของทางราชการก็ไม่สามารถให้ข้อมูลได้ซึ่งทางนายจุนก็เข้าใจดี

“ที่ผ่านมามีหลายประเทศไม่ใช่เพียงเจ้าหน้าที่จากประเทศญี่ปุ่นที่เข้ามาประสานข้อมูลกับเรา ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ก็เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องนี้ ซึ่งเราก็รับฟังและตรวจสอบทั้งหมดและจะพิจารณาดำเนินการ เมื่อพบว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องกับคดีนี้เพราะถือเป็นอีกรูปแบบขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าว
ภาพอาวุธสงครามที่แยกเป็นชิ้นส่วนบนเครื่องบินในวันที่ถูกจับ
อาวุธสงครามที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
กำลังโหลดความคิดเห็น