นายกฯ ระบุการข่าวร่วมแจ้งเบาะแสไทยยึดเครื่องบินลำเลียงอาวุธสงครามที่ดอนเมือง ชี้สำแดงเท็จเป็นเหตุเข้าจับกุม ด้าน “เทพเทือก” เผยรับทราบการข่าวนานแล้ว แต่ขอประชุมร่วม จนท.ก่อนพูดอะไรมากกว่านี้ บอกเดี๋ยวจะยุ่ง เหตุอ่อนไหวเกี่ยวข้องหลายประเทศ คาดจันทร์-อังคารนี้เรียกประชุมได้
เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 12 ธ.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล กองปราบปราม และเจ้าหน้าที่ทหารอากาศ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นเครื่องบินลำเลียงทางทหาร IL-76 สีขาว ไม่ทราบสัญชาติ หมายเลขข้างเครื่อง 4L-AWA ซึ่งบินมาจากประเทศเกาหลีเหนือ ปลายทางประเทศศรีลังกา ที่ขอลงจอดสนามบินดอนเมือง เพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยเจ้าหน้าที่พบอาวุธสงครามอาร์พีจี ท่อส่งจรวดและอาวุธสงครามอื่น จำนวนมาก อยู่ในลังบรรจุอย่างดี จำนวน 12 แพ็ก น้ำหนักรวม 35 ตัน โดยผู้ต้องสงสัย 5 คน ซึ่งเป็นชาวคาซัคสถาน 4 คน ชาวเบลารุส 1 คน ว่า ตนได้รับรายงานแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งพูดง่าย ๆว่า เป็นการสำแดงเท็จ เราจึงดำเนินการไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีปัญหาต่อความมั่นคงในประเทศไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ไม่มีครับ ไม่มี" เมื่อถามว่า จะต้องตรวจสอบหรือไม่ว่า เกิดเหตุขึ้นได้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะเป็นการข่าวร่วม ซึ่งทำให้เราได้เบาะแสมาจึงดำเนินการไป
ด้านสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ตนและนายกฯ ได้รับทราบรายงานมาตลอด โดยทราบว่าจะมีเครื่องบินที่จะขนอาวุธ เราจึงดำเนินการตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ของเราได้ประชุมหารือกัน และดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในชั้นนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามกระบวนการ และเมื่อเขาดำเนินการแล้ว จะได้รายงานรายละเอียดให้ตนทราบ
เมื่อถามว่า นายกฯ ระบุว่า เป็นการสำแดงเท็จนั้นหมายความว่าอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดว่า เขาสำแดงเท็จตรงไหนบ้าง แปลง่ายๆ เขาแจ้งว่า สินค้าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในกิจการบ่อน้ำมัน พอไปตรวจจริงๆ เป็นอาวุธ ซึ่งอาจจะเป็นความหมายอย่างที่นายกฯ ระบุก็ได้ แต่ตนขอกรุณาจะยังไม่พูดอะไรมากดีกว่า เพราะมันเกี่ยวพันกับข้อกฎหมาย เพียงแต่เรียนให้ทราบว่า ทั้งตนและนายกฯ ได้รับรายงานตลอดเวลา และเจ้าหน้าที่ก็ได้ปรึกษาหารือกัน และเราได้สั่งการให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งทุกอย่างจะว่าไปตามข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวพันกับหลายฝ่าย ประเทศเจ้าของเครื่องบิน ประเทศของลูกเรือ ซึ่งเป็นคนสัญชาตินั้นๆ และประเทศที่สั่งซื้อสินค้า ประเทศที่จำหน่ายสินค้า เพราะฉะนั้นทุกอย่างจะดำเนินการตรงไปตรงมา นโยบายของเราคือทำทุกอย่างตรงไปตรงมาตามข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะประสานด้านการข่าวกับฝ่ายใด นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดในรายละเอียด เมื่อถามว่า เครื่องบินดังกล่าวขอลงประเทศไทยด้วยเหตุใด นายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอเรียนตามรายงานได้ว่า ขอลงจอดฉุกเฉินเพื่อเติมน้ำมัน
เมื่อถามย้ำว่า เกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในประเทศไทยหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับภายในประเทศของเราในขณะนี้ อย่างไรก็ตามตนคงตอบอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ เอาเป็นว่าให้มีรายงานข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน แล้วจะได้ปรึกษาหารือกัน แล้วจึงจะเปิดเผยให้ทราบข้อเท็จจริง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้การข่าวมาเป็นสัปดาห์แล้วหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนขอไม่พูดดีกว่า เมื่อถามว่า แล้วที่บอกว่าทราบล่วงหน้าหมายความว่าอย่างไร ก็นั่นขอไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวมันจะยุ่ง เมื่อถามว่า เป็นการประสานงานด้านการข่าวกับต่างประเทศหรือไม่ ก็ขอไม่พูดดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการขนถ่ายอาวุธออกมาเก็บรักษาไว้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะเอาไปเก็บรักษาไว้ในที่ๆ ปลอดภัย ก่อนที่จะดำเนินการต่อไป เมื่อถามต่อว่า การแจ้งขอลงจอดเกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา หรือเย็นของวันที่ 12 ธ.ค.นายสุเทพ กล่าวว่า ขอให้ตนได้ประชุมเจ้าหน้าที่ก่อนเพื่อจะได้ตกลงกันได้ว่า พูดจาอะไรได้แค่ไหนอย่างไรหรือไม่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินเรื่องเรียบร้อย ตนเชื่อว่า จันทร์หรืออังคารนี้ตนสามารถเรียกประชุมได้ อย่างไรก็ตามในคืนวันนี้ตนคงไม่ไปตรวจที่ดอนเมือง เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เรื่องของตน เมื่อถามต่อว่า เราจะต้องยึดอาวุธดังกล่าวไว้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวคงต้องดูตามกฎหมายว่าต้องทำอย่างไร