“ภารุพงศ์” สั่งชุดสืบสวนคดีทุจริตซื้อ จยย.ของ สตช. 1.2 พันล้าน เร่งติดตามรายละเอียดความคืบหน้าก่อนรายงาน “ปทีป” ทราบ
วันนี้ (8 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รักษาการที่ปรึกษา (สบ 10) ได้เรียกประชุมคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตโครงการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในวงเงินงบประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยมี พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาการ ผบก.ป. และพนักงานสอบสวน บก.ป. เข้าร่วมประชุม ซึ่งพล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวก่อนการประชุมว่า เหตุที่เรียกประชุมครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนก่อนเข้ารายงานต่อ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการราชการแทนผบ.ตร.
เมื่อถามถึงกรณีที่พยานทั้งหมดซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกต่างขอเลื่อนการเข้าพบนั้น พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า คงต้องรอการนัดหมายใหม่ซึ่งพนักงานสอบสวนได้กำหนดวันเวลาไว้แล้ว ทางเราต้องให้เกียรติกับพยาน โดยเฉพาะบางรายที่เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และคงไม่ถึงขั้นที่จะต้องแจ้งข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษจึงเสร็จสิ้น ซึ่งภายหลังการประชุม พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ และ พล.ต.ท.ไถง ได้เดินทางกลับโดยใช้บันไดทางออกด้านข้างห้องประชุมสุรสีหนาท อาคารสำนักงานผู้บังคับการ เพื่อเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับกรณีการเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ของนายตำรวจที่ทำคดีดังกล่าวนั้น เนื่องจากมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่กำชับให้ระมัดระวังในการให้ข่าวต่อสื่อมวลชนจึงไม่มีนายตำรวจรายใดกล้าให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าและรายละเอียดต่างๆ ในคดี อย่างไรก็ดี มีรายงานข่าวด้วยว่า พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ไปสอบสวนเชิงลึกในบางประเด็นที่ยังมีข้อสงสัยเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการเรียกประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ถือเป็นนายตำรวจเพียงคนเดียวที่ออกมาให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวหาว่ามีการกระทำความผิดเป็นกระบวนการรูปแบบองค์กรอาชญากรรมที่แทรกซึมใน สตช. ทั้งที่คดียังอยู่ขั้นตอนการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐานและยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใด ประกอบกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำของชุดสืบสวนที่บุกเข้าตรวจค้นเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ เพราะความผิดฐานฮั้วประมูลอยู่ในขอบอำนาจของดีเอสไอ
นอกจากนี้ หลังจากที่ พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จึงทำให้ไม่ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวโดยเก็บตัวเงียบไม่ให้ข่าวใดๆ ประกอบกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงสั่งห้ามพูดถึงเรื่องนี้ด้วย
แฉ! “พงศ์พัฒน์” ตำรวจโตเร็วแหกกฎ ก.ตร.
“พงศพัศ” พร้อมเปิดปากให้ข้อมูลกองปราบฯ คดีฮั้วซื้อ จยย.
“พีระพันธุ์” เชื่อคดีฮั้วซื้อ จยย.พันล้านไม่กระเทือนตั้ง ผบ.ตร.