00...ต้องยอมรับว่าตำรวจหละหลวม เปิดโอกาสให้กลุ่มคนชั่วก่อเหตุยิงเอ็ม 79 ถล่มใส่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่นัด “รวมพลังแผ่นดิน พิทักษ์ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ที่จัดขึ้นที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2552 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
เหตุการณ์เถื่อนใจกลางกรุง ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งของเหตุการณ์ พฤติกรรมการกระทำความผิด น่าจะเป็นกลุ่มคนร้าย กลุ่มเดียวกัน อาวุธที่ใช้ และ วิธีการก่อเหตุเหมือนกัน ที่สำคัญทุกครั้ง ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
จากความประมาทของตำรวจ งานนี้ถือว่าตำรวจเจ้าของท้องที่รับไปเต็มๆ เมื่อเจ้าของรหัส น.1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ถึงกับออกอาการฉุนสุดๆๆพูดทีเล่นทีจริง ว่า "สั่งการใครไม่ได้ หนีไปลงอ่างกันหมดหรืออย่างไร"
ร้อนถึง "พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ" ผกก.สน.ชนะสงคราม ที่ไม่อยู่ในขณะเกิดเหตุ แต่เมื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่า ผู้กำกับขิง เข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยได้ลาหยุดตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกำหนดออกจาก รพ.ซึ่งเมื่อได้รับรู้ความจริงแล้ว ก็นึกเห็นใจเหมือนกัน เพราะหอบสังขารไปนอนอยู่ รพ.ศิริราช ไม่ใช่ไปลงโอ่ง ลงอ่าง อะไรที่ไหนหรอกกครับ เจ้านายยยยย!!!
00..เสริมทักษะนักสืบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. เป็นประธานมอบใบประกาศณียบัตรให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม 30 นาย หลังเข้าอบรมโครงการหลักสูตรเทคนิคการสะกดรอย โดยมีอดีต ตำรวจผู้เชี่ยว จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นครูฝึก โครงการนี้ พ.ต.ท.อัครวุฒิ หลิมวัฒน์ สว.กก.ปพ.บก.ป. คิดขึ้นมาจ้า
00..ยินดีต้อนรับสู่...กรุงเทพมหานคร เขตความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) สำหรับ"นายฐาน" ที่ลูกน้องมักเอ่ยถึง "พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์" ซึ่งข้ามห้วยจากแดนสะตอ พื้นที่ภาคใต้ตอนบน มากินตำแหน่งแม่ทัพนครบาล แม้จะมีข้อข่อนขอดว่า "เด็กเทือก-เด็กเทพ"ก็ตามที แต่ถ้าสวมวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่บังคับบัญชาอย่างแท้จริงแล้ว การันตีได้ว่า "อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันรักเธอ"ก็แล้วกัน
ว่ากันว่า ในบรรดาข้าราชการ มีข้าราชการที่ปกครองได้ไม่ง่ายอยู่หน่วยงานหนึ่ง และหน่วยงานนั้นก็คือ "ตำรวจ"นั่นเอง แต่ในหน่วยงานตำรวจที่ปกครองได้ยากที่สุดก็คือ "ตำรวจนครบาล" เรื่องอย่างนี้ จริงเท็จอย่างไร เดี๋ยว"นายฐาน" เจ้าของรหัสน.1 ก็จะรู้เอง
มารู้จักตัวตนของ"นายฐาน"กันสักนิด เดิมนั้นไม่ได้ในามสกุลนี้ แต่ใช้"สัณฐาน คงกำเนิด" เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 (นรต.28) ถัดจาก "พี่ทักษิณ"มา 2 รุ่น 2 ปี แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นพิเศษต่อกัน เริ่มรับราชการเป็นรองสวป.สน.บางซื่อ ผ่านงานทั้งบู๊และบุ๋นมาตลอดชีวิตราชการ โดยขึ้นเป็นสารวัตรแผนก 5 กก.2 ป. เป็นรองผกก.2 ป. ย้ายไปเป็นรองผกก.นโยบายและแผนงาน บช.ก. ขึ้นเป็นผกก.กำลังพล บก.อก.บช.ก. โยกไปสายบู๊เป็นผกก.4 บก.รน. (ตำรวจน้ำ) สลับไปเป็นผกก.5 รน. กลับไปสายบุ๋นเป็นผกก.4 บก.อก.บช.ภ.8 เป็นรองผบก.อก. บช.ภ.8 ติดยศพล.ต.ต.ในตำแหน่งผบก.สุราษฎร์ธานี เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ของ"กำนันเทพ"เขา จากนั้นมา ได้อยู่ในตำแหน่งหลักมาโดยตลอด เป็นผบก.สงขลา ขึ้นเป็นรองผบช.ภ.8 และผบช.ภ.8 ก่อนจะย้ายมาคุมนครบาลในยุคที่"เทพเทือก"กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ในใจระลึกอยู่เสมอว่า ผบช.น.ต้อง"พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์"เพียงคนเดียวเท่านั้น จึงจะถูกใจเทพ
ฝากถึง"นายฐาน"ไว้ด้วยความปรารถนาดีว่า ตำแหน่งผบช.น.ดูเหมือนจะค่อนข้างอาถรรพ์เล็กน้อย บ้างมาแล้วก็ได้ดิบได้ดี บ้างมาแล้วก็ดับสูญ แต่พักหลังที่ผ่านมา มักไม่ค่อยแฮปปี้ เพราะมีเรื่องมีราวร้อนๆแรงๆเกิดขึ้นในพื้นที่บ่อย อีกอย่าง หลังเกิดเหตุอะไรขึ้น ตัวผบช.น.เอง มักจะ"สันนิษฐาน" อย่างโน้นอย่างนี้มาตลอด มาครั้งนี้ ขอให้เป็น"สัณฐาน"ตาม"รูปทรง"ให้สมชื่อ อย่าให้เหยี่ยวข่าวนครบาลเขาแอบเรียกลับหลังแล้วกันว่า"พล.ต.ท.สันนิษฐาน"...
เหตุการณ์เถื่อนใจกลางกรุง ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ได้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และทุกครั้งของเหตุการณ์ พฤติกรรมการกระทำความผิด น่าจะเป็นกลุ่มคนร้าย กลุ่มเดียวกัน อาวุธที่ใช้ และ วิธีการก่อเหตุเหมือนกัน ที่สำคัญทุกครั้ง ตำรวจไม่สามารถติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
จากความประมาทของตำรวจ งานนี้ถือว่าตำรวจเจ้าของท้องที่รับไปเต็มๆ เมื่อเจ้าของรหัส น.1 พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ถึงกับออกอาการฉุนสุดๆๆพูดทีเล่นทีจริง ว่า "สั่งการใครไม่ได้ หนีไปลงอ่างกันหมดหรืออย่างไร"
ร้อนถึง "พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ" ผกก.สน.ชนะสงคราม ที่ไม่อยู่ในขณะเกิดเหตุ แต่เมื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกลับปรากฎว่า ผู้กำกับขิง เข้ารับการผ่าตัดโรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลศิริราช โดยได้ลาหยุดตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีกำหนดออกจาก รพ.ซึ่งเมื่อได้รับรู้ความจริงแล้ว ก็นึกเห็นใจเหมือนกัน เพราะหอบสังขารไปนอนอยู่ รพ.ศิริราช ไม่ใช่ไปลงโอ่ง ลงอ่าง อะไรที่ไหนหรอกกครับ เจ้านายยยยย!!!
00..เสริมทักษะนักสืบ พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รอง ผบก.ป. เป็นประธานมอบใบประกาศณียบัตรให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม 30 นาย หลังเข้าอบรมโครงการหลักสูตรเทคนิคการสะกดรอย โดยมีอดีต ตำรวจผู้เชี่ยว จากประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นครูฝึก โครงการนี้ พ.ต.ท.อัครวุฒิ หลิมวัฒน์ สว.กก.ปพ.บก.ป. คิดขึ้นมาจ้า
00..ยินดีต้อนรับสู่...กรุงเทพมหานคร เขตความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) สำหรับ"นายฐาน" ที่ลูกน้องมักเอ่ยถึง "พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์" ซึ่งข้ามห้วยจากแดนสะตอ พื้นที่ภาคใต้ตอนบน มากินตำแหน่งแม่ทัพนครบาล แม้จะมีข้อข่อนขอดว่า "เด็กเทือก-เด็กเทพ"ก็ตามที แต่ถ้าสวมวิญญาณผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ปฏิบัติหน้าที่บังคับบัญชาอย่างแท้จริงแล้ว การันตีได้ว่า "อดีตไม่สำคัญ ปัจจุบันฉันรักเธอ"ก็แล้วกัน
ว่ากันว่า ในบรรดาข้าราชการ มีข้าราชการที่ปกครองได้ไม่ง่ายอยู่หน่วยงานหนึ่ง และหน่วยงานนั้นก็คือ "ตำรวจ"นั่นเอง แต่ในหน่วยงานตำรวจที่ปกครองได้ยากที่สุดก็คือ "ตำรวจนครบาล" เรื่องอย่างนี้ จริงเท็จอย่างไร เดี๋ยว"นายฐาน" เจ้าของรหัสน.1 ก็จะรู้เอง
มารู้จักตัวตนของ"นายฐาน"กันสักนิด เดิมนั้นไม่ได้ในามสกุลนี้ แต่ใช้"สัณฐาน คงกำเนิด" เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 28 (นรต.28) ถัดจาก "พี่ทักษิณ"มา 2 รุ่น 2 ปี แต่ไม่เคยมีอะไรเป็นพิเศษต่อกัน เริ่มรับราชการเป็นรองสวป.สน.บางซื่อ ผ่านงานทั้งบู๊และบุ๋นมาตลอดชีวิตราชการ โดยขึ้นเป็นสารวัตรแผนก 5 กก.2 ป. เป็นรองผกก.2 ป. ย้ายไปเป็นรองผกก.นโยบายและแผนงาน บช.ก. ขึ้นเป็นผกก.กำลังพล บก.อก.บช.ก. โยกไปสายบู๊เป็นผกก.4 บก.รน. (ตำรวจน้ำ) สลับไปเป็นผกก.5 รน. กลับไปสายบุ๋นเป็นผกก.4 บก.อก.บช.ภ.8 เป็นรองผบก.อก. บช.ภ.8 ติดยศพล.ต.ต.ในตำแหน่งผบก.สุราษฎร์ธานี เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ของ"กำนันเทพ"เขา จากนั้นมา ได้อยู่ในตำแหน่งหลักมาโดยตลอด เป็นผบก.สงขลา ขึ้นเป็นรองผบช.ภ.8 และผบช.ภ.8 ก่อนจะย้ายมาคุมนครบาลในยุคที่"เทพเทือก"กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ในใจระลึกอยู่เสมอว่า ผบช.น.ต้อง"พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์"เพียงคนเดียวเท่านั้น จึงจะถูกใจเทพ
ฝากถึง"นายฐาน"ไว้ด้วยความปรารถนาดีว่า ตำแหน่งผบช.น.ดูเหมือนจะค่อนข้างอาถรรพ์เล็กน้อย บ้างมาแล้วก็ได้ดิบได้ดี บ้างมาแล้วก็ดับสูญ แต่พักหลังที่ผ่านมา มักไม่ค่อยแฮปปี้ เพราะมีเรื่องมีราวร้อนๆแรงๆเกิดขึ้นในพื้นที่บ่อย อีกอย่าง หลังเกิดเหตุอะไรขึ้น ตัวผบช.น.เอง มักจะ"สันนิษฐาน" อย่างโน้นอย่างนี้มาตลอด มาครั้งนี้ ขอให้เป็น"สัณฐาน"ตาม"รูปทรง"ให้สมชื่อ อย่าให้เหยี่ยวข่าวนครบาลเขาแอบเรียกลับหลังแล้วกันว่า"พล.ต.ท.สันนิษฐาน"...