xs
xsm
sm
md
lg

ความน่าจะเป็นที่"น้องไก๋"จะเขียนจดหมายถึง"พ่อป๊อด"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ด้อ่านจดหมายของ"น้องไก๋" ส.ต.ต.หญิงนวพร วงษ์สุวรรณ ที่เขียนถึงผู้เป็นพ่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว เกิดความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ"น้องไก๋"ขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกับคงวามรู้สึกของ"น้องไก๋"ที่มีต่อผู้เป็นพ่อราวฟ้าดินอย่างสิ้นเชิง

ไม่ได้แปลกใจเลยที่ลูกสาวคนหนึ่ง จะเขียนจดหมายถึงพ่อเพื่อบ่งบอกความรู้สึกว่าเห็นอกเห็นใจ ที่ตัวเองเข้าใจว่า ผู้เป็นพ่อถูกกระทำ แต่ไม่ได้เข้าใจเลยว่า พ่อตัวเองนั้นกระทำอะไรมาบ้าง อีกทั้งการเขียนจดหมายฉบับดังกล่าวผ่านสื่อไปยังสาธารณชนนั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของ"น้องไก๋" ต้องการอะไร ต้องการให้สาธารณชนได้รับรู้ว่า ผู้เป็นพ่อถูกระทำ ถูกรังแกจากนายกรัฐมนตรีกระนั้นหรือ

ความภูมิใจที่"น้องไก๋"จะบอกกับผู้เป็นพ่อ ถึงความสำเร็จในวันสุดท้ายของการอบรมเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ผู้เป็นพ่อ"ถูกปลด"นั้น ความภาคภูมิใจที่ว่า จะได้รับการยกย่อง จะมีเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้อย่างไร หาก"น้องไก๋"ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง หรือทราบแต่ไม่ยอมถาม หรือพยายามหาคำตอบจากข้อเท็จจริงนั้น

ความภูมิใจที่จะทรงไว้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งตระกูล"วงศ์สุวรรณ" จะงามสง่ายิ่งขึ้น เมื่อ"น้องไก๋"ต้องเขียนจดหมายถามความข้องใจกับผู้เป็นพ่อว่า

1.จริงหรือ ที่เขาว่าพ่อเข้าไปเกี่ยวพันกับการทุจริตงบประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 18 ล้านบาท
2.ในฐานะที่พ่อเป็นผบ.ตร. รู้หรือไม่ว่า ใครเป็น"ตอ"ที่เขาเมาท์กันในคดีที่เกี่ยวกับการลอบสังหารคุณสนธิ ลิ้มทองกุล
3.รีสอร์ทที่มีชื่อหนูเป็นเจ้าของ ผู้คนเขาถามกันทั่วว่า ไปขนไม้สักมาจากไหน
4.การเป็นผบ.ตร.นี่ สามารถ สั่งให้รื้อรั้วถนนมอเตอร์เวย์เพื่อขนไม้สักเข้ารีสอร์ทได้จริงหรือ
5.การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจแต่ละครั้ง เกี่ยวกับรีสอร์ทของเราอย่างไร
6."อีจ๋อย"ที่เขาว่ากัน มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันขนาดไหนกับพ่อ
7.คอกม้าที่แก่งคอย เป็นคอกม้าของเราใช่ไหม
8.ทำไม เวลาหนูทำงานอยู่บก.ตท. ทั้งที่มียศแค่ ส.ต.ต. แต่มีตำรวจเดินตามแวดล้อมหลายคน พ่อไม่เคยสั่งให้ใครมาตามหนูใช่ไหม
9.หนูเข้าอบรมเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรด้วยความสามารถของหนูล้วนๆใช่ไหม แต่ทำไมกลับมีลูกน้องพ่อออกมาตีโพยตีพายว่า พ่อจับหนูยัดเข้าไปแทนสิทธิเขา
10.หนูจะเป็นตำรวจที่ดีอย่างพ่อได้ไหม

เรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ ทำไมพ่อไม่ออกมาพูดความจริง หรือกระทำความจริงให้ปรากฏ หนูจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกสื่อ(แส่)มวลชนอีกต่อไป

ไม่รู้จะบอกถึงว่าที่ร.ต.ต.หญิงนวพร ว่าอย่างไร ขอส่งท้ายเพียงว่า "หากเราออกมาปฏิเสธความผิดที่ได้กระทำลงไปนั้น นั่นถือว่า เราได้กระทำผิดเป็นครั้งที่ 2 แล้ว"

ขอให้"น้องไก๋"โชคดีในอาชีพ"ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์"

เนื้อความจดหมายที่ส.ต.ต.หญิงนวพร เขียนถึงพล.ต.อ.พัชรวาท ผู้เป็นพ่อ
"วันนี้ควรเป็นฤกษ์ดีสำหรับทุกๆคน (09/09/09) รวมทั้งครอบครัววงษ์สุวรรณ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น วันนี้เป็นวันที่ลูกพ่อเรียนจบหลักสูตรตำรวจ หลักสูตรที่มีแรงกระทบตลอดเวลา ลูกพ่อตื่นมาด้วยความภาคภูมิใจ ในที่สุดวันนี้ที่พ่ออดทนเรื่อยมาก็มาถึง ทุกคนบอกว่าเป็นฤกษ์ดีที่จัดงานเลี้ยงในวันนี้ ทุกคนจะก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ตอนเช้านักเรียนอบรมทั้งหมดไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำโรงเรียนทั้ง 3 แห่ง จิตใจของลูกพ่อรู้สึกโล่งใจ ดีใจที่สามารถทำให้พ่อภูมิใจได้

แต่เหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อมีคำสั่งสายฟ้าผ่าให้พ่อไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่ บัดนี้เป็นต้นไป ไม่มีใครบอกลูกหรอก ลูกรู้จาก SMS พ่อรู้ไหมลูกแทบล้มทั้งยืน น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว รีบโทร.ไปหาพ่อ พ่อบอกว่าไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร ทำ หน้าที่ให้ดีที่สุดก็พอ ต้องอดทด อย่าให้ใครรู้ว่าเราเสียใจ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราทำถูกทุกอย่าง ถ้าเราร้องไห้ หรือโกรธเท่ากับเราทำผิด แต่เราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงหลังจากรู้ข่าว ลูกพ่อกลับรู้ข่าวที่สะเทือนใจยิ่งกว่า พ่อประกาศลาออก ลูกพ่อเสียใจมาก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา นอนไม่มีชีวิตจิตใจ โทร.ไปหา พ่ออีกที พ่อบอกแค่ว่า พ่อทำดีที่สุดแล้วลูก พ่อว่าเป็นวิธีที่สุดที่ทำให้ประเทศไม่แตกแยกที่สุดที่พ่อจะทำได้ ต่อไปลูกจะเป็นตำรวจ ลูกต้องปกป้องสถาบันและองค์กรให้ดีที่สุดเหมือนกันน่ะลูก ถามกลับพ่อไปว่าทำไมพ่อไม่ยอมพูดความจริงอะไรบ้าง ทำไมพ่อยอมให้เขาทำกับเราขนาดนี้ ทำไมพ่อต้องยอมอยู่คนเดียว ต้องอดทนอยู่ คนเดียว พ่อบอกแค่ว่า พ่อเป็นข้าราชการนะลูก ทำงานรับใช้สถาบันและบ้านเมือง เราจะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวไม่ได้ ต้องอดทนน่ะลูก จากนั้นแม่ก็บอกไก๋ผ่านสายโทรศัพท์ว่า ไม่เป็นไรน่ะลูก อดทนน่ะลูก พ่อเขาทำดีแล้ว พ่อเขาบอกแม่ไว้ก่อนแล้ว แม่จะไปร่วมแสดงความยินดีกับลูกนะ วันนี้วันดีนะลูก

ในที่สุดงานเลี้ยงก็เริ่มมีครอบครัวของนักเรียนอบรม บรรดาครู อาจารย์ ผู้บังคับบัญชา และเจ้าหน้าที่ในโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง พี่ๆตำรวจ คุณอาและพี่ๆในสำนักงานก็ทยอยมาแสดงความยินดีและให้กำลังใจ บอกว่า พ่อลงอย่างสง่างามที่สุด พ่อไม่โกรธ ไม่เคืองใคร คำสุดท้ายที่พ่อพูดก่อนอำลาตำแหน่งคือ ขอให้ ตำรวจทำหน้าที่ให้ดีที่สุด รักษาสถาบันและองค์กร ในความรู้สึกลูก พ่อทำหน้าที่ในการเป็นข้าราชการตำรวจจนวินาทีสุดท้ายของพ่อ ในชีวิตราชการกว่า 30 ปีของพ่อ พ่อได้ทำตามอุดมคติตำรวจอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด แต่พ่อรู้ไหม วันนี้ลูกต้องยิ้มแสดงความเข้มแข็ง แต่ในใจลูกเจ็บช้ำที่สุด ตลอดเวลาสามชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงดำเนินไป ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเริ่มต้นชีวิตข้าราชการของลูก แต่ มันอาจเป็นวันสุดท้ายในชีวิตราชการของพ่อในฐานะข้าราชการตำรวจ"






กำลังโหลดความคิดเห็น