xs
xsm
sm
md
lg

"รุ่งทิวา" เหยื่อสลายชุมนุม 7 ต.ค อาการดีขึ้น ยังมีสติเห็นรูป"พระราชินี" ถึงกับน้ำตาไหล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"นาวี" เผยภรรยา(รุ่งทิวา) เหยื่อสลายชุมนุม 7 ต.ค. อาการดีขึ้น มีสติรับรู้ได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์"พระราชินี" ถึงกับน้ำตาไหล สุดซึ้ง!!ระบุชีวิตนี้แม้ภรรยาจะพูดไม่ได้ แต่ขอให้ทานอาหารทางปากได้บ้างเท่านี้ก็พอใจแล้ว ขณะที่"นพ.ตุลย์" จวกคนสั่งสลายชุมนุม จิตใจโคตรอำหิต เตือนสติตำรวจ ต้องเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ใช้ผู้พิฆาตสันติราษฎร์ วอน ป.ป.ช. ดำรงค์ความยุติธรรม เอาตัวคนผิดมาลงโทษ


 
 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ “รู้ทันประเทศไทย

รายการ “รู้ทันประเทศไทย” ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 18.30-20.00 น. สำหรับวันศุกร์ ที่ 4 กันยายน 2552 โดยมี นายสันติสุข มะโรงศรี ดำเนินรายการ ได้รับเกียรติจาก นายนาวี ธาตุนิยม สามีของ นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม และนพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมพูดถึงชีวิตเหยื่อตำรวจทมิฬหลังสลายชุมนุม 7 ต.ค. 51

นายนาวี กล่าวถึงภรรยา (นางรุ่งทิวา) เคยพูดไว้ว่า ชีวิตนี้ขอทำเพื่อในหลวง เพื่อประเทศชาติ และทวงคืน ปตท. โดยมีแนวคิดให้ประชาชนในประเทศเข้าหุ้นซื้อ เพราะจะทำให้คนจนได้ใช้น้ำมันที่ถูก ถึงจะตายก็ยอม ทั้งนี้ด้วยอุดมการณ์รักชาติ หลังเธอได้เห็นข่าวจากโทรทัศน์ ตำรวจใช้ความรุนแรงกับพี่น้องพันธมิตรฯ จึงเดินทางกลับไปกรุงเทพฯอีก แม้จะเพิ่งกลับจากการร่วมชุมนุม ไม่ถึงสองชั่วโมงก็ตามที ด้วยความหวังว่า หากมีคนร่วมชุมนุมมากๆ จะทำให้ตำรวจยุติทำร้ายประชาชน แต่เหตุการณ์กลับทวีความรุนแรงตำรวจใช้ปืนยิงแก๊สน้ำตา สลายชุมนุม จนทำให้นางรุ่งทิวา ตาด้านซ้ายหลุด กะโหลกศีรษะแตก เนื้อสมองบางส่วนสูญหาย โอกาสรอดริบหรี่ โดยตั้งแต่หลังจาก 7 ต.ค. เป็นต้นมาเธอยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล และยังไม่ได้กลับบ้านอีกเลย

นายนาวี กล่าวถึงอาการของภรรยา ว่า มีอาการดีขึ้นกว่าเดิมมาก ตอนนี้สามารถเคลื่อนไหวแขนซ้ายได้แล้ว ส่วนการมองเห็นตาขวา ตนได้ลองเอาพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปให้เธอดูเนื่องจากวันนั้นเป็นวันแม่ ปรากฏว่า หลังจากที่เธอดูสักพัก หน้าเริ่มแดงประกอบกับมีน้ำตาไหลออกมา ด้วยเหตุนี้ตนเชื่อว่ายังมองเห็นแต่ต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก อย่างไรก็ตามตนไม่ขออะไรมาก แม้เขาจะพูดไม่ได้ แต่ขอให้ทานอาหารทางปากได้บ้างเท่านี้ก็พอใจแล้ว

“วันแรกที่เห็นสภาพความบอบช้ำของภรรยา จากการสลายชุมนุม ตนคิดว่า100% ไม่มีโอกาสรอด ที่เขาอยู่ได้มาถึงทุกวันนี้ ยิ่งกว่าปาฎิหารย์ เหมือนได้เกิดใหม่” นายนาวี กล่าว

นายนาวี กล่าวต่อว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีความเสียหาย มีคนเจ็บ มีคนตาย และย่อมมีคนสั่งการ ดังนั้นต้องเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะหากไม่มีใครรับผิดชอบ หรือทุกอย่างถูกยกเลิกหมด สักวันข้างหน้าคงต้องเกิดเรื่องแบบนี้อีกอย่างไม่จบสิ้น แล้วอย่างนี้ประชาชนในประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร

นพ.ตุลย์ กล่าวถึงสาเหตุที่ ของนางรุ่งทิวา สามารถขยับแขนข้างซ้ายได้ ส่วนแขนขวาไม่มีความรู้สึกไม่สามารถใช้การได้นั้น เพราะปกติสมองแต่ละซีกจะสั่งการตรงกันข้ามกับอวัยวะ ด้วยเหตุที่สมองข้างขวายังปกติ จึงทำให้ยังควบคุมการเคลื่อนไหวของแขนขาด้านซ้ายได้ อย่างไรก็ตาม สมองที่เกี่ยวกับการรับรู้ด้านภาษา ส่วนใหญ่มักอยู่ทางด้านซ้าย จึงอาจมีปัญหาด้านการับรู้บ้าง ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์แรกมีโอกาสตายมากกว่าเป็น ตอนนี้ได้พ้นช่วงวิกฤติมาแล้ว สามารถรับทานอาหารเหลวทางสายยางได้

นพ.ตุลย์ กล่าวว่า จิตใจคนที่สั่งการสลายการชุมนุมอย่างป่าเถื่อน ในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นการกระทำที่อำหิตมาก ทำทุกอย่างเพียงเพื่อเปิดทางให้ได้เข้าไปเถลิงอำนาจ จนไม่เห็นแก่ชีวิตประชาชน คนอย่างนี้ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะขึ้นมาเป็นตัวแทนของมวลชน

ส่วนตำรวจที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ก็จะอ้างเป็นคำสั่งจากผู้มีอำนาจต้องปฏิบัติตามไม่ได้ ต้องสำนึก ว่าโดยหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ไม่ใช้ผู้พิฆาตสันติราษฎร์ โดยในช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. มีการใช้กำลัง ซึ่งเห็นผลได้ว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ แล้วสามารถที่จะหยุดได้ แต่ก็ยังทำอยู่

นพ.ตุลย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ข้อสรุปของกรรมการสิทธิฯ ที่ว่า “การบาดเจ็บของประชาชน เป็นผลโดยตรงจากเจ้าหน้าที่ที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม และกระทำเกินความจำเป็น โดยใช้ระเบิดและแก๊สน้ำตา เข้าสลายการชุมนุม เมื่อ 7 ต.ค. 2551 เข้าข่ายกระทำความผิด ฆ่าหรือพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” เป็นข้อสรุปที่ครบถ้วนและถูกต้อง หวังว่า ป.ป.ช. จะดำรงซึ่งคุณความยุติธรรม นำตัวคนผิดมาลงโทษ โดยพิจารณาจากความเสียหายที่ปรากฏ ไม่อย่างนั้นจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า คนกระทำความผิดก็จะลอยนวลในทุกครั้งที่กระทำความผิด
นายนาวี ธาตุนิยม
นพ.ตุลย์  สิทธิสมวงศ์
นางรุ่งทิวา ธาตุนิยม

กำลังโหลดความคิดเห็น