“ตุลย์ สิทธิสมวงศ์” พร้อมคณะ ยื่นหนังสือ “ประสพสุข” ถอดถอน “ส.ส.-ส.ว.” ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ส่อขัดมาตรา 122-157 ของรัฐธรรมนูญ
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.15 น.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา เพื่อแจ้งความจำนงในการรวบรวมรายชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน ส.ว.และ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 โดยมี นายวุฒิชัย วัชรีรัตน์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ตนและคณะมีความประสงค์ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ในการเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ในการถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ได้เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัว ส.ส.และ ส.ว.ผู้ยื่นญัตติดังกล่าว เป็นการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนั้น ตนและคณะจึงขอกล่าวหา ส.ส.และ ส.ว.ดังกล่าวดังนี้ 1.เป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 122 เพราะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และส่อว่ากระทำต่อตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และ 2.เป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งจะต้องถูกดำเนินการตามมาตรา 275 ด้วย ดังนั้นตนและคณะจึงมีหนังสือแจ้งความจำนงขอแสดงตนเพื่อดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนจำนวนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นรายชื่อนำมายื่นต่อประธานวุฒิสภาต่อไป
วันนี้ (2 ก.ย.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.15 น.นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะ เดินทางมายื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา เพื่อแจ้งความจำนงในการรวบรวมรายชื่อ เพื่อยื่นถอดถอน ส.ว.และ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 โดยมี นายวุฒิชัย วัชรีรัตน์ รองเลขาธิการวุฒิสภา เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า ตนและคณะมีความประสงค์ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ในการเข้าชื่อร้องขอต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ในการถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่ได้เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตัว ส.ส.และ ส.ว.ผู้ยื่นญัตติดังกล่าว เป็นการกระทำขัดกันแห่งผลประโยชน์ ดังนั้น ตนและคณะจึงขอกล่าวหา ส.ส.และ ส.ว.ดังกล่าวดังนี้ 1.เป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 122 เพราะเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และส่อว่ากระทำต่อตำแหน่งหน้าที่ เป็นความผิดตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 270 และ 2.เป็นการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งจะต้องถูกดำเนินการตามมาตรา 275 ด้วย ดังนั้นตนและคณะจึงมีหนังสือแจ้งความจำนงขอแสดงตนเพื่อดำเนินการรวบรวมรายชื่อประชาชนจำนวนไม่น้อยกว่า 2 หมื่นรายชื่อนำมายื่นต่อประธานวุฒิสภาต่อไป