xs
xsm
sm
md
lg

ดีเอสไอบ้อท่า ชงอัยการยื่นศาลสั่งนักธุรกิจซาอุฯ สาบสูญ!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ดีเอสไอชงอัยการยื่นคำร้องขอศาลสั่งนักธุรกิจซาอุฯ ถูกอุ้มหาย เมื่อ 19 ปีที่แล้วให้เป็นบุคคลสูญหาย อัยการเผยมีผลต่อการจัดการมรดกของครอบครัวผู้ตาย ส่วนคดีอาญาดีเอสไอจะต้องสืบสวนต่อไป ศาลนัดไต่สวน 19 ต.ค.นี้

วันนี้ (2 ก.ย.) ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง นายวิรัช สุวัธนะเชาว์ อัยการผู้เชี่ยวชาญฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 2 สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายอัลลู ไวรี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย เป็นบุคคลสาบสูญ

ตามคำร้องสรุปว่า นายอัลลู ไวรี เดินทางเข้ามาและพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกินกว่า 5 ปี โดยอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยเย็นอากาศ เขตยานนาวา กทม. ประกอบอาชีพเปิดบริษัทจัดหาแรงงานไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลาง ชื่อบริษัท ซินเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใน ซ.ลาดพร้าว 94 ต่อมาในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2533 เวลา 09.00 น. นายอโรเวรีขับรถยนต์ยี่ห้อเปอโยต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปทำงาน และเวลา 15.00 น.นายอัลลู ไวรี ได้โทรศัพท์ติดต่อหาภรรยาบอกว่ากำลังเดินทางออกจากที่ทำงานและจะไปรับกลับบ้านด้วยกัน หลังจากนั้นนายอัลลู ไวรี ได้หายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้อีก โดยสถานทูตประเทศซาอุดีอาระเบียประจำประเทศไทย เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ต่อมาพบรถยนต์ของนายอัลลู ไวรี จอดไว้ที่โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ถนนสีลม และในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2533 กรมตำรวจ (ขณะนั้น) ประกาศสืบหาคนหายแล้วแต่ก็ไม่พบ พนักงานอัยการเห็นว่า นายอัลลู ไวรี ได้หายไปจากภูมิลำเนาเกินกว่า 5 ปี โดยไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จึงขอให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งให้ นาอัลลู ไวรี เป็นบุคคลสาบสูญ ศาลรับคำร้องไว้พิจารณาและนัดไต่สวนวันที่ 19 ต.ค. เวลา 13.00 น.

ภายหลังนายดุลยพิชัย มหาวีระ อัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 2 กล่าวว่า คดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ประสานขอให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำสั่ง ให้นายอัลลู ไวรี เป็นบุคคลสาบสูญ เพื่อที่ญาตินายอัลลู ไวรี จะได้นำคำสั่งศาลไปจัดการทรัพย์สินของนายอัลลู ไวรี เท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะต้องสืบสวนสอบสวนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัลลู ไวรี ถูกอุ้มหายไปเมื่อประมาณปี 2533 พร้อมกับคดีสังหารเจ้าหน้าที่สถานฑูตซาอุฯ โดยทั้งสองคดีเป็นเรื่องกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หลังจากนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ได้รับคดีทั้งสองคดีมาเป็นคดีพิเศษ พร้อมกับสอบสวนเรื่องนี้ และมีการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคลปากใดให้การอ้างอิงได้ว่านายอัลลู ไวรี เสียชีวิตหรือไม่ ดังนั้น ดีเอสไอจำเป็นต้องสอบพยานที่เป็นญาติ พี่น้อง และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบสำนวนคดี ก่อนจะนำมาสรุปสำนวนได้ว่านายอัลลู ไวรี เสียชีวิตจริง เพราะทางการประเทศซาอุฯ ต้องการความชัดเจนทางคดีจากประเทศไทย ก่อนจะครบ 20 ปีคดีจะหมดอายุความลงในปี 2553
กำลังโหลดความคิดเห็น