นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีศาลอนุมัติหมายจับนายอาบู อาลี ชาวอาหรับเป็นผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมนายอัลลุเลาะห์ เอ อัล เบซารีห์ เลขานุการโทของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบีย เมื่อ 19 ปีที่แล้วว่า การออกหมายจับครั้งนี้เป็นความคืบหน้าของคดี หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปรับผิดชอบ 4-5 ปีมานี้ ก่อนหน้านี้อยู่ในการสอบสวนของตำรวจ ที่ไม่รู้แม้แต่ว่าจะจับใคร ทำให้กระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ การออกหมายจับครั้งนี้ทำให้รู้รูปพรรณสันฐานของคนร้าย แม้ยังไม่รู้ว่าตัวอยู่ที่ใด แต่ขั้นตอนต่อไป คือต้องติดตามตัวนายอาบู อาลี เมื่อนายกรัฐมนตรี ให้ความสนใจคดีนี้ และคดีมีความคืบหน้า น่าจะยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตได้
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับอธิบดีดีเอสไอให้รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อสรุปสำนวนสั่งฟ้องให้ทันก่อนคดีหมดอายุความ 20 ปี มั่นใจว่าจะสรุปสำนวนได้ทัน ขณะนี้มีหมายจับผู้ต้องหาเพียง 1 คน แต่เชื่อว่าการกระทำในคดีนี้ทำเป็นขบวนการที่มีความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ไม่เกี่ยวกับไทย
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ได้กำชับอธิบดีดีเอสไอให้รวบรวมพยานหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อสรุปสำนวนสั่งฟ้องให้ทันก่อนคดีหมดอายุความ 20 ปี มั่นใจว่าจะสรุปสำนวนได้ทัน ขณะนี้มีหมายจับผู้ต้องหาเพียง 1 คน แต่เชื่อว่าการกระทำในคดีนี้ทำเป็นขบวนการที่มีความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง ไม่เกี่ยวกับไทย