แต่งตั้งตำรวจยุค “พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” สุดชุ่ย พบตั้งตำรวจ 2 นาย นั่งตำแหน่งเดียวกัน เบิกเงินเดือนตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 นาย ขณะที่ อนุ ก.ตร.ชี้ชัด เป็นคำสั่งมิชอบ โบ้ยจะดำเนินการปรับให้ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจรับโครงสร้างใหม่
จากกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการบริหารงานในตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง ตามที่คณะอนุกรรมการ ก.ตร.คณะพิเศษ กำลังตรวจสอบอยู่ รวมทั้งเรื่องการยื้อสอบเอาผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง แก่ พล.ต.ต.พิชิตพล แจ่มโสภณ ผบก.อก.บช.ส.เพื่อนร่วมรุ่น โดยได้ดองเรื่องไว้ที่กองวินัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเวลานานร่วม 1 ปี ขณะที่ พล.ต.ต.พิชิตพล จะเกษียนอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้
วันนี้ (28 ส.ค.) ทีมข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้รับการหนังสือคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ในยุคของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เป็นการแต่งตั้งซ้ำซ้อนกัน โดย 1 ตำแหน่ง มีตำรวจ 2 นาย และเมื่อตรวจสอบเอกสารบัญชีแนบท้ายคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 52/2551 ลงวันที่ 18 มกราคม 2551 หน้า 7 ลำดับที่ 77 พ.ต.ท.เรวัฒน์ ชวาลา ตำแหน่งเดิม รอง ผกก.4 บก.ส.3 ตำแหน่งเลขที่ สส.1-174 ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ เป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตำแหน่งเลขที่ 2404 ต่อมาได้มีคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ 370/2551 เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ สั่ง ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ลงนามโดย พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล โดยมีบัญชีแนบท้ายคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจสันติบาลที่ 370/2551 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ลำดับที่ 23 มี พ.ต.ท.นิตินัย ไชยพิเดช ตำแหน่งเดิม รอง ผกก.3 บก.ส.3 เลขตำแหน่ง 21208 ตำแหน่งใหม่ ผกก.4 บก.ส.3 เลขตำแหน่ง 2404
อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ต.อ.เรวัฒน์ ชวาลา ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตามคำสั่ง ตร.ที่ 52/2551 ลงวันที่ 18 มกราคม 2551 ส่วน พ.ต.อ.นิตินัย ไชยพิเดช ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตามคำสั่ง บช.ส.ที่ 370/2551 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งถือเป็นการแต่งตั้งที่ซ้ำซ้อนกัน
ต่อมา พ.ต.อ.เรวัฒน์ ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ซึ่งขณะนี้ อนุ ก.ตร.ชี้ลงมาว่า คำสั่งแต่งตั้งของ บช.ส.(ที่ 370/2551) ไม่ชอบ และเพื่อแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว ทางทะเบียนพล บช.ส.แจ้งว่าจะดำเนินการปรับให้ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในคราวนี้ (แต่งตั้งรับโครงสร้างใหม่)
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบัน พ.ต.อ.เรวัฒน์ ยังรับเงินเดือนในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 ขณะที่ พ.ต.อ.นิตินัย ก็รับเงินเดือนในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีการเบิกเงินประจำตำแหน่งทั้ง 2 นาย
นอกจากนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า การแต่งตั้ง พ.ต.อ.นิตินัย มานั่งตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 ทั้งที่ พ.ต.อ.เรวัฒน์ ยังอยู่ในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 อาจจะมีเจตนาเพื่อให้ พ.ต.อ.นิตินัย มากินตำแหน่ง ผกก.(แบบลักไก่) เพื่อรอปรับเข้าสู่ตำแหน่งหลัก ในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ รับโครงสร้างใหม่ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเป็นที่มาต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ข่าวปรากฏว่า กก.4 บก.ส.3 มีผกก. 2 คน จึงได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเรื่อง ได้แสดงความตกใจ พร้อมทั้งสอบถามกลับมาว่า ทราบข่าวดังกล่าวมาได้อย่างไร เพราะเรื่องดังกล่าว ถูกเก็บเป็นความลับ และพยายามดำเนินการแก้ไขอย่างเงียบที่สุด แต่ก็ยอมรับว่า กก.4 บก.ส.3 มีผกก.2 คนซ้อนกันจริง ซึ่งเรื่องนี้ ทางกำลังพลกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ ส่วนเงินประจำตำแหน่งนั้น ยังไม่มีใครเบิก แต่หากจะเบิก ก็ต้องเป็นนายตำรวจเพียงคนเดียว ไม่ใช่ 2 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ บก.ส.3 นั้นมีหน้าที่ดำเนินการ ควบคุม และบริหารงานการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ บุคคลสำคัญฝ่ายไทยและต่างประเทศ และสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ งานการต่อต้านข่าวกรองด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา ความมั่นคงปลอดภัย วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม และงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ส่วน กก.4 ซึ่งขึ้นตรงต่อ บก.ส.3 นั้น มีหน้าที่ดำเนินการ ควบคุม และบริหารงานรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และบุคคลสำคัญภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล บ้านพิษณุโลก บ้านมนังคศิลา และงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย โดยปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
(1) ปฏิบัติงานธุรการ และงานสารบรรณ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
(2) รักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และบุคคลสำคัญภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ราชการใกล้เคียง ได้แก่ สำนักงาน ก.พ.และสำนักงาน ป.ป.ช.
(3) รักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลา
(4) งานอื่นๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
จากกรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการบริหารงานในตำแหน่ง ผบ.ตร.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง ตามที่คณะอนุกรรมการ ก.ตร.คณะพิเศษ กำลังตรวจสอบอยู่ รวมทั้งเรื่องการยื้อสอบเอาผิดทางอาญาและวินัยร้ายแรง แก่ พล.ต.ต.พิชิตพล แจ่มโสภณ ผบก.อก.บช.ส.เพื่อนร่วมรุ่น โดยได้ดองเรื่องไว้ที่กองวินัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเวลานานร่วม 1 ปี ขณะที่ พล.ต.ต.พิชิตพล จะเกษียนอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้
วันนี้ (28 ส.ค.) ทีมข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้รับการหนังสือคำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ในยุคของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่เป็นการแต่งตั้งซ้ำซ้อนกัน โดย 1 ตำแหน่ง มีตำรวจ 2 นาย และเมื่อตรวจสอบเอกสารบัญชีแนบท้ายคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 52/2551 ลงวันที่ 18 มกราคม 2551 หน้า 7 ลำดับที่ 77 พ.ต.ท.เรวัฒน์ ชวาลา ตำแหน่งเดิม รอง ผกก.4 บก.ส.3 ตำแหน่งเลขที่ สส.1-174 ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ เป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตำแหน่งเลขที่ 2404 ต่อมาได้มีคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ที่ 370/2551 เรื่องการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ สั่ง ณ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ลงนามโดย พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล โดยมีบัญชีแนบท้ายคำสั่ง กองบัญชาการตำรวจสันติบาลที่ 370/2551 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ลำดับที่ 23 มี พ.ต.ท.นิตินัย ไชยพิเดช ตำแหน่งเดิม รอง ผกก.3 บก.ส.3 เลขตำแหน่ง 21208 ตำแหน่งใหม่ ผกก.4 บก.ส.3 เลขตำแหน่ง 2404
อย่างไรก็ตาม เมื่อ พ.ต.อ.เรวัฒน์ ชวาลา ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตามคำสั่ง ตร.ที่ 52/2551 ลงวันที่ 18 มกราคม 2551 ส่วน พ.ต.อ.นิตินัย ไชยพิเดช ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผกก.4 บก.ส.3 ตามคำสั่ง บช.ส.ที่ 370/2551 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งถือเป็นการแต่งตั้งที่ซ้ำซ้อนกัน
ต่อมา พ.ต.อ.เรวัฒน์ ได้ทำเรื่องร้องเรียนไปที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ซึ่งขณะนี้ อนุ ก.ตร.ชี้ลงมาว่า คำสั่งแต่งตั้งของ บช.ส.(ที่ 370/2551) ไม่ชอบ และเพื่อแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าว ทางทะเบียนพล บช.ส.แจ้งว่าจะดำเนินการปรับให้ในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในคราวนี้ (แต่งตั้งรับโครงสร้างใหม่)
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบัน พ.ต.อ.เรวัฒน์ ยังรับเงินเดือนในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 ขณะที่ พ.ต.อ.นิตินัย ก็รับเงินเดือนในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีการเบิกเงินประจำตำแหน่งทั้ง 2 นาย
นอกจากนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า การแต่งตั้ง พ.ต.อ.นิตินัย มานั่งตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 ทั้งที่ พ.ต.อ.เรวัฒน์ ยังอยู่ในตำแหน่ง ผกก.4 บก.ส.3 อาจจะมีเจตนาเพื่อให้ พ.ต.อ.นิตินัย มากินตำแหน่ง ผกก.(แบบลักไก่) เพื่อรอปรับเข้าสู่ตำแหน่งหลัก ในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งใหญ่ รับโครงสร้างใหม่ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า มีการซื้อขายตำแหน่งเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเป็นที่มาต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ข่าวปรากฏว่า กก.4 บก.ส.3 มีผกก. 2 คน จึงได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเมื่อผู้ที่เกี่ยวข้องทราบเรื่อง ได้แสดงความตกใจ พร้อมทั้งสอบถามกลับมาว่า ทราบข่าวดังกล่าวมาได้อย่างไร เพราะเรื่องดังกล่าว ถูกเก็บเป็นความลับ และพยายามดำเนินการแก้ไขอย่างเงียบที่สุด แต่ก็ยอมรับว่า กก.4 บก.ส.3 มีผกก.2 คนซ้อนกันจริง ซึ่งเรื่องนี้ ทางกำลังพลกำลังดำเนินการแก้ไขอยู่ ส่วนเงินประจำตำแหน่งนั้น ยังไม่มีใครเบิก แต่หากจะเบิก ก็ต้องเป็นนายตำรวจเพียงคนเดียว ไม่ใช่ 2 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ บก.ส.3 นั้นมีหน้าที่ดำเนินการ ควบคุม และบริหารงานการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ พระราชอาคันตุกะ บุคคลสำคัญฝ่ายไทยและต่างประเทศ และสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ งานการต่อต้านข่าวกรองด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา ความมั่นคงปลอดภัย วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม และงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ส่วน กก.4 ซึ่งขึ้นตรงต่อ บก.ส.3 นั้น มีหน้าที่ดำเนินการ ควบคุม และบริหารงานรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และบุคคลสำคัญภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล บ้านพิษณุโลก บ้านมนังคศิลา และงานอื่นๆ ที่ได้รับมอบหมาย ตลอดจนปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย โดยปฏิบัติหน้าที่ ดังนี้
(1) ปฏิบัติงานธุรการ และงานสารบรรณ ที่อยู่ในความรับผิดชอบ
(2) รักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ และบุคคลสำคัญภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล และสถานที่ราชการใกล้เคียง ได้แก่ สำนักงาน ก.พ.และสำนักงาน ป.ป.ช.
(3) รักษาความปลอดภัยบริเวณบ้านพิษณุโลกและบ้านมนังคศิลา
(4) งานอื่นๆ ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
