ป๊อดแน่! เจอหมูไม่กลัวน้ำร้อน
“คุณหนู” นายร้อยตำรวจ “รุ่นเทวดา”
จะปลดก็ปลดไม่ปลดก็บอกมา
00...เกิดเรื่องหมูไม่กลัวน้ำร้อนขึ้นเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) เมื่อ ด.ต.รัฐภูมิ โพธิ์ศรีดา ผบ.หมู่ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมตำรวจชั้นประทวนจำนวนหนึ่ง ซึ่งได้รับการขึ้นบัญชีให้เลื่อนชั้นเป็นข้าราชการชั้นสัญญาบัตร เข้าร้องเรียนต่อ นายวัชระ เพชรทอง โฆษกคณะอนุกรรมาธิการการมีส่วนร่วมของประชาชน และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรม และให้มีการตรวจสอบคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจชั้นประทวนขึ้นเป็นชั้นสัญญาบัตร ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เนื่องจากมีการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมต่อตำรวจชั้นประทวนที่ได้รับการขึ้นบัญชีไว้ จำนวน 423 นาย เพราะมีการแต่งตั้งบุคคลภายนอก และไม่ผ่านการสอบขึ้นเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นจำนวนมาก ซึ่งในจำนวนนั้นมีบุตรสาวของ พล.ต.อ.พัชรวาท คือ ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ นอกจากนี้ ยังมีบุตรชายของ พล.ต.อ.ชัจจ์ กุลดิลก คือ ส.ต.ต.ทรงพันธ์ กุลดิลก รวมอยู่ด้วย และที่ผ่านมาได้ยื่นเรื่องให้หลายหน่วยงานดำเนินการตรวจสอบแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ดังนั้นจึงต้องมาร้องขอความเป็นธรรมจากสภาผู้แทนราษฎร อีกทั้งจะเดินทางไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย....
ที่ ด.ต.รัฐภูมิ เปิดหมวกลุยใส่ “บิ๊กป๊อด” เต็มๆ ในงานนี้ เป็นเพราะสิทธิที่ชอบธรรมของตนเองถูกขโมยไป โดยผู้มีอำนาจ ขวัญกำลังใจของพวกเขาจะหาได้จากที่ไหน ในเมื่อผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วย ทำตัวเป็นแมวขโมยปลาย่างไปให้ลูกสาวเสียเอง ส่วนหลักฐานจะชัดเจนแค่ไหนนั้น ต้องรอดูที่อนุ กมธ.การมีส่วนร่วมของประชาชน และการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ สภาผู้แทนราษฎร และที่ ป.ป.ช. ส่วนที่ ด.ต.รัฐภูมิ ทำตัวเป็นหมูไม่กลัวน้ำร้อนนั้น ไม่ได้มีแบ็กฯดีอะไรเป็นพิเศษ แกคงแค่ดูตำแหน่ง พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ลงท้ายว่า ผบ.ตร.แล้ว คงเชื่อว่า ตำแหน่งเท่ากัน เพียงแต่ ด.ต.รัฐภูมินั้น มีตำแหน่งเป็น ผบ.หมู่ ก็ ผบ.ครือออกันแค่นั้นเอง...
00...สอดคล้องกับกรณีดังกล่าวข้างต้นยิ่งนัก เมื่อภายในโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อันมีฐานะเทียบเท่าเป็นกองบัญชาการ มีข่าวปิดกันสะพัดทั่งไปทั้งทุ่งสามพรานว่า กำลังมีนักเรียน “รุ่นเทวดา” เข้าไปอบรม ซึ่งเดิมทีนั้นที่โรงเรียน นรต.แห่งนี้ มีแต่ นรต.รุ่นนั้นรุ่นนี้ และนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นนั้นรุ่นนี้ ไม่เข้าใจว่ามี “รุ่นเทวดา” มาได้อย่างไร คั้นพอได้ประเด็นมา จึงไม่รอช้า รีบลงพื้นที่สืบเสาะหาข่าวในทันที แต่กลับไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันกลับมา
มาฟ้าแจ้งจางปางกระจ่างใสอีกที ก็คนใกล้ชิด ผบ.ตร.มาบอกว่า มีการสั่งการและกำชับให้บรรดา “ครู” และเหล่ารุ่นพี่ พึงสังวรณ์ไว้ในใจตลอด 6 เดือนของการอบรมนายร้อยใหม่ว่า ห้าม “ว้าก” ใส่ผู้เข้าอบรมเด็ดขาด มิฉะนั้นอาจ “หัวขาด” ไม่รับประกัน ซึ่งการอบรมก็กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี ให้เผอิญวันหนึ่ง “ครู” หรือรุ่นพี่นี่แหละ ไป “ว้าก” ใส่ “คุณหนู” เข้า ด้วยเผลอลืมตั้งสติที่ได้สังวรณ์มาตลอดตามคำสั่งที่ได้รับมา ต่อมาคล้อยหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีการสั่งการให้ “ย้าย” กันระเนระนาดในโรงเรียน นรต.แห่งนั้น คำว่า “รุ่นเทวดา” จึงปรากฏขึ้น ณ ทุ่งสามพรานตั้งแต่นั้นมา โดยรุ่นที่ว่า มี ส.ต.ต.(หญิง) นวพร วงษ์สุวรรณ ลูกสาว ผบ.ตร.เข้ารับการอบรมด้วย แต่ ส.ต.ต.(หญิง)นวพร จะเป็น “คุณหนู” ที่ร่วม “รุ่นเทวดา” ด้วยหรือไม่นั้น คนใกล้ชิดไม่กล้ายืนยัน
00...เห็นการทำงานในตำแหน่ง ผบ.ตร.ของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ กับรัฐบาลภายใต้การบังคับบัญชาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว มันผลุบๆ โผล่ๆ เหมือน “ลูกเต่า” อย่างไรไม่ทราบ เดี๋ยวให้ไปราชการที่ต่างประเทศก็ไป แต่ดันกลับก่อนกำหนด ถัดมาให้ไปราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ไป แต่ก็กลับมาก่อนกำหนดอีก จึงอยากจะถามในฐานะประชาชนว่า จะเอากันอย่างไร จะปลดก็ปลดเสียให้สิ้นเรื่องราว จะให้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.ต่อจนถึงเกษียณก็ให้นั่งไปให้เต็มตัว อย่าได้เล่มเกมอะไรกันอีกเลย งานตำรวจมันไม่เดินแล้วผลก็จะตกอยู่ที่ประชาชนคนตาดำๆ
00...หลายวันก่อน รู้สึกประทับใจกับคำพูดของ พล.ต.อ.สวัสดิ์ อมรวิวัฒน์ อดีต อ.ตร.ที่ไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง และถูกถามทำนองว่า มองอย่างไรที่ตำรวจ เอาตัวเข้าไปเกี่ยวกับการเมืองเสียเอง ซึ่ง พล.ต.อ.สวัสดิ์ ก็ตอบคำถามไปตามเหตุและผล แต่วรรคสุดท้าย รู้สึกประทับใจอย่างยิ่งที่ พล.ต.อ.สวัสดิ์ บอกว่า “ถ้าตำรวจยังเข้าไปกราบตีนนักการเมืองอยู่ แล้วจะให้แยกตำรวจออกจากการเมืองได้อย่างไร” เอวัง...
“พัชรวาท” ปัดตอบส่งลูกสาวติดดาว “รุ่นเทวดา!”