พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 9 (ตท.9) นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 (นรต.25) รุ่นเดียวกับคนข้างๆ ที่ถือเป็นเพื่อนสุดสนิท ถือเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพียงคนเดียว ที่ถูกเด้งจากตำแหน่งไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ไม่นาน กลับได้มาปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.อีกครั้งจวบปัจจุบัน นัยว่า ไม่ได้มียาดี หรือกำลังภายในสูงส่งประการใด แต่มีพี่ชายดีที่ชื่อ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" รมว.กลาโหม อดีตผบ.ทบ.
การก้าวย่างในอาชีพราชการ ได้เติบโตมาตามลำดับ จนกระทั่งมีการปลด"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช" จากผบ.ตร. จึงได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการ และเป็น ผบ.ตร.ในที่สุด แต่ทว่า เมื่อนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.แล้ว มีผลงงานที่อาจกลายเป็นตราบาปไปชั่วชีวิต นั่นคือ การสั่งให้มีการสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 จนถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจจะอยู่ไม่รอดถึงเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.นี้
ปัจจุบัน แม้จะเป็นผู้นำสูงสุดของหน่วย ที่น่าจะเป็น"ดาวดัง ค้างฟ้า" ตามกระแสข่าวต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับกลายเป็นว่า "ดับสนิท" หลังจากกลับมาเป็น ผบ.ตร.รอบ 2 โดยเฉพาะการออกคำสั่งให้ตำรวจได้รายงานเรื่องราว หรือสถานการณ์ต่างๆ ตรงไปยัง"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" รองนายกรัฐมนตรีได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่าน ผบ.ตร.! ซึ่งก็เหมือนตำแหน่ง ผบ.ตร.นั้นไร้ความหมาย จึงถือเป็น"ดาวดับ"ทางความคิด ในฐานะผู้นำสูงสุดของหน่วย!
พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์
มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 รุ่นเดียวกับ "พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ" แต่อายุอ่อนกว่า 1 ปี จึงมีอายุราชการไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 2553 "พล.ต.ท.บุญเรือง" เป็นที่รู้จักของสังคมมากขึ้น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และระหว่างดำรงตำแหน่งดังกล่าว ถูกคำสั่งจาก"พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส" ผบ.ตร. ในขณะนั้น ให้ไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดการฟ้องร้องกันหลายคดี ทำให้ชื่อ"บุญเรือง ผลพานิชย์"เป็นที่ติดหูติดปากของผู้คน
ต่อมา ถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ (สบ 8) ก่อนจะเข้าเป็นผบช.ประจำ และกลับมาผงาดขึ้นชั้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร. เมื่อเพื่อนร่วมรุ่นคนสนิทขึ้นเถลิงเก้าอี้เป็น ผบ.ตร. จากนั้นทั้งในสายตาของสื่อมวลชนประจำ ตร. และเหล่าชาวสีกากี ต่างก็รับรู้และเห็นด้วย 2 นัยตาของทุกผู้ ทุกคนว่า เมื่อปรากฏกาย"บิ๊กป๊อด" หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท ณ ที่แห่งหนตำบลใด เป็นอันเชื่อขนมกินได้เลยว่า ต้องเห็น พล.ต.ท.บุญเรือง เสมือนหนึ่งเป็นเงาตามตัว ส่วนในที่รโหฐาน จะเห็นเป็นเงาตามตัวกันสองต่อสองด้วยหรือไม่ สายข่าวไม่ได้แจ้ง นอกจากเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ ผบ.ตร.แล้ว ยังมีดีกรีเป็นน้องชายของ"นายบุญถึง ผลพานิชย์" อดีตหลานรักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ คนหนึ่งด้วย
ณ วินาทีก่อนหน้านี้ และวินาทีนี้ ต้องถือว่า พล.ต.ท.บุญเรือง จัดเป็น"ดาวเด่น"ได้อย่างสมน้ำ สมเนื้อ ไร้ที่ติ เพราะความจริงใน สตช.ถนนทุกสาย ไม่ว่า"สายนอก สายใน และนอกสาย" ต่างมุ่งไปยังสำนักงานของ พล.ต.ท.บุญเรืองทั้งทาง"ประตูหน้า-ประตูหลัง"กันจนหัวบันไดไม่แห้ง อย่างที่คำโบราณว่าไว้...ด้วยสายต่างๆเหล่านั้นเห็นตรงกันว่า "เป็นคนข้างกาย"ของ ผบ.ตร. จึงถือได้ว่า "เด่นจรัส"อยู่จนถึงขณะนี้