“...มีการกล่าวหากันว่ามีการซื้อขายตำแหน่งกัน โดยคนใกล้ชิดผู้มีอำนาจใน สตช. หรือที่คนใน สตช.เรียกกันว่า อีจ๋อย...”
นั่นคือคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เป็ดเหลิม” ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ได้ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวซื้อขายตำแหน่ง ที่พอจะจับใจความและนำมาเป็น ประเด็นสืบหาตัวตนที่แท้จริงของบุคคลที่ชื่อว่า “อีจ๋อย” คนใกล้ชิดผู้มีอำนาจใน สตช.ว่า...เขาคนนั้นเป็นใคร มีตัวตนที่แท้จริงหรือไม่ ?....หรือ ร.ต.อ.เฉลิม จำสับสน หรือมีเจตนา พูดชื่อผิด เพื่อป้องกันถูกฟ้องร้อง ตามสไตล์ ดร.เป็ดเหลิม...
ขณะที่เจ้าของฉายา “วอลเปเปอร์”... นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เปิดโปงโจรในเครื่องแบบตั้งโต๊ะซื้อขายตำแหน่ง ก็ไม่ได้เมินเฉยต่อชื่อ “อีจ๋อย”...โดยบอกว่า...การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาเอ่ยชื่อ “อีจ๋อย” อยากถามว่าเคยใช้บริการคนคนนี้หรือไม่ เพราะตนไม่เคยใช้บริการแน่นอน และเรื่องนี้มีความพยายามปลอมลายเซ็นตน โดยนายศิริโชคบอกว่า ถ้ารู้จัก “อีจ๋อย” จริง ฝากไปบอกด้วยว่า ถ้าจะปลอมลายเซ็นก็ให้เป็นภาษาอังกฤษ...
การเปิดโปงขบวนการซื้อขายตำแหน่ง ที่มีชื่อ “อีจ๋อย” เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดเสียงดังฟังชัดในที่ประชุมสภา ตอนบ่ายแก่ๆ ก่อน (ด.ช.มาร์ค) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าประชุม ก.ต.ช.เพื่อลงมติเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ แทน “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผู้รอวันลาลับ...และการออกมาแก้ลำของ “ศิริโชค โสภา” ที่ฝากบอก “อีจ๋อย” ว่าถ้าหากจะปลอมลายเซ็นก็ให้เป็นภาษาอังกฤษ นั้น จึงทำให้ชื่อ “อีจ๋อย” อีแอบผู้นี้น่าสนใจยิ่ง
ดังนั้น...ทันทีที่ชื่อ “อีจ๋อย” ออกจากปาก “เป็ดเหลิม” ท่ามกลางความสับสน และสงสัยของผู้คนว่าเป็นใครกันแน่ แต่เมื่อไปตรวจสอบตามหาตัวบุคคล ทั้งหน้าห้อง หลังห้อง ประตูหน้า ประตูหลัง และคนใกล้ชิดบิ๊ก ตร.ใน สตช.ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น “อีจ๋อย” ตัวแสบ นางนั้น ....แต่ก็หมดปัญญาจริงๆ ครับ “เป็ดเหลิม” เพราะชื่อว่า “อีจ๋อย” ไม่มีตัวตนที่แท้จริงครับท่าน...
จะอย่างไรก็ตาม แม้การตรวจสอบจะไม่พบ “อีจ๋อย” ก็ตามที...แต่ก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวเสียทีเดียว เพราะไม่พบ “อีจ๋อย” แต่ไปพบ “อีจ้อย” ซึ่งเป็นฉายาของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เพื่อนซี้ย้ำปึ้กของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.บุคคลที่คณะอนุกรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สอบสวนข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี นายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน เชิญให้ปากคำในวันนี้ (21 ส.ค.)
ส่วน “เจ๊เรือง” ท่านได้ฉายา “อีจ้อย” มาจากใดนั้น...ความเดิมเล่าขานกันว่า ครั้งที่ นรต.บุญเรือง ผลพาณิชย์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 เขาเป็นคนที่มีบุคลิกพิเศษเฉพาะตัว ด้วยการพูดจาอ่อนช้อย อ่อนหวาน พูดมาก พูดทุกเรื่อง จนเพื่อนๆ บ่นว่า “พูดเป็นต่อยหอย หรือพูดจ้อยเป็นต่อยหอย” ทำให้เพื่อนซี้บางคนตั้งฉายาน่ารักๆ ตามแบบฉบับ “เจ๊เรือง” ว่า “อีจ้อย”
ขณะที่บทบาทและเส้นทางเดินของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อนร่วมรุ่น นรต.25 คนสนิท “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” แต่อายุอ่อนกว่า 1 ปี จึงมีอายุราชการไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2553 “พล.ต.ท.บุญเรือง” เป็นที่รู้จักของสังคมมากขึ้น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และระหว่างดำรงตำแหน่งดังกล่าว ถูกคำสั่งจาก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ผบ.ตร.ในขณะนั้นให้ไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดการฟ้องร้องกันหลายคดี ทำให้ชื่อ “บุญเรือง ผลพานิชย์” เป็นที่ติดหูติดปากของผู้คน
ต่อมาถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ (สบ 8) ก่อนจะเข้าเป็น ผบช.ประจำ และกลับมาผงาดขึ้นชั้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.เมื่อเพื่อนร่วมรุ่นคนสนิทขึ้นเถลิงเก้าอี้เป็น ผบ.ตร. จากนั้นทั้งในสายตาของสื่อมวลชนประจำ ตร. และเหล่าชาวสีกากีต่างก็รับรู้และเห็นด้วยสองนัยน์ตาของทุกผู้ทุกคนว่า เมื่อปรากฏกาย “บิ๊กป๊อด” หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท ณ ที่แห่งหนตำบลใด เป็นอันเชื่อขนมกินได้เลยว่า ต้องเห็น พล.ต.ท.บุญเรือง เสมือนหนึ่งเป็นเงาตามตัว โดยครั้งหนึ่งของการแต่งตั้งโยกย้ายมีการพูดถึงว่า สตช.ถนนทุกสาย ไม่ว่า “สายนอก สายใน และนอกสาย” ต่างมุ่งไปยังสำนักงานของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผู้ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จ และความล้มเหลวของ พล.ต.อ.พัชรวาท ในแทบทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งว่ากันว่าในยุคนี้ หัวบันไดสำนักงาน พล.ต.ท.บุญเรือง ไม่เคยแห้ง
ส่วนตัวตนที่แท้จริง...“อีจ๋อย” ของ ร.ต.อ.เฉลิม...กับ “อีจ้อย” ฉายาของ พล.ต.ท.บุญเรือง จะเป็นชื่อเดียวกัน เป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่ทราบได้ และไม่สงวนสิทธิ์ที่ “พล.ต.ท.บุญเรือง” จะออกมาปฏิเสธ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอฝากเป็นการบ้านไว้สำหรับนายกรัฐมนตรี และอนุกรรมการตรวจสอบซื้อขายตำแหน่ง น่าจะไขปริศนาหาตัวตน “อีจ๋อย” เพราะน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับการตามหา “โจรในเครื่องแบบสีกากี ที่ปล้นพวกเดียวกัน”
ส่วนสุดท้าย เรื่องนี้จะเป็นจริง และใครคือ ไอ้โม่ง ตั้งโต๊ะรับซื้อขายตำแหน่ง เร็วๆ นี้ น่าจะมีคำตอบนะครับ...“ด.ช.มาร์ค” ของ “พี่ป๊อด”
นั่นคือคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือที่รู้จักกันดีในนาม “เป็ดเหลิม” ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ที่ได้ตั้งกระทู้ถามสดในการประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวซื้อขายตำแหน่ง ที่พอจะจับใจความและนำมาเป็น ประเด็นสืบหาตัวตนที่แท้จริงของบุคคลที่ชื่อว่า “อีจ๋อย” คนใกล้ชิดผู้มีอำนาจใน สตช.ว่า...เขาคนนั้นเป็นใคร มีตัวตนที่แท้จริงหรือไม่ ?....หรือ ร.ต.อ.เฉลิม จำสับสน หรือมีเจตนา พูดชื่อผิด เพื่อป้องกันถูกฟ้องร้อง ตามสไตล์ ดร.เป็ดเหลิม...
ขณะที่เจ้าของฉายา “วอลเปเปอร์”... นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ผู้เปิดโปงโจรในเครื่องแบบตั้งโต๊ะซื้อขายตำแหน่ง ก็ไม่ได้เมินเฉยต่อชื่อ “อีจ๋อย”...โดยบอกว่า...การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาเอ่ยชื่อ “อีจ๋อย” อยากถามว่าเคยใช้บริการคนคนนี้หรือไม่ เพราะตนไม่เคยใช้บริการแน่นอน และเรื่องนี้มีความพยายามปลอมลายเซ็นตน โดยนายศิริโชคบอกว่า ถ้ารู้จัก “อีจ๋อย” จริง ฝากไปบอกด้วยว่า ถ้าจะปลอมลายเซ็นก็ให้เป็นภาษาอังกฤษ...
การเปิดโปงขบวนการซื้อขายตำแหน่ง ที่มีชื่อ “อีจ๋อย” เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดเสียงดังฟังชัดในที่ประชุมสภา ตอนบ่ายแก่ๆ ก่อน (ด.ช.มาร์ค) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะเข้าประชุม ก.ต.ช.เพื่อลงมติเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ แทน “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ผู้รอวันลาลับ...และการออกมาแก้ลำของ “ศิริโชค โสภา” ที่ฝากบอก “อีจ๋อย” ว่าถ้าหากจะปลอมลายเซ็นก็ให้เป็นภาษาอังกฤษ นั้น จึงทำให้ชื่อ “อีจ๋อย” อีแอบผู้นี้น่าสนใจยิ่ง
ดังนั้น...ทันทีที่ชื่อ “อีจ๋อย” ออกจากปาก “เป็ดเหลิม” ท่ามกลางความสับสน และสงสัยของผู้คนว่าเป็นใครกันแน่ แต่เมื่อไปตรวจสอบตามหาตัวบุคคล ทั้งหน้าห้อง หลังห้อง ประตูหน้า ประตูหลัง และคนใกล้ชิดบิ๊ก ตร.ใน สตช.ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็น “อีจ๋อย” ตัวแสบ นางนั้น ....แต่ก็หมดปัญญาจริงๆ ครับ “เป็ดเหลิม” เพราะชื่อว่า “อีจ๋อย” ไม่มีตัวตนที่แท้จริงครับท่าน...
จะอย่างไรก็ตาม แม้การตรวจสอบจะไม่พบ “อีจ๋อย” ก็ตามที...แต่ก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวเสียทีเดียว เพราะไม่พบ “อีจ๋อย” แต่ไปพบ “อีจ้อย” ซึ่งเป็นฉายาของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เพื่อนซี้ย้ำปึ้กของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.บุคคลที่คณะอนุกรรมการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) สอบสวนข้อเท็จจริงการซื้อขายตำแหน่งภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มี นายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน เชิญให้ปากคำในวันนี้ (21 ส.ค.)
ส่วน “เจ๊เรือง” ท่านได้ฉายา “อีจ้อย” มาจากใดนั้น...ความเดิมเล่าขานกันว่า ครั้งที่ นรต.บุญเรือง ผลพาณิชย์ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 25 เขาเป็นคนที่มีบุคลิกพิเศษเฉพาะตัว ด้วยการพูดจาอ่อนช้อย อ่อนหวาน พูดมาก พูดทุกเรื่อง จนเพื่อนๆ บ่นว่า “พูดเป็นต่อยหอย หรือพูดจ้อยเป็นต่อยหอย” ทำให้เพื่อนซี้บางคนตั้งฉายาน่ารักๆ ตามแบบฉบับ “เจ๊เรือง” ว่า “อีจ้อย”
ขณะที่บทบาทและเส้นทางเดินของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อนร่วมรุ่น นรต.25 คนสนิท “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” แต่อายุอ่อนกว่า 1 ปี จึงมีอายุราชการไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2553 “พล.ต.ท.บุญเรือง” เป็นที่รู้จักของสังคมมากขึ้น เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และระหว่างดำรงตำแหน่งดังกล่าว ถูกคำสั่งจาก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” ผบ.ตร.ในขณะนั้นให้ไปช่วยราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดการฟ้องร้องกันหลายคดี ทำให้ชื่อ “บุญเรือง ผลพานิชย์” เป็นที่ติดหูติดปากของผู้คน
ต่อมาถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ (สบ 8) ก่อนจะเข้าเป็น ผบช.ประจำ และกลับมาผงาดขึ้นชั้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.เมื่อเพื่อนร่วมรุ่นคนสนิทขึ้นเถลิงเก้าอี้เป็น ผบ.ตร. จากนั้นทั้งในสายตาของสื่อมวลชนประจำ ตร. และเหล่าชาวสีกากีต่างก็รับรู้และเห็นด้วยสองนัยน์ตาของทุกผู้ทุกคนว่า เมื่อปรากฏกาย “บิ๊กป๊อด” หรือ พล.ต.อ.พัชรวาท ณ ที่แห่งหนตำบลใด เป็นอันเชื่อขนมกินได้เลยว่า ต้องเห็น พล.ต.ท.บุญเรือง เสมือนหนึ่งเป็นเงาตามตัว โดยครั้งหนึ่งของการแต่งตั้งโยกย้ายมีการพูดถึงว่า สตช.ถนนทุกสาย ไม่ว่า “สายนอก สายใน และนอกสาย” ต่างมุ่งไปยังสำนักงานของ พล.ต.ท.บุญเรือง ผู้ที่อยู่ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังความสำเร็จ และความล้มเหลวของ พล.ต.อ.พัชรวาท ในแทบทุกเรื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ซึ่งว่ากันว่าในยุคนี้ หัวบันไดสำนักงาน พล.ต.ท.บุญเรือง ไม่เคยแห้ง
ส่วนตัวตนที่แท้จริง...“อีจ๋อย” ของ ร.ต.อ.เฉลิม...กับ “อีจ้อย” ฉายาของ พล.ต.ท.บุญเรือง จะเป็นชื่อเดียวกัน เป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ เรื่องนี้ก็ไม่ทราบได้ และไม่สงวนสิทธิ์ที่ “พล.ต.ท.บุญเรือง” จะออกมาปฏิเสธ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขอฝากเป็นการบ้านไว้สำหรับนายกรัฐมนตรี และอนุกรรมการตรวจสอบซื้อขายตำแหน่ง น่าจะไขปริศนาหาตัวตน “อีจ๋อย” เพราะน่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับการตามหา “โจรในเครื่องแบบสีกากี ที่ปล้นพวกเดียวกัน”
ส่วนสุดท้าย เรื่องนี้จะเป็นจริง และใครคือ ไอ้โม่ง ตั้งโต๊ะรับซื้อขายตำแหน่ง เร็วๆ นี้ น่าจะมีคำตอบนะครับ...“ด.ช.มาร์ค” ของ “พี่ป๊อด”
