“นช.แม้ว” วิดีโอลิงก์จากดูไบถึงสนามหลวง ลำเลิกความจงรักภักดีตั้งแต่เป็น นรต.จนเป็นนายกฯ กดดันพระบรมราชวินิจฉัยพระราชทานอภัยโทษ ขณะที่ตัวเองยังไม่สำนึก เหน็บศาลตัดสินคดีที่ดินรัชดาด้วยกฎหมายเผด็จการ อ้างคนไทยมีในหลวงเป็นศูนย์รวมใจ ทำไมปล่อยให้ปืน-กฎหมายเอียงๆ มาบังคับจิตใจคนไทย ลงท้ายกล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ น้ำเสียงตะกุกตะกัก
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปราศรัย
เมื่อประมาณ 11.00 น.วันที่ 17 ส.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษและจำเลยคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างหลบหนี ได้กล่าวปราศรัยผ่านสัญญาณวิดีโอลิงก์จากเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มายังเวทีของคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวง เพื่อปลุกระดมคนเสื้อแดงให้ร่วมกันถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่ตัวเขา โดย พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่าตนเองมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเต็มที่ เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เคยมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ และได้กราบบังคมทูลให้พระองค์มีพระชนมายุยืนนานเท่าพระอานนท์ และย้ำว่าเมื่อประเทศชาติมีความขัดแย้ง มีแต่พระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นที่จะทรงแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ได้
พ.ต.ท.ทักษิณยังอ้างอีกว่า สาเหตุที่ตนทำงานในตำแหน่งนายกฯ จนพี่น้องพอใจทุกวันนี้ เพราะมีกำลังใจและได้รับสติปัญญาพระราชทานโดยตรงและโดยอ้อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเกษตร เรื่องน้ำ การแก้ไขความทุกข์ยากของประชาชน รวมทั้งความสำเร็จในโครงการโอทอปนั้นก็มาจากงานฝีมือของพี่น้องประชาชนที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษและได้รับการพัฒนาจากโครงการศิลปาชีพพิเศษฯ แต่ตนก็ไม่วายถูกใส่ร้ายตลอด
นักโทษหนีคำพิพากษาอ้างอีกว่า เรื่องโทษจำคุก 2 ปีในคดีที่ดินรัชดาฯ นั้น ถือว่าตลกที่สุด เพราะการขายที่ดินไม่ผิด ผู้ซื้อไม่ผิด ผู้ขายก็ไม่ผิด แต่สามีของผู้ซื้อกลับผิด เพราะการตัดสินได้ใช้กฎหมายที่มาจากรัฐประหาร (แต่ในข้อเท็จจริงใช้กฎหมาย ป.ป.ช.ที่มีมาตั้งแต่ปี 2542) วิธีการตัดสินก็ได้มาอย่างผิดหลักสากลทั้งสิ้น ตนได้โต้แย้งไปแล้วแต่ศาลไม่ยอม และตัดสินให้ผิดด้วยมติ 5 ต่อ 4 ความไม่เป็นธรรมเหล่านี้สะสมในใจประชาชนมา 3 ปี เป็น 3 ปีแห่งการรอคอยความเป็นธรรมที่จะกลับสู่สังคมไทย
พ.ต.ท.ทักษิณ ยังอ้างอีกว่า ตนเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่เขาเดินเพื่อทำลายประชาธิปไตยของประเทศ วันนี้พวกเรามากราบบังคมทูลเรียกร้องให้พ่อหลวงคือพระมหากษัตริย์ของคนไทยทุกคนนี่แหละ เพราะอยากเห็นความสามัคคีในชาติ อยากเห็นความปรองดองในสังคมไทย เราอยากเห็นสิทธิเสรีภาพ เห็นศักดิ์ศรีของประเทศกลับคืน เราต้องการความสุขกลับคืนมาเหมือนเดิม ให้นายกรัฐมนตรีไปไหนก็ได้ในประเทศนี้ ไม่ใช่ว่าถ้านายกฯ ทักษิณไปใต้ไม่ได้ นายกฯ อภิสิทธิ์ไปเหนือ อีสานไม่ได้
แกนนำตัวจริงของคนเสื้อแดงกล่าวต่อว่า เราอยากเห็นว่าคนไทยมีหัวใจสีเดียวกัน มีศูนย์รวมใจทั้งหมดอยู่ที่พระเจ้าอยู่หัว แล้วทำไมปล่อยให้เป็นอย่างนี้ ทำไมให้ใช้ปืน ใช้กฎหมายเอียงๆ มาบังคับจิตใจคนไทย ถึงเวลาหรือยังที่คนไทยต่อคนไทยจะยิ้มให้กันด้วยหัวใจ ด้วยความสนิทใจ ไม่ใช่พอรู้ว่าคนละสีแล้วรีบหุบปากเดินหนี มันทุกข์ไหม ทุกข์กันทุกคน ในหลวงก็ทรงกลุ้มไม่น้อยที่เห็นบรรยากาศของสังคมไทยเป็นแบบนี้
จำเลยคดีทุจริตกล่าวต่อว่า เรื่องที่พวกตนร้องทุกข์ในวันนี้ บรรดาทนายหน้าหอทั้งหลาย อย่ามาตีความให้เลอะเทอะ เพราะหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ต้องไปด้วยกัน ไม่เช่นนั้นก็ไปไม่ได้ เมื่อเหตุมาจากการเมืองก็ต้องแก้ด้วยการเมือง พี่น้องไทยทั้งชาติไม่ว่าสีอะไร อย่าให้คนหลงอำนาจ หลงผลประโยชน์ไม่กี่คนเสี้ยมให้เราทะเลาะกัน เราต้องหัวใจเดียวกัน แล้วเราจะรวมพลังกันนำประเทศไทยให้ก้าวหน้า
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวต่อว่า เราจะมีความสุขด้วยกัน เราจะสามัคคีกันถวายพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงมีความสุขพ้นจากความกังวลกลุ้มพระทัยในเรื่องนี้ ในฐานะที่ตนเคยทำหน้าที่มาหลายครั้งและได้รับพระเมตตามาหลายครั้ง ตอนเป็นนักเรียนเตรียมทหารเวลาวิ่งก็ต้องบอกว่ารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร้องเพลงสรรเสริญก่อนนอนทุกคืน เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจก็เช่นกัน ตอนเป็นพลร่มที่ค่ายนเรศวรเมื่อจะประดับปลีกร่มก็กล่าวคำปฏิญาณ เมื่อเป็นรัฐมนตรีก็ถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยเฉพาะเมื่อเป็นนายกฯ ตนเป็นนายกฯ ที่ปรับครม.บ่อยที่สุด ต้องนำ ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ฯ เป็นประจำ
พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวในตอนท้ายว่า วันนี้ ถึงแม้เขาจะกล่าวหาว่าตนเป็นผู้ร้ายหลบหนี แต่จะขออนุญาตปฏิญาณตนต่อหน้าพี่น้องคนไทยทั้งประเทศและต่อหน้าบรมฉายาลักษณ์ อีกครั้งว่า “ข้าพระพุทธเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่าข้าพระพุทธเจ้าและครอบครัวจะจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรี ทุกพระองค์ ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่”
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวปฏิญาณด้วยเสียงตะกุกตะกัก ต้องพูดซ้ำประโยคสุดท้ายหลายครั้ง หลังจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้นำคนเสื้อแดงร้องเพลงสดุดีมหาราชา โดยมีเสียงสวนกันไปมาไม่พร้อมเพรียงกันนัก เมื่อร้องจบ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้กล่าวขอบคุณคนเสื้อแดง และจะกลับมาร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกครั้งหลังจากการถวายฎีกาแล้วเสร็จ
