สั่งขยายผลอาวุธสงครามกลางกรุง หวั่นเอี่ยวยิง “สนธิ”

นครบาลแถลงใหญ่จับเครือข่าย ภาพ 70 ไร่ รวบ 6 โจ๋ขนยาไอซ์มูลค่า 10 ล้าน อาวุธสงครามปืนอาก้า อูซี่ พร้อมกระสุนจำนวนมาก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา “วรพงษ์” สั่งขยายผลสอบที่มาของอาวุธปืน เชื่อมโยงคดีลอบยิง “สนธิ” หรือไม่

วันนี้ (28 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ร่วมกันแถลงผลเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.บางโพงพาง จับกุมเครือข่ายภาพ 70 ไร่ ขนยาไอซ์ พกพาอาวุธปืนอาวุธสงครามจำนวนมาก ขณะตั้งจุดตรวจค้นตามแผนระดมป้องกันอาชญากรรมกวาดล้างยาเสพติด และการพกพาอาวุธปืนอาวุธสงครามของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้บริเวณปากซอยนราธิวาส 22 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้ผู้ต้องหา 6 คน คือ นายขวัญ ทรงฉัตร อายุ 23 ปี นายสุชานนท์ รุ่งโรจน์ อายุ 20 ปี นายสมมาตร อยู่ดี อายุ 38 ปี น.ส.ศศิธร พรหมมณี อายุ 28 ปี นายอุเทน ฟักตระกูล อายุ 25 ปี และ น.ส.ปวีนา พัชณี อายุ 25 ปี พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ว 6174 กทม. ปืนอูซี่ 1 กระบอก อาวุธปืนเอ็มที 2 กระบอก อาวุธปืนอาก้าแบบพับฐาน 2 กระบอก ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน และกระสุนปืนอาก้า 64 นัด ยาไอซ์ 2 กิโลกกรัม มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เงินสด 44,710 บาท โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง และโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง

พล.ต.อ.จุมพล กล่าวแสดงความชื่มชนการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติงาน พร้อมระบุว่าเป็นความสำเร็จของนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการกำชับให้ทุกหน่วยงานระดมแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและอาวุธสงคราม ซึ่งจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุผลเป้าหมายอย่างจริงจัง พร้อมมอบเงินรางวัลผลงานดีเด่นการปฏิบัติหน้าที่ให้ชุดจับกุมจำนวน 1 หมื่นบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน

ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า สั่งการให้สอบสวนขยายผลสอบที่มาของอาวุธปืนสงครามของกลางว่านำมาจากที่ใด และตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหาทั้งหมดว่าเชื่อมโยงกับการก่อเหตุคดีอุกฉกรรจ์ที่ผ่านมาบ้างหรือไม่ รวมถึงอาวุธปืนอูซี่ที่กลุ่มผู้ต้องหาลอบยิงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ใช้ดำเนินการว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ ส่วนที่หนึ่งในผู้ต้องหาเคยทำงานในบริษัท ลีเกิ้ล แต่ออกมานานแล้วนั้น เชื่อว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรงในตลาดคลองเตยที่ผ่านมา

น.ส.ศศิธร ให้การว่า ตนเพิ่งโทษคดีค้ายาบ้าออกมาไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และเพื่อนที่รู้จักกันแนะนำให้รับส่งยาจากชายคนหนึ่งให้ลูกค้าซึ่งตนไม่รู้จักชื่อนามสกุลจริงของคนที่ส่งยามาให้ โดยจะโทรศัพท์นัดแนะให้ไปส่งรับและส่งยาทางโทรศัพท์เท่านั้น เมื่อรับของมาแล้วก็นำมาพักไว้ที่ห้อง ซึ่งตนจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านพักย่านคลองเตยกับห้องพักเลขที่ 622 ชั้น 6 อาคารเดอะลิงค์ ซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม.โดยตนทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 40,000-50,000 บาท สำหรับอาวุธปืนที่พบในรถ ตนได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่ง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ไปรับของที่ย่าน รพ.เทพธารินทร์ เพื่อรอให้ชายอีกคนหนึ่งมารับของ ซึ่งตนไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงของคนที่จะมารับของอีกเช่นกัน ส่วนภาพ 70 ไร่ นั้นไม่รู้จัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ตรวจสอบหมายเลขกระสุนปืนที่พบว่าเกี่ยวโยงกับกรณีการลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุลหรือไม่

ตะลึง! พบอาวุธสงคราม-ยาไอซ์ใกล้บ้าน มท.1 เพียบ