รมว.ยุติธรรม สั่ง ปปง.ตรวจสอบเส้นทางเงิน 10 ล้าน ที่ซุกซ่อนในรถยนต์ของกลางจากคดีค้ายาเสพติด ด้านอธิบดีดีเอสไอเผยตรวจรถฟอร์จูนเนอร์ที่ซุกเงินอย่างละเอียด และให้ “โตโยต้า” ช่วยตรวจซ้ำให้ชัดเจนอีกครั้ง พร้อมชี้กรณีศาลยกฟ้องผู้ต้องหาสงสัยเป็นเจ้าของเงิน 30 ล้านในท่อพีวีซีไม่กระทบ ขณะที่ ป.ป.ส.เร่งไล่ล่า “อุสมาน สะแลแมง” เชื่อหลบหนีไปต่างประเทศ
วันนี้ (1 ก.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขยายผลสอบสวนจนสามารถยึดเงินสด 10 ล้านบาท ของเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของกลางว่า ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของเงินสด 10 ล้านบาทดังกล่าวร่วมกับดีเอสไอ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้ ทุกหน่วยงานเอาจริงเอาจังและมีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยวันละหลายราย ส่วนการย้ายนายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลกนั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ทำเพื่อแก้ปัญหาการซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ และเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญๆ อยู่ที่เรือนจำใดนานเกินไป ซึ่งจะทำให้สร้างอิทธิพลและทำให้ค้ายาเสพติดได้
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมาน สะแลแมง หลังพบเงินสดซุกไว้ในรถของกลางว่า วันนี้ดีเอสไอได้นำรถฟอร์จูนเนอร์สีเทา ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลางในคดีดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ายังมีสิ่งใดซุกซ่อนในตัวรถอีกหรือไม่ จากนั้นจะส่งรถยนต์ให้บริษัท โตโยต้า ทำการตรวจสอบซ้ำให้ด้วย นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามรถยนต์อีกหลายคัน ที่ยึดมาได้จากเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมานทั้งหมด ซึ่งบางคันได้ขายทอดตลาดไปแล้ว เพื่อนำมาตรวจสอบหาสิ่งซุกซ่อนเพื่อขยายผลต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เชือกที่ใช้มัดธนบัตร 10 ล้านบาทนั้น ปนเปื้อนคราบยาเสพติด ซึ่งดีเอสไอจะส่งหลักฐานให้สำนักงานวิทยาการตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นผู้ต้องสงสัยเป็นเจ้าของเงินของกลางกว่า 30 ล้านบาทที่ซุกไว้ในท่อพีวีซี ที่เคยเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2548 ว่า คดีที่ยกฟ้องเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งอาจยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีของดีเอสไอเป็นการขยายผลการจับกุมนักค้ายาเสพติด 2.7 แสนเม็ด โดยผู้ต้องหาคือนางสุภาภรณ์ คำศรีภาพ ภรรยาของนายอุสมาน ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 40 ปี
ส่วนยาเสพติดและเงินสดเป็นของนายอุสมาน ซึ่งเป็นยาเสพติดและเงินสดคนละส่วนกับที่ยึดได้จากท่อพีวีซี จึงต้องตรวจสอบว่ามีการฟอกเงินหรือไม่ และมีเส้นทางโยงใยกับขบวนการในต่างประเทศหรือไม่ เพราะเครือข่ายของนายอุสมานกระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังถือพาสปอร์ตถึง 2 เล่ม
ขณะที่ นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า นายอุสมานถูกออกหมายจับและหลบหนีไป ทำให้เครือข่ายของนายอุสมานที่มีมากกว่า 10-20 คน แตกกระจาย ส่วนใหญ่ก็ยังยึดอาชีพค้ายาเสพติดอยู่ บางรายก็ไปสร้างเครือข่ายใหม่ซื้อขายยาเสพติดเอง แต่ก็ยังมีการเชื่อมโยงกับนายอุสมานอยู่ และขณะนี้ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งติดตามตัวนายอุสมานและกับพวก คาดว่านายอุสมานหลบหนีไปนอกประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของทรัพย์สินของนายอุสมานที่ทาง ป.ป.ส.ได้ยึดไว้ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท มีทั้งรถยนต์ ที่ดิน และรถยนต์
ตะลึง! พบเงินสดเกือบ 10 ล้านบาท ซุกรถของกลางคดียาเสพติด
วันนี้ (1 ก.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขยายผลสอบสวนจนสามารถยึดเงินสด 10 ล้านบาท ของเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของกลางว่า ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของเงินสด 10 ล้านบาทดังกล่าวร่วมกับดีเอสไอ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้ ทุกหน่วยงานเอาจริงเอาจังและมีการจับกุมผู้ค้ารายย่อยวันละหลายราย ส่วนการย้ายนายสยาม ทรัพย์วรสิทธิ์ หรือสุภาพ สีแดง หรือภาพ 70 ไร่ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจากเรือนจำกลางคลองเปรมไปยังเรือนจำกลางพิษณุโลกนั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ทำเพื่อแก้ปัญหาการซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ และเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังคดียาเสพติดรายสำคัญๆ อยู่ที่เรือนจำใดนานเกินไป ซึ่งจะทำให้สร้างอิทธิพลและทำให้ค้ายาเสพติดได้
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมาน สะแลแมง หลังพบเงินสดซุกไว้ในรถของกลางว่า วันนี้ดีเอสไอได้นำรถฟอร์จูนเนอร์สีเทา ซึ่งเป็นรถยนต์ของกลางในคดีดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดว่ายังมีสิ่งใดซุกซ่อนในตัวรถอีกหรือไม่ จากนั้นจะส่งรถยนต์ให้บริษัท โตโยต้า ทำการตรวจสอบซ้ำให้ด้วย นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามรถยนต์อีกหลายคัน ที่ยึดมาได้จากเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนายอุสมานทั้งหมด ซึ่งบางคันได้ขายทอดตลาดไปแล้ว เพื่อนำมาตรวจสอบหาสิ่งซุกซ่อนเพื่อขยายผลต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เชือกที่ใช้มัดธนบัตร 10 ล้านบาทนั้น ปนเปื้อนคราบยาเสพติด ซึ่งดีเอสไอจะส่งหลักฐานให้สำนักงานวิทยาการตำรวจตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาพิพากษายกฟ้องผู้ต้องหาที่เป็นผู้ต้องสงสัยเป็นเจ้าของเงินของกลางกว่า 30 ล้านบาทที่ซุกไว้ในท่อพีวีซี ที่เคยเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2548 ว่า คดีที่ยกฟ้องเป็นคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งอาจยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีของดีเอสไอเป็นการขยายผลการจับกุมนักค้ายาเสพติด 2.7 แสนเม็ด โดยผู้ต้องหาคือนางสุภาภรณ์ คำศรีภาพ ภรรยาของนายอุสมาน ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 40 ปี
ส่วนยาเสพติดและเงินสดเป็นของนายอุสมาน ซึ่งเป็นยาเสพติดและเงินสดคนละส่วนกับที่ยึดได้จากท่อพีวีซี จึงต้องตรวจสอบว่ามีการฟอกเงินหรือไม่ และมีเส้นทางโยงใยกับขบวนการในต่างประเทศหรือไม่ เพราะเครือข่ายของนายอุสมานกระจายอยู่ทั่วประเทศ และยังมีพฤติการณ์ค้ายาเสพติดในภาคใต้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังถือพาสปอร์ตถึง 2 เล่ม
ขณะที่ นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวว่า นายอุสมานถูกออกหมายจับและหลบหนีไป ทำให้เครือข่ายของนายอุสมานที่มีมากกว่า 10-20 คน แตกกระจาย ส่วนใหญ่ก็ยังยึดอาชีพค้ายาเสพติดอยู่ บางรายก็ไปสร้างเครือข่ายใหม่ซื้อขายยาเสพติดเอง แต่ก็ยังมีการเชื่อมโยงกับนายอุสมานอยู่ และขณะนี้ ป.ป.ส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งติดตามตัวนายอุสมานและกับพวก คาดว่านายอุสมานหลบหนีไปนอกประเทศ
ทั้งนี้ ในส่วนของทรัพย์สินของนายอุสมานที่ทาง ป.ป.ส.ได้ยึดไว้ รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท มีทั้งรถยนต์ ที่ดิน และรถยนต์
ตะลึง! พบเงินสดเกือบ 10 ล้านบาท ซุกรถของกลางคดียาเสพติด