สาวเจ้าของรถเก๋งแจ๊ซขาวป้ายแดง ที่ขนอาวุธปืนสงครามจำนวนมาก ยังไม่ยอมให้การซัดทอด ว่า ใครเป็นเจ้าของอาวุธปืน ทำให้การสืบสวนชะงัก แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึก เป็นของหน่วยงานใด เกี่ยวข้องกับคดียิง “สนธิ” หรือไม่ ส่วนเรื่องยาเสพติดประสาน บช.ปส.ขยายผลแล้ว
วันนี้ (29 ก.ค.) พ.ต.อ.กสิณ ศรีธรรมาสุข ผกก.สน.บางโพงพาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตำรวจ สน.บางโพงพาง จับกุมผู้ต้องหา 6 คน ขณะกำลังขับรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ ขนยาไอซ์ พกพาอาวุธปืนอาวุธสงครามจำนวนมาก ได้ที่บริเวณจุดตรวจค้นตามแผนระดมป้องกันอาชญากรรมกวาดล้างยาเสพติด และการพกพาอาวุธปืนอาวุธสงครามของกองบัญชาการตำรวจนครบาล บริเวณปากซอยนราธิวาส 22 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านพักของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ยังไม่มีพยานหลักฐานที่ยืนยันชัดเจนว่า น.ส.ศศิธร พรหมมณี หรือ อุ๋ย คลองเตย อายุ 28 ปี เจ้าของรถคันดังกล่าวนั้น มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาเสพติด “ภาพ 70 ไร่” แต่เชื่อว่า มีนักค้ายาเสพติดรายใหญ่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง และเป็นที่รู้จักในเครือข่ายยาเสพติดที่กว้างขวางพอสมควร ซึ่ง พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.ได้สั่งการให้สืบสวนในเรื่องนี้อย่างละเอียด โดนในส่วนของ สน.บางโพงบาง จะเน้นสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ส่วนการขยายผลจับกุมได้ประสานกับกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เพื่อขยายผลจับกุมตัวการใหญ่ต่อไป
พ.ต.อ.กสิณ กล่าวต่อว่า สำหรับอาวุธปืนสงครามที่ยึดได้นั้น ผู้ต้องหายังไม่ให้การซัดทอดใคร จึงทำให้แนวทางการสืบสวนเป็นไปด้วยความยากลำบาก และยังไม่สามารถสืบหาถึงแหล่งที่มาได้ โดยเรื่องนี้ ทาง กก.สืบสวน บก.น.5 จะทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าอาวุธปืนสงครามดังกล่าวนั้น เกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่ และเป็นอาวุธที่ใช้ในหน่วยราชการหน่วยใด ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถเปิดเผยถึงรายละเอียดในเชิงลึกได้ แต่ยืนยันว่าทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างเต็มที่
พ.ต.อ.กสิณ กล่าวด้วยว่า ส่วน นายสมมาตร อยู่ดี หรือ “หมู คลองเตย” 1 ใน 6 ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับรถและเคยเป็นพนักงานบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด จากการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย แต่หากสืบสวนพบพยานหลักฐานว่า เจ้าตัวมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน (ผบก.พฐ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการส่งอาวุธปืนสงครามดังกล่าวมาตรวจสอบยังกองพิสูจน์หลักฐานแต่อย่างใด แต่หากได้รับอาวุธปืนสงครามดังกล่าวแล้วก็สามารถตรวจพิสูจน์ได้ทันที คาดว่า ใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.ก็ได้สั่งการมายังตนด้วยว่าหากตรวจพิสูจน์อาวุธปืนสงครามในคดีใด ให้พิสูจน์ด้วยว่า เกี่ยวข้องกับคดีการลอบสังหาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำ พธม.หรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมา เราก็ดำเนินการตรวจสอบกันอยู่แล้ว โดยที่ผู้บังคับบัญชาไม่ต้องสั่งการเป็นพิเศษ เพราะคดีดังกล่าวเป็นคดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชน
สั่งขยายผลอาวุธสงครามกลางกรุง หวั่นเอี่ยวยิง “สนธิ”
ตะลึง! พบอาวุธสงคราม-ยาไอซ์ใกล้บ้าน มท.1 เพียบ