ตำรวจตั้งด่านตรวจความมั่นคงย่านบ้านพัก มท.1 หลังเรียกตรวจรถแจ๊ซถึงกับผงะ! พบอาวุธสงครามและเครื่องกระสุนสภาพพร้อมใช้งานซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก ขณะคุมตัวเจ้าของรถไปค้นห้องพักพบยาไอซ์อีกกว่า 2 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท และยังพบเสื้อแจ็กเกตปักชื่อ เสธ.คนดัง เจ้าตัวรับสารภาพได้ค่าจ้างขนยาครั้งละ 4-5 หมื่นบาท ส่วนของทั้งหมดรับมาจากชายนิรนาม ตำรวจเตรียมขยายผลถึงตัวการใหญ่
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 00.30 น. ขณะที่ พ.ต.ต.กฤษกร หานุสิงห์ สวป.สน.บางโพงพาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจกำลังตั้งด่านตรวจค้นอยู่ที่บริเวณปากซอยนราธิวาส 22 ถนนนราธิวาส แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ว 6174 กทม. ภายในรถมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น
จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ที่นั่งมาในรถคันดังกล่าวจำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ศศิธร พรหมมณี อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถ 2.นายสมมาตร หรือหมู คลองเตย อยู่ดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/39 ซ.ดำรงพิพัฒน์ แขวงและเขตคลองเตย กทม. เป็นผู้ขับรถ 3.นายขวัญ ถาวรจันทร์ อายุ 23 ปี 4.นายอุเทน ทรัพย์ตระกูล อายุ 25 ปี 5.นายชานนท์ รุ่งโรจน์ อายุ 20 ปี และ 6.น.ส.ปวีรา พัชนี อายุ 25 ปี โดยจากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 2 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในตัวของนายสมมาตร เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด
จากการตรวจค้นบริเวณฝากระโปรงท้ายรถ พบกล่องใส่โทรทัศน์สีน้ำตาลขนาดใหญ่ ปิดด้วยสกอตเทปอย่างแน่นหนา เมื่อเปิดกล่องออกดูพบอาวุธปืนอูซี่ จำนวน 1 กระบอก ปืนเอ็มที 2 กระบอก ปืนอาร์ก้าแบบพับฐาน 2 กระบอก และกระสุนปืนอาก้า 64 นัด โดยอาวุธทั้งหมดอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังตรวจยึดเงินสดได้อีกจำนวน 44,710 บาท ทองรูปพรรณหนัก 4-5 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 7 เครื่อง และโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบพร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายสมมาตรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด แต่ออกจากงานมานานแล้ว ส่วนรถคันดังกล่าวเป็นของ น.ส.ศศิธร ตนไม่ทราบว่าอาวุธดังกล่าวที่ตรวจพบเป็นของใคร ซึ่งวันนี้ตนได้ขับพาเพื่อนๆ ที่พักอยู่ย่านคลองเตยด้วยกันทั้งหมดมาเที่ยวที่ย่านถนนจันทร์ เมื่อมาถึงที่ซอยนราธิวาส 22 ก็เจอด่านตรวจจนกระทั่งมาถูกจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ศศิธร ไปตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 622 ชั้น 6 อาคารเดอะลิงค์ ภายในซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของ น.ส.ศศิธร ภายในห้องพบยาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท อาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อบาเร็ตต้า 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 7 เล่ม มีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงยึดเอาไว้ตรวจสอบ
จากการสอบปากคำ น.ส.ศศิธร ให้การว่า ตนไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยจะรับส่งยาจากชายคนหนึ่งให้กับลูกค้าซึ่งตนไม่รู้จักชื่อนามสกุลจริงของคนที่ส่งยามาให้ ยาไอซ์ที่พบในห้องมีคนนำมาทิ้งไว้ให้ที่ย่านคลองเตยเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เมื่อรับของมาแล้วก็จะนำมาพักไว้ที่ห้อง ซึ่งตนจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านพักที่ย่านคลองเตยกับคอนโดฯ แห่งนี้ ตนทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 40,000-50,000 บาท สำหรับอาวุธปืนที่พบในรถ เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ไปรับของที่ย่าน รพ.เทพธารินทร์ เพื่อรอให้ชายอีกคนหนึ่งมารับไป ซึ่งตนไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงของคนที่จะมารับของอีกเช่นกัน
ด้าน พ.ต.ต.กฤษกร กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจได้ตั้งด่านซึ่งเป็นด่านตรวจความมั่งคงที่บริเวณซอยนราธิวาส 22 เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับบ้านพักของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งรถคันดังกล่าวผ่านมา ตนก็ได้เรียกตรวจค้นตามปกติ ไม่คิดว่าจะเจอยาเสพติดและอาวุธสงครามจำนวนมาก จากการสอบปากคำและตรวจค้นห้องพักของ น.ส.ศศิธร คาดว่า น.ส.ศศิธร น่าจะเป็นเครือข่ายของ “ภาพ 70 ไร่” นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ย่านคลองเตย ส่วนนายสมมาตรน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงกันที่ตลาดคลองเตย
พ.ต.ต.กฤษกร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำ น.ส.ศศิธร อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อขยายผลต่อไป รวมถึงจะต้องสอบสวนคนขับรถและกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดทั้งหมดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมทำการสอบปากคำและทำการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในเช้าวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจค้นภายในห้องของ น.ส.ศศิธร นอกจากจะพบยาเสพติดและอาวุธปืนแล้ว ยังพบเสื้อแจ็กเกตสีดำ จำนวน 1 ตัว ด้านหลังปักอักษรเป็นชื่อของ เสธ.คนดังคนหนึ่ง เมื่อผู้สื่อข่าวเห็นและกำลังจะขอถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบเก็บเสื้อดังกล่าวทันที
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 00.30 น. ขณะที่ พ.ต.ต.กฤษกร หานุสิงห์ สวป.สน.บางโพงพาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจกำลังตั้งด่านตรวจค้นอยู่ที่บริเวณปากซอยนราธิวาส 22 ถนนนราธิวาส แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ว 6174 กทม. ภายในรถมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนหลายคน เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น
จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ที่นั่งมาในรถคันดังกล่าวจำนวน 6 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ศศิธร พรหมมณี อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถ 2.นายสมมาตร หรือหมู คลองเตย อยู่ดี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3/39 ซ.ดำรงพิพัฒน์ แขวงและเขตคลองเตย กทม. เป็นผู้ขับรถ 3.นายขวัญ ถาวรจันทร์ อายุ 23 ปี 4.นายอุเทน ทรัพย์ตระกูล อายุ 25 ปี 5.นายชานนท์ รุ่งโรจน์ อายุ 20 ปี และ 6.น.ส.ปวีรา พัชนี อายุ 25 ปี โดยจากการตรวจค้นพบยาไอซ์จำนวน 2 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในตัวของนายสมมาตร เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าวอย่างละเอียด
จากการตรวจค้นบริเวณฝากระโปรงท้ายรถ พบกล่องใส่โทรทัศน์สีน้ำตาลขนาดใหญ่ ปิดด้วยสกอตเทปอย่างแน่นหนา เมื่อเปิดกล่องออกดูพบอาวุธปืนอูซี่ จำนวน 1 กระบอก ปืนเอ็มที 2 กระบอก ปืนอาร์ก้าแบบพับฐาน 2 กระบอก และกระสุนปืนอาก้า 64 นัด โดยอาวุธทั้งหมดอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังตรวจยึดเงินสดได้อีกจำนวน 44,710 บาท ทองรูปพรรณหนัก 4-5 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 7 เครื่อง และโน้ตบุ๊กอีก 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลางทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบพร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายสมมาตรกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานอยู่ที่บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด แต่ออกจากงานมานานแล้ว ส่วนรถคันดังกล่าวเป็นของ น.ส.ศศิธร ตนไม่ทราบว่าอาวุธดังกล่าวที่ตรวจพบเป็นของใคร ซึ่งวันนี้ตนได้ขับพาเพื่อนๆ ที่พักอยู่ย่านคลองเตยด้วยกันทั้งหมดมาเที่ยวที่ย่านถนนจันทร์ เมื่อมาถึงที่ซอยนราธิวาส 22 ก็เจอด่านตรวจจนกระทั่งมาถูกจับ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว น.ส.ศศิธร ไปตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 622 ชั้น 6 อาคารเดอะลิงค์ ภายในซอยสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กทม. ซึ่งเป็นห้องพักของ น.ส.ศศิธร ภายในห้องพบยาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท อาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อบาเร็ตต้า 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง สมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 7 เล่ม มีเงินหมุนเวียนนับล้านบาท เจ้าหน้าที่จึงยึดเอาไว้ตรวจสอบ
จากการสอบปากคำ น.ส.ศศิธร ให้การว่า ตนไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร โดยจะรับส่งยาจากชายคนหนึ่งให้กับลูกค้าซึ่งตนไม่รู้จักชื่อนามสกุลจริงของคนที่ส่งยามาให้ ยาไอซ์ที่พบในห้องมีคนนำมาทิ้งไว้ให้ที่ย่านคลองเตยเมื่อวานนี้ (27 ก.ค.) เมื่อรับของมาแล้วก็จะนำมาพักไว้ที่ห้อง ซึ่งตนจะไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านพักที่ย่านคลองเตยกับคอนโดฯ แห่งนี้ ตนทำมาแล้ว 3 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 40,000-50,000 บาท สำหรับอาวุธปืนที่พบในรถ เมื่อวานที่ผ่านมาตนได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ให้ไปรับของที่ย่าน รพ.เทพธารินทร์ เพื่อรอให้ชายอีกคนหนึ่งมารับไป ซึ่งตนไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริงของคนที่จะมารับของอีกเช่นกัน
ด้าน พ.ต.ต.กฤษกร กล่าวว่า ในวันนี้ตนพร้อมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจได้ตั้งด่านซึ่งเป็นด่านตรวจความมั่งคงที่บริเวณซอยนราธิวาส 22 เนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้กับบ้านพักของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งรถคันดังกล่าวผ่านมา ตนก็ได้เรียกตรวจค้นตามปกติ ไม่คิดว่าจะเจอยาเสพติดและอาวุธสงครามจำนวนมาก จากการสอบปากคำและตรวจค้นห้องพักของ น.ส.ศศิธร คาดว่า น.ส.ศศิธร น่าจะเป็นเครือข่ายของ “ภาพ 70 ไร่” นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ย่านคลองเตย ส่วนนายสมมาตรน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงกันที่ตลาดคลองเตย
พ.ต.ต.กฤษกร กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำ น.ส.ศศิธร อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อขยายผลต่อไป รวมถึงจะต้องสอบสวนคนขับรถและกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดทั้งหมดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุได้ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงร่วมทำการสอบปากคำและทำการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในเช้าวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจค้นภายในห้องของ น.ส.ศศิธร นอกจากจะพบยาเสพติดและอาวุธปืนแล้ว ยังพบเสื้อแจ็กเกตสีดำ จำนวน 1 ตัว ด้านหลังปักอักษรเป็นชื่อของ เสธ.คนดังคนหนึ่ง เมื่อผู้สื่อข่าวเห็นและกำลังจะขอถ่ายภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รีบเก็บเสื้อดังกล่าวทันที
