จ่อข้อหา “กบฏ” แกนนำ นปช.-โทษประหาร-คุกตลอดชีวิต!

ตำรวจจ่อตั้งข้อหา “กบฏ” แกนนำ นปช. หลังเข้ามอบตัวทั้ง"วีระ-ณัฐวุฒิ-เหวง-สุภรณ์" ชี้โทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต หรือติดคุกหัวโต ขณะที่อีก 2 แกนนำคนสำคัญ"จตุพร-จักรภพ" ดำดินเผ่นหายหน้าจากทำเนียบฯ

วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. อย่างเป็นทางการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายหลังแกนนำนปช.ทั้ง 4 คน ได้ส่งผู้ชุมนุมกลับภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทันทีที่ทั้งหมดเดินทางมาถึงกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทางตำรวจได้พาขึ้นไปสอบปากคำ ภายในห้องประชุมชั้น 2 โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน หรือผู้ไม่เกี่ยวข้องขึ้นไปโดยเด็ดขาด ในขณะที่บริเวณด้านหน้า บช.น.มีตำรวจ 3-4 นาย พร้อมอาวุธครบมือ กันไม่ให้การ์ดคนเสื้อแดงที่ยังเดินทางมากับขบวนของนายวีระประมาณ 20 คน เข้าไปส่งแกนนำทั้ง 4 คนด้วย ซึ่งก็ได้เกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย โดยไม่มีเหตุบานปลาย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาต่อแกนนำทั้ง 4 คน ฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยการชุมนุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไปในเบื้องต้น แต่อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์ว่าบรรดาแกนนำ นปช.ทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหา 1.ในความผิดฐานใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 2. สะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการ หรือ สมคบกันเพื่อเป็นกบฏ ระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี มาตรา 114 และ 3.มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 และ 216

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้สลายตัวไปจากทำเนียบรัฐบาลแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีใครพบตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข 2 แกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงแต่อย่างใด

ตร.มั่นใจเคลียร์เสื้อแดงหมดเย็นนี้
ด้าน พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในขณะนี้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น หลังจากที่นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำคนสำคัญ ประกาศยุติการชุมนุม โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะนำตัวแกนนำที่เข้ามอบตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งจะพิจารณาออกหมายจับในข้อกล่าวหาชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งขัดกับพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงาน นายจักรภพ เพ็ญแข และนายจตุพร พรหมพันธุ์ 2 แกนนำคนสำคัญได้เข้ามอบตัวแต่อย่างใด

“ผมได้รายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุมในการเดินทางกลับบ้านด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเคลียร์มวลชนคนเสื้อแดงออกจากพื้นที่การชุมนุมได้ก่อนเย็นวันนี้” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว

ก่นด่าแกนนำ “เอาตัวรอด-ทอดทิ้ง”

ที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต หรือลานพระบรมรูปทรงม้า ยังคงมีบรรดากลุ่มผู้ชขุมนุมพากันนั่งรอรถที่ทางการได้จัดไว้เพื่อเดินทางกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์และบางคนถึงกับด่าทอแกนนำ นปช.ว่าเอาตัวรอด ทอดทิ้ง ไม่มาดูแล ในขณะที่บางคนถึงกับเดินไปขอเงินจากตำรวจที่ยืนรักษาการณ์อยู่บริเวณดังกล่าวเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นพ.เหวง ได้ขึ้นพูดบนรถบรรทุกผ่านเครื่องขยายเสียง เพื่อขอให้ผู้ที่มาร่วมชุมนุมเดินทางกลับบ้านนั้น ปรากฏว่ามีผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งเดินไปขอเงินจาก นพ.เหวง โดยระบุว่ารถที่นำมาร่วมชุมนุมถูกทุบ จึงจะขอค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ โดย นพ.เหวงบอกกับเจ้าของรถผู้มาร่วมชุมนุมว่าให้ไปขอกับนายณัฐวุฒิเอง

อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณสี่แยกวังแดงยังมีความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนไม่พอใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนได้พากันไล่ตีกลุ่มผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่าเสนอข้อมูลข่าวสารด้วยความลำเอียง อีกทั้งยังได้บอกกล่าวกับผู้ชุมนุมที่จะเดินทางกลับบ้านว่าให้ระวังพวกพันธมิตรฯ จะคอยดักตี แต่เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปแล้ว ปรากฏว่าเป็นชาวบ้านในละแวกที่กลุ่มผู้ชุมนุมไปก่อความเดือดร้อนจึงพากันไม่พอใจและมาคอยโห่ส่ง โดยไม่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ แต่อย่างใด