“จตุพร” มอบทนายพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหาแทน อ้างใช้สิทธิ ส.ส.อยู่ระหว่างสมัยประชุมสภาฯ หลังปิดการประชุมพร้อมเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ส่วนสมุนแดงถ่อยรวมตัวที่สนามหลวงกลับภูมิลำเนา ด้าน ผบช.น.ชี้ “ตู่-เพ็ญ” ยังกบดานในไทย
วันนี้ (15 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายองอาจ คำทอง ทนายความรับมอบอำนาจจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้มารับทราบข้อกล่าวหาของนายจตุพร ว่ามีข้อหาอะไรบ้าง และเข้าพบพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้วพร้อมทราบข้อกล่าวหา ซึ่งยังไม่เข้ามอบตัว โดยขอใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดสมัยการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากปิดสมัยการประชุม นายจตุพรจะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
“ท่านแจ้งผมว่าขณะนี้ยังอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด และบอกว่าสบายดี ไม่ต้องห่วงและไม่เป็นอะไรทั้งสิ้น ผมไม่รู้ว่านายจตุพรอยู่ที่ไหนเพราะไม่ได้แจ้งมา ท่านแจ้งมาเท่านี้”
ทั้งนี้ นายจตุพรถูกศาลอาญาออกหมายจับตามความผิดตามมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธ ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
แดงถ่อยสนามหลวงกลับภูมิลำเนา
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงบางส่วนซึ่งมีกลุ่มคนขับแท็กซี่ สามล้อ 10 กว่าคนชุมนุมที่ท้องสนามหลวง พร้อมทั้งนำภาพถ่ายคนเสื้อแดงที่บาดเจ็บและเป็นลมหมดสติมาแจกผู้สัญจรผ่านไปมา โดยบางคนกล่าวว่าทหารฆ่าประชนนำศพคนเสื้อแดงไปทิ้งนับร้อยศพ และเรียกร้องให้ญาติผู้ตายมาแจ้งเพื่อจะได้ทราบตัวเลขที่แท้จริงว่ามีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนเท่าไหร่
นอกจากนี้ ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัยบริเวณรอบพื้นที่ เพื่อป้องกันมือที่ 3 เข้ามาสร้างสถานการณ์ โดยบริเวณรอบท้องสนามหลวงฝั่งวัดพระแก้วฯ ได้มีชาวต่างชาติเริ่มทยอยเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมและท่องเที่ยวตามปกติ ส่วนสถานที่ราชการและสถานที่สำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงมหาดไทย กระทวงกลาโหม และกระทรวงสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนราชดำเนินยังคงมีกำลังทหารตรึงกำลังดูแลความปลอดภัยอยู่
ผบช.น.เชื่อ “ไอ้ตู่-นังเพ็ญ” กบดานในไทย
ในวันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.กล่าวถึงการชุมนุมที่สนามหลวงว่า ขณะนี้มีแต่เพียงการจับกลุ่มพูดคุยกัน โดยไม่ได้ใส่เสื้อสีแดง ซึ่งทางตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสังเกตการณ์ และถ้าหากมีการปราศรัยโจมตีกันก็สามารถจับกุมได้เลย
“นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข 2 ใน 14 แกนนำที่ถูกออกหมายจับขณะนี้น่าจะยังอยู่ในประเทศ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าหนีไปกบดานที่ฮ่องกง เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่” ผบช.น.กล่าว
เปิดจราจรถนนสายหลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานจราจร กล่าวว่า หลังกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าเก็บกวาดขยะและรื้อเต๊นท์ โดยขณะนี้ได้เปิดเส้นทางการจราจรเกือบทุกเส้นทาง แต่ที่ยังปิดอยู่ 3 จุดหลักๆ รอบพระราชวังสวนจิตรลดา และรอบทำเนียบรัฐบาล คือ ถนนที่ตัดผ่านลานพระบรมรูปทรงม้า ถึงแยกมัฆวานรังสรรค์ ถนนพิษณุโลก และตั้งแต่แยกนางเลิ้งถึงแยกวังแดง โดยในจุดดังกล่าวเจ้าหน้าที่กำลังเร่งเก็บกวาดซากปรักหักพังจากการทำลายของกลุ่มเสื้อแดง และวางกำลังรักษาความปลอดภัยโดยรอบเพิ่มเติม
พบกล้องวงจรปิดเสียหาย 4 ตัว
พล.ต.ต.ภานุ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพบว่ากล้องวงจรปิดที่ติดตามแยกสำคัญๆถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำลายไป 4 ตัว มีที่แยกพานิช แยกลานพระบรมรูปทรงม้า แยกยมราชและแยกถนนศรีอยุธยา ขณะนี้ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมแล้ว นอกจกานี้ พบว่าเสาสัญญาณไฟจราจรถูกทำลายอีกจำนวนหนึ่งเช่นที่แยกผ่านฟ้า แยกยมราช แยกลานพระบรมรูปทรงม้า แยกนางเลิ้ง และแยกพานิช ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกโบกสัญญานมือไปก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่งานบำรุงรักษาสัญญาณไฟจราจร ของ กทม.กำลังดำเนินการซ่อมแซมอยู่ คาดว่าวันเปิดทำการราชการน่าจะเสร็จสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามยังพบว่าป้อมจราจรแยกนางเลิ้งยังถูกทุบจนกระจกแตกอีกด้วย