ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ 13 แกนนำ นปช. “วีระ-จักรภพ-จตุพร-ณัฐวุฒิ” รวมถึง “ทักษิณ” หัวหน้ากองโจรผู้อยู่เบื้องหลังสั่งการเผาเมือง ด้าน “ณัฐวุฒิ” โวยถูกจับแต่ไม่ให้ประกันตัว พร้อมถูกแยกขัง ขณะที่โฆษกกองทัพบกรับคืนนี้มีข่าวเตรียมก่อวินาศกรรมจริง พร้อมปรับกำลังพลรับมือเต็มที่
วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ควบคุมตัว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจการส่งกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางกลับภูมิลำเนามาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย นพ.เหวง มี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ต่อมา พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสอบสวนและทีมสอบสวนได้เดินทางมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหากับนายณัฐวุฒิ นายวีระ และ นพ.เหวง
ต่อมาพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ขออนุมัติศาลอาญาให้ออกหมายจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 13 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมอยู่ด้วย โดยพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าทั้งหมดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 มาตรา 116 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ตาม (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
ส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอดิศร เพียงเกษ นายจักรภพ เพ็ญแข นพ.เหวง โตจิราการ นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง นายพีระ พิมพ์กลาง นายณรงศักดิ์ มณี นายณัฐพงศ์ อินทะนาง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และชายไทยไม่ทราบชื่อปรากฏในภาพถ่ายอีก 1 คน ถูกออกหมายจับตามความผิดตามมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธ ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้จับกุมนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ไปแล้ว 1 คน รวมมีผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในเหตุการณ์ความวุ่นวายครั้งนี้จำนวนไปแล้ว 14 คน
ด้าน นพ.ทศพร เสรีรัตน์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย นพ.ทศพร กล่าวว่า เป็นตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากยังมีความคลางแคลงใจบางอย่างคือเรื่องของคนเจ็บ ตาย และได้รับการยืนยันจากผู้ที่เข้าร่วมชุมุนมว่ามีคนเจ็บและตาย และยังมีคนสูญหายอีกจำนวนมากและยังมีภาพที่ได้รับจากช่างภาพอิสระ และยังมีการบอกเล่ากันว่า มีทั้งคนเจ็บ คนตาย และมีการลากศพไปหลายศพ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่เป็นญาติพี่น้องที่สูญหาย สามารถแจ้งได้ที่มูลนิธิ 111 และทางมูลนิธิจะเป็นตัวกลางในการติดตามบุคคลที่สูญหาย รวมถึงที่บาดเจ็บซึ่งทางเราก็จะเข้าไปดูแล โดยจะไม่เลือกว่าเป็นฝ่ายไหน
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีความแปลกประหลาดเกิดขึ้นในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพวกตนทำผิดคดีอาญา และ พ.ร.บ.จราจร และเกิดเหตุก่อนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีเหตุผลที่ตำรวจจะพาพวกตนไปขังเดี่ยวในค่ายทหาร โดยทราบมาว่านายวีระจะถูกนำตัวไปขังที่ ศรภ.บก.ทท. ส่วนตนถูกนำตัวไปขัง ที่หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน บางเขน และ นพ.เหวง โตจิราการ จะถูกนำตัวไปควบคุมที่ นปอ.ทุ่งสีกัน ดอนเมือง นอกจากนี้ยังอ้างว่าความแปลกประหลาดอีกประเด็นคือ พนักงานสอบสวนค้านประกันในชั้นสอบสวน ทั้งที่ข้อหาไม่ได้ร้ายแรงเป็นการใช้ 2 มาตรฐาน เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ให้ประกันตัวไปเลย นอกจากนั้น ยังไม่อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้ประกันตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาแยกขึ้นรถตู้ไปยังค่ายทหาร แต่ทั้งหมดได้ขัดขืนและเจรจากันอยู่ โดยแกนนำคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวที่ บช.น.เพียงแห่งเดียวและไม่ยอมไปค่ายทหารอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ มีกลุ่มการ์ด นปช.และผู้ชุมนุมประมาณ 10 คน ได้กดดันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวแกนนำทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกผู้ชุมนุม นปช.มาร่วมชุมนุมด้วย แต่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้สกัดเส้นทางที่มุ่งสู่ บช.น.ไว้หมดแล้ว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ขณะนี้ ยังคงมีการชุมนุมของประชาชนจำนวนหนึ่ง ที่มีประมาณ 500 คน และไม่ได้สวมเสื้อสีแดงที่ท้องสนามหลวง โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีความพยายามปลุกกระแสว่าทหารทำร้ายประชาชน จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน โดยยืนยันว่าทหารใช้กระสุนปืนจริงในการยืงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากจำเป็นต้องป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำร้าย จะใช้กระสุนซ้อมรบซึ่งไม่มีหัวกระสุน เพื่อข่มขวัญเท่านั้น และจากการสอบถามแพทย์ผู้รักษาผู้บาดเจ็บ พบว่าไม่ได้ถูกกระสุนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่ทหารใช้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า ทหาร 1 กองร้อยที่ตรึงกำลังบริเวณท้องสนามหลวง จะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ในเรื่องการห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่า ทหารจะสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หลังจากเคลียร์พื้นที่ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์และเทเวศร์แล้ว ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีการปรากฏตัวแกนนำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะต้องมีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังยอมรับด้วยว่า มีข่าวการเตรียมก่อเหตุ หรือการก่อวินาศกรรม ในคืนนี้จริง ดังนั้น ทหารจะปรับกำลังพลใน 50 เขตของกรุงเทพฯ และจะประสานตำรวจ เพื่อตั้งจุดตรวจ โดยจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากประชาชน ในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อการเข้าระงับเหตุ
วันนี้ (14 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้ควบคุมตัว นายวีระ มุสิกพงศ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจการส่งกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางกลับภูมิลำเนามาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย นพ.เหวง มี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.ควบคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ต่อมา พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสอบสวนและทีมสอบสวนได้เดินทางมาสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหากับนายณัฐวุฒิ นายวีระ และ นพ.เหวง
ต่อมาพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ขออนุมัติศาลอาญาให้ออกหมายจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 13 คน ประกอบด้วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รวมอยู่ด้วย โดยพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าทั้งหมดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 มาตรา 116 ที่ระบุว่าผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต ตาม (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
ส่วน นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายอดิศร เพียงเกษ นายจักรภพ เพ็ญแข นพ.เหวง โตจิราการ นายสิรวิชญ์ พิมพ์กลาง นายพีระ พิมพ์กลาง นายณรงศักดิ์ มณี นายณัฐพงศ์ อินทะนาง นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และชายไทยไม่ทราบชื่อปรากฏในภาพถ่ายอีก 1 คน ถูกออกหมายจับตามความผิดตามมาตรา 215 ระบุว่าผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดคนใดมีอาวุธ ผู้ที่กระทำความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกิน สี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้จับกุมนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ไปแล้ว 1 คน รวมมีผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในเหตุการณ์ความวุ่นวายครั้งนี้จำนวนไปแล้ว 14 คน
ด้าน นพ.ทศพร เสรีรัตน์ อดีต ส.ส.แพร่ พรรคไทยรักไทย พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินทางมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย นพ.ทศพร กล่าวว่า เป็นตัวแทนกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากยังมีความคลางแคลงใจบางอย่างคือเรื่องของคนเจ็บ ตาย และได้รับการยืนยันจากผู้ที่เข้าร่วมชุมุนมว่ามีคนเจ็บและตาย และยังมีคนสูญหายอีกจำนวนมากและยังมีภาพที่ได้รับจากช่างภาพอิสระ และยังมีการบอกเล่ากันว่า มีทั้งคนเจ็บ คนตาย และมีการลากศพไปหลายศพ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ที่เป็นญาติพี่น้องที่สูญหาย สามารถแจ้งได้ที่มูลนิธิ 111 และทางมูลนิธิจะเป็นตัวกลางในการติดตามบุคคลที่สูญหาย รวมถึงที่บาดเจ็บซึ่งทางเราก็จะเข้าไปดูแล โดยจะไม่เลือกว่าเป็นฝ่ายไหน
ด้าน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า มีความแปลกประหลาดเกิดขึ้นในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพวกตนทำผิดคดีอาญา และ พ.ร.บ.จราจร และเกิดเหตุก่อนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่มีเหตุผลที่ตำรวจจะพาพวกตนไปขังเดี่ยวในค่ายทหาร โดยทราบมาว่านายวีระจะถูกนำตัวไปขังที่ ศรภ.บก.ทท. ส่วนตนถูกนำตัวไปขัง ที่หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน บางเขน และ นพ.เหวง โตจิราการ จะถูกนำตัวไปควบคุมที่ นปอ.ทุ่งสีกัน ดอนเมือง นอกจากนี้ยังอ้างว่าความแปลกประหลาดอีกประเด็นคือ พนักงานสอบสวนค้านประกันในชั้นสอบสวน ทั้งที่ข้อหาไม่ได้ร้ายแรงเป็นการใช้ 2 มาตรฐาน เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ เพียงมารับทราบข้อกล่าวหา ก็ให้ประกันตัวไปเลย นอกจากนั้น ยังไม่อธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงไม่ให้ประกันตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาแยกขึ้นรถตู้ไปยังค่ายทหาร แต่ทั้งหมดได้ขัดขืนและเจรจากันอยู่ โดยแกนนำคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวที่ บช.น.เพียงแห่งเดียวและไม่ยอมไปค่ายทหารอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ มีกลุ่มการ์ด นปช.และผู้ชุมนุมประมาณ 10 คน ได้กดดันเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวแกนนำทั้งหมด พร้อมทั้งเรียกผู้ชุมนุม นปช.มาร่วมชุมนุมด้วย แต่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้สกัดเส้นทางที่มุ่งสู่ บช.น.ไว้หมดแล้ว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวผ่านรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า ขณะนี้ ยังคงมีการชุมนุมของประชาชนจำนวนหนึ่ง ที่มีประมาณ 500 คน และไม่ได้สวมเสื้อสีแดงที่ท้องสนามหลวง โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ มีความพยายามปลุกกระแสว่าทหารทำร้ายประชาชน จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน โดยยืนยันว่าทหารใช้กระสุนปืนจริงในการยืงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากจำเป็นต้องป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำร้าย จะใช้กระสุนซ้อมรบซึ่งไม่มีหัวกระสุน เพื่อข่มขวัญเท่านั้น และจากการสอบถามแพทย์ผู้รักษาผู้บาดเจ็บ พบว่าไม่ได้ถูกกระสุนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่ทหารใช้
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวต่อไปว่า ทหาร 1 กองร้อยที่ตรึงกำลังบริเวณท้องสนามหลวง จะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ในเรื่องการห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่า ทหารจะสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หลังจากเคลียร์พื้นที่ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์และเทเวศร์แล้ว ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่มีการปรากฏตัวแกนนำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะต้องมีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบกยังยอมรับด้วยว่า มีข่าวการเตรียมก่อเหตุ หรือการก่อวินาศกรรม ในคืนนี้จริง ดังนั้น ทหารจะปรับกำลังพลใน 50 เขตของกรุงเทพฯ และจะประสานตำรวจ เพื่อตั้งจุดตรวจ โดยจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากประชาชน ในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อการเข้าระงับเหตุ