“หทัย” นักแข่งรถชื่อดังโจร 200 ล้าน ปริปากแบ่งรับแบ่งสู้ร่วมขบวนการปล้นทรัพย์มโหฬาร บอกปัดฉายา “ไอ้หมูบิน” ในวงการชื่อ “หมูสกปรก” พร้อมปฏิเสธยิงปืนต่อสู้ ตร. อ้างเล่นปืนไม่เป็น ที่หลบหนีเพราะตกใจไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะติดต่อ ตร.ที่รู้จักขอมอบตัว ด้าน “วรพงษ์” ขอพิจารณาหลักฐานตรวจสอบข้อหาต่อสู้- พยายามฆ่าก่อน “จักรทิพย์” ยันทำหน้าที่เป็นคนขับรถ ส่วนผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์แล้ว 55 ราย เชื่อยังมีพระเครื่องและนาฬิกาแบรนด์เนมจำหน่ายออกไม่หมด
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.แถลงข่าวกรณี นายหทัย หรือออฟ ไชยวัณณ์ นักแข่งรถชื่อดัง ที่ติดต่อขอมอบตัวกับ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 และส่งตัวมายัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.เป็นผู้รับตัว
นายหทัยให้การว่า วันนี้ได้เดินทางเข้ามอบตัวโดยไม่มีการหลีกหนีใดๆ ทั้งสิ้น แม้ตนจะเป็นนักแข่งรถแต่ตนไม่ได้มีฉายาไอ้หมูบิน ซึ่งฉายาดังกล่าวเป็นฉายาของรุ่นพี่ การออกมาบอกว่าตนมีฉายาดังกล่าวทำให้บุคคลนั้นเกิดความเสียหาย จึงขอแก้ข่าวในส่วนนี้ สาเหตุที่เดินทางเข้ามอบตัวกับ พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 นั้น ต้องขอย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ผ่านมา ขณะกำลังออกจากบ้าน ขณะที่กำลังถอยรถออกจากบ้านนั้น สังเกตุเห็นมีคนอยู่ที่หน้าปากซอบ้าน ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ขณะที่กำลังถอยรถนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จึงได้รีบขับรถออกไป และไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อทราบว่าเป็นตำรวจก็ได้พยายามติดต่อขอเข้ามอบตัว และพยายามติดต่อประสานกับตำรวจที่รู้จักเพื่อขอมอบตัว
“ส่วนที่มีเสียงปืนดังขึ้นนั้น ผมไม่มีปืน และยืนยันว่า เล่นปืนไม่เป็น ส่วนปืนที่เจอในรถนั้นไม่ใช่ของผมเป็นของเพื่อนและคนละกรณีกัน ส่วนที่ต้องหลบหนีนั้น ยอมรับว่า ขณะนั้นเกิดความตกใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อผ่านมาสักครู่และทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ขณะนั้นคิดว่าคงกลับเข้าไปไม่ได้แล้ว จึงพยายามที่จะติดต่อขอมอบตัวดีกว่า และยอมรับว่า ยังอยู่ในอาการตกใจ อีกทั้งไม่ทราบว่าเสียงปืนที่ได้ยินนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ยิงหรือเปล่า และไม่เห็นด้วยว่าเจ้าหน้าที่ยิงปืนใส่รถของผม เพียงแต่ได้ยินว่ามีเสียงปืน และยืนยันว่าไม่ได้ยิงโต้ตอบ เพราะผมใช้ปืนไม่เป็น และ ผมมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่” นายหทัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีส่วนร่วมในขบวนการปล้นทรัพย์นี้หรือไม่ นายหทัย กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในขบวนการ แต่ยอมรับว่ารู้จักกัน แต่เมื่อมีการแบ่งเงินตนก็ได้บ้างแต่ไม่ใช่อย่างที่เป็นข่าว ส่วนเรื่องอื่นๆ ขอให้ปากคำกับตำรวจดีกว่า ส่วนที่มีคนซัดทอดว่าตนเป็นคนดูต้นทางนั้น คนที่ซัดทอดสามารถทำได้ แต่ ตนขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่ว่าตนให้การปฏิเสธ แต่ยืนยันขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า ส่วนจะกลับไปแข่งรถอีกหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่คิด คิดเพียงว่าขณะนี้อยู่ในการควบคุมของตำรวจ ต้องพยายามพูดคุยให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อปฏิเสธว่า ไม่ได้รู้จักกับขบวนการนั้น แต่เมื่อมีการแบ่งเงินทำไมจึงรับ นายหทัย กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าที่มีการไปปล้นที่หมู่บ้านธารารมณ์ นั้น นายหทัย อึกอักก่อนที่จะยอมรับว่าไป แต่ปฏิเสธโดยบอกว่าไม่ได้ทำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เงินที่พบในบ้านของ นายหทัย และมีการพยายามเผาทำลายนั้น นายหทัยกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องนั้น ส่วนที่ว่าที่บ้านเปิดเป็นอู่ซ่อมรถ และมีป้ายปฏิเสธว่าไม่รับคนจนนั้น ตนยืนยันว่า เป็นเพียงเรื่องสนุกสนานเท่านั้น และอู่นี้ก็เปิดมาได้ประมาณ 8 ปีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า เงินที่ได้มาจากส่วนแบ่งนั้นเอาไปใช้จ่ายในส่วนใด นายหทัย กล่าวว่า ขอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวว่า ลักษณะนี้เป็นการเข้ามอบตัว ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่จะมีการพิจารณาข้อหา ต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าพนักงาน และพยายามฆ่านั้น จะต้องตรวจสอบหลักฐานจากพนักงานสอบสวนก่อน และจากการตรวจสอบประวัติยังไม่พบว่าเคยก่อคดีอาชญากรรมใดๆ มาก่อน ส่วนที่ว่าจะมีผู้ร่วมขบวนการอีกหรือไม่นั้นขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลต่อไป แต่ที่ต้องดำเนินการในขณะนี้ คือ ต้องการคือการติดตามทรัพย์ของผู้เสียหายนำมาคืนให้ได้มากที่สุด เชื่อว่า หากผู้ต้องหาทั้งหมดให้ความร่วมมือ จะสามารถติดตามของกลางมาได้อย่างแน่นอน จากข้อมูลที่ได้มาทรัพย์สินที่เป็นพระเครื่อง หรือนาฬิกาแบรนด์เนม น่าจะยังจำหน่ายออกไปไม่หมด
พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้เสียหายที่ถูกแก๊งนี้เข้าไปโจรกรรมทรัพย์สินนั้น ขณะนี้เท่าที่ได้รับรายงานทราบว่ามีประมาณ 27 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตรวจสอบก่อนว่าเป็นผู้เสียหายจริงๆ หรือไม่ ส่วนจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่นั้น ต้องขอพิจารณาอีกครั้ง ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีกนั้นเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องยากในการติดตาม
“ขอฝากเตือนประชาชน ที่ต้องออกจากบ้านไปหลายวันเนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายนั้น จะมีการสังเกตุบ้านหลังใหญ่ ยี่ห้อรถดีๆ กดกริ่งบ้านเมื่ไม่มีคนอยู่ก็ยังไม่มีการตัดสินใจทันที ยังมีการสังเกตุพื้นบ้านอีกว่ามีใบไม้หล่นอยู่ที่พื้นมากหรือไม่ ในตู้จดหมายมีจดหมายค้างอยู่มากหรือไม่ หากมีเยอะแสดงว่าไม่มีคนอยู่บ้านหลายวัน ก็จะลงมือเข้าโจรกรรม เพราะการทำงานของกลุ่มนี้เมื่อเข้าไปแล้วจะใช้เวลานาน จึงอยากฝากเจ้าของบ้านที่ต้องไปธุระหลายวันควรที่จะฝากบ้านกับเพื่อนบ้านด้วย หรือไม่ก็ควรที่ให้ญาติพี่น้องมาช่วยดูแลจะดีที่สุด” พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า นายหทัย จะทำหน้าที่เป็นคนขับ เนื่องจากเป็นนักแข่งรถและขับรถเก่ง ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอยู่ 2 คน จะทำหน้าที่เป็นผู้ที่เข้าไปในบ้านและลงมือโจรกรรม โดยมักจะมีการสลับหน้าที่กันทำ โดย นายหทัย ยังให้การรับสารภาพว่า ต้องการที่จะแยกตัวออกมาแต่เหมือนขึ้นหลังเสือ จะแยกตัวออกมาก็ทำได้ลำบาก อีกทั้งบางครั้งเมื่อได้รับส่วนแบ่งมาก็ยังถูกเพื่อนยืมกลับไปอีก เหมือนโดนหักหัวคิว
ผู้สื่อข่าวรายงนว่า ฉายา “หมูบิน” คือ ฉายาของ “มนัส ควรสถาพร” ส่วน นายหทัย นั้น ในวงการรถแข่งจะเรียกว่า “หมูสกปรก” เพราะนอกจากนายหทัยจะแข่งรถแล้ว ก็ยังคงทำหน้าที่ซ่อม จูนเครื่องยนต์ด้วย ทำให้เนื้อตัวมอมแมมสกปรกไปด้วยน้ำมันเครื่อง จึงเป็นที่มาของฉายา “หมูสกปรก”
ต่อมาเวลา 15.00 น.เจ้าหน้าที่กก.สืบสวน บก.น.4 ควบคุมตัวนายหทัย ไชยวัณณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่กก.สืบสวน บก.น.4 โดยมี พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สืบสวน บก.น.4 พ.ต.ท.ทวีป โพธิ์แก้ว รอง ผกก.สืบสวน บก.น.4 ทำการสอบปากคำ เบื้องต้นตำรวจระบุว่า นายหทัย ให้การรับสารภาพว่า อยู่ในแก๊งดังกล่าวจริง โดยมีหน้าที่ขับรถตระเวนหาบ้านเป้าหมายที่คาดว่าจะมีทรัพย์สินอยู่จำนวนมาก เมื่อได้เป้าหมายแล้วก็จะขับรถพาทีมงานไปเท่านั้น ไม่เคยเข้าไปในบ้านของผู้เสียหายแต่อย่างใด หลังจากที่งานเสร็จก็จะขับรถพาทีมงานหลบหนี ส่วนครั้งล่าสุดที่เข้าไปในหมู่บ้านธารารมณ์นั้น ได้ส่วนแบ่งมา 3 ล้านกว่าบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสืบสวน พบว่า นอกจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คนที่ถูกออกหมายจับไปแล้วนั้น ยังมีผู้ต้องหาที่ร่วมแก๊งนี้อีก 1 คน คือ นายอ้น ไม่ทราบนามสกุล มีหน้าที่จัดหาบัตรเข้าออกหมู่บ้าน ใบขับขี่ปลอม และป้ายทะเบียนปลอม ให้กับกลุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จนถึงขณะนี้ มีผู้เสียหายมาตรวจสอบของกลางและแจ้งความเพิ่มเติมแล้วรวม 55 ราย แบ่งเป็นวานนี้ (4 มี.ค.) จำนวน 18 ราย และวันนี้อีก 37 ราย โดยในจำนวนผู้เสียหายดังกล่าวพบทรัพย์สินของตนเองถึง 22 ราย
ต่อมาเวลา 18.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน บก.น.4 และตำรวจ สน.วังทองหลาง ควบคุมตัวนายหทัย ไชยวัณณ์ ออกจาก กก.สืบสวน บก.น.4 ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หมู่บ้านธารารมณ์ ซอยรามคำแหงซอย 8 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ที่เจ้าตัวกับพวกร่วมกันเข้าไปงัดเซฟได้ทรัพย์สินไปจำนวนมาก
โดยเริ่มจากจุดแรกที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ นายหทัย ทำการแลกบัตรจากรปภ.ก่อนจะขับรถเข้าไป จุดต่อเป็นจุดที่นายหทัย นำรถไปจอดรอพรรคพวกที่บริเวณถนนทางเข้าบ้านเลขที่ 39/2 ที่แก๊งนายหทัย เข้าไปลงมือโจรกรรมทรัพยสินออกมา จากนั้นก็รับสมาชิกในแก๊งทั้งหมดหลบหนีออกจากหมู่บ้านดังกล่าวไป โดยใช้เวลาในการทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 20 นาที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายหทัยไปสอบปากคำเพิ่มเติม ที่สน.วังทองหลาง
“ไอ้หมูบิน” มอบตัวแล้ว! น.1 ชี้ชัดพยายามฆ่า ตร.-ดารา-ส.ว.ตกเป็นเหยื่อ!
“วรพงษ์” ยัน “ไอ้หมูบิน” ตีนแมว 200 ล้านมอบตัวบ่ายนี้-เหยื่อร้องทุกข์แล้วกว่า 10 ราย
จัดการเด็ดขาด! หาก “ไอ้หมูบิน” ขัดขืน เตรียมสอบ M-79 เอี่ยวยิงพันธมิตรฯ หรือไม่
จับแก๊ง “ไอ้หมูบิน” แชมป์แข่งรถลักทรัพย์มโหฬาร 200 ล้าน!