xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” โบกมือลา “วรพงษ์” ประเดิมคุมม็อบเสื้อแดงป่วน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“สุชาติ” ยิ้มชื่นมื่นอำลาตำแหน่ง ผบช.น. พร้อมส่งมอบงาน “วรพงษ์” รับไม้ต่อ ก่อนร่วมถกประชุมตำรวจ-ทหาร-กทม. “พัชรวาท” นั่งหัวโต๊ะซักซ้อมทำความเข้าใจดูแลการชุมนุมของม็อบเสื้อแดงบ่าย 2 วันนี้

วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.45 น.พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ทำพิธีสักการะพระอนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากฤษฎาภินิหาร กรมพระนเรศวรฤทธิ์ เจ้ากระทรวงนครบาลพระองค์แรก หน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจนครบาล และอนุสาวรีย์ผู้พิทักษ์ประชาชน ณ ลานอเนกประสงค์ เพื่อเป็นสิริมงคลก่อนอำลาตำแหน่งไปปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 ภายหลังลากิจไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวหลายวันที่ผ่านมามอบให้ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น.ปฏิบัติราชการแทน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.สุชาติมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมตอบข้อซักถามถึงการดูแลความปลอดภัยรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่ม นปช.วันที่ 23-24 ก.พ.ว่า วันจันทร์ที่ 23 ก.พ.นี้เวลา 15.00 น.จะมีพิธีส่งมอบงานและธงประจำตำแหน่ง ผบช.น.ให้แก่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.คนใหม่ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ควบคุมสั่งการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนแทนตนที่ไปรับหน้าที่ ผบช.ภ.4 ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และช่วงบ่ายเวลา 14.00 น.วันนี้ พล.ต.ท.สุชาติได้ทำหนังสือเชิญ พล.ต.ท.วรพงษ์ เข้าร่วมประชุมทำความเข้าใจซักซ้อมการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยการชุมนุมโดยมี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.เป็นประธานด้วย พร้อมประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวกลุ่ม นปช. โดยเชิญผู้แทนจากกองทัพบก แม่ทัพภาคที่ 1 ตัวแทนสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ปลัด กทม.พร้อมคณะทำงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงเข้าประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างพร้อมเพรียง

ส่วนเรื่องที่ว่าจะต้องเข้าไปดูแลเรื่องกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยหรือไม่ เพราะทำมาอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์วันที่ 24 ก.พ.มันเฉพาะหน้า พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวว่า ได้บอกให้ทราบถึงแผนการปฏิบัติต่างๆไปแล้ว การวางแผนถ้าเข้าใจในแผน ผู้ปฏิบัติซึ่งทำกันมานาน เข้าใจงาน แต่ถ้าผู้บังคับบัญชาจะสั่งการเป็นอย่างอื่นก็คงตอบไม่ได้ ถ้าผู้บังคับบัญชาสั่งให้มาดูหรือเป็นผู้ช่วยก็ยินดีปฏิบัติ แต่ถ้าไม่มีการสั่งการก็ต้องเป็นไปตามหน้าที่ของ ผบช.น.คนใหม่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่ขณะนี้ยังอยู่ในตำแหน่ง และกลุ่มนปช.จะรวมตัวกันในวันที่ 24 ก.พ. แต่ ครม.เปลี่ยนไปประชุมที่หัวหินอาจจะมีการแบ่งเป็น 2 ฝ่าย จะทำให้ทำงานง่ายขึ้นหรือไม่เพราะผู้ชุมนุมใน กทม.จะลดลง อดีตผบช.น.กล่าวทิ้งท้ายว่า การดำเนินการในเรื่องการควบคุมฝูงชนเป็นเรื่องของการข่าว ถ้ามามากหรือน้อยอย่างไรก็มีการประชุมเตรียมการเอาไวแล้ว

อดีต ผบช.น.ยังกล่าวถึงเรื่องคดียาเสพติดที่กำลังมีการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาร้ายแรง นอกจากจะทำลายสุขภาพแล้วยังทำให้พลังของประเทศชาติหมดไปด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ว่าจะเป็นตำรวจที่ไหน ก็มีนโยบายที่จะเร่งรัดปราบปรามให้หมดไป เห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้มีสถิติการจับกุมบ่อยขึ้น จำนวนของมากขึ้น แต่เนื่องจากว่ายาเสพติดไหลเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก เราจึงต้องเข้มงวดเรื่องการสกัดกั้นให้มากขึ้น

พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่บช.น.พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ พื้นที่ที่มีชุมชนเยอะ เช่นคลองเตย หรือพื้นที่ที่มีสถานบริการมาก เช่นห้วยขวาง บางรัก ต้องดำเนินการเป็นพิเศษ นอกจากนี้บริเวณที่มีการจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมากและมีการต่อสู้กันขณะจับกุมจะเป็นพื้นทีแถบชานเมือง ซึ่งเป็นที่พักยาและขนยาเข้ามา เราก็ป้องกันการนำเข้า การสืบสวนหาที่พักยา จับกุมขณะที่มีการขนส่งลำเลียง และการเข้าไปในสถานที่เสพ ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบช.น. ร่วมมือกับตำรวจจาก ปดส.เข้าไปจับกุมในสถานบริการและตรวจปัสสาวะนักเที่ยว ก็เป็นการร่วมกันทำงาน สำหรับเอเย่นต์ที่เป็นเป้าหมายของ บช.น. ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 10 ราย มีการตั้งไว้เป็น 10 อันดับ แต่จริงๆมีมากกว่านั้น และยาเสพติดที่แพร่ระบาดตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นยาบ้า

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การดูแลความสงบเรียบร้อยกลุ่มผู้ชุมนุมครั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคงใช้แผนปฏิบัติเดิม คือ “กรกฎ 48” จัดกำลังตำรวจนครบาล 1 ดูแลโดยรอบท้องสนามหลวง 2 กองร้อย 300 นาย ด้านนอกใช้กำลังตำรวจอีกส่วนประจำจุดสกัดทั้ง 4 จุด บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานผ่านฟ้าลีลาศ และเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เจรจาต่อรองไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในทำเนียบรัฐบาล พร้อมตรวจค้นไม่ให้มีการพกพาอาวุธ โดยมี พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นตัวแทนเจรจา และมี พล.ต.ท.วรพงษ์ ผบช.น.คนใหม่ปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมสั่งการกำลังตำรวจปราบจลาจล พร้อมประเมินสถานการณ์และมีอำนาจการตัดสินใจว่า จะให้กลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ผ่านในแต่ละจุดสกัดหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้นั้นตำรวจนครบาลใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยรักษาความปลอดภัยพื้นที่ที่มีการชุมนุม สถานที่ราชการสำคัญ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ทั้งหมด 70 กองร้อยจำนวน 10,500 นาย แบ่งเป็น 2 ผลัดๆ ละ 35 กองร้อย 5,250 นายทำหน้าที่ผลัดละ 12 ชั่วโมง และมีกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, 2 และ 7 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนร่วมด้วย อีกทั้งกำลังทหารอีก 22 กองร้อยคอยดูแลอย่างเต็มที่พร้อมรับมือหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย โดยการปฏิบัติงานของตำรวจจะไม่มีการใช้อาวุธ หรือแก๊สน้ำตาอย่างเด็ดขาดมีเพียงโล่กำบังเท่านั้นและจะไม่ปล่อยให้ผู้ชุมนุมกระทำการใดๆ ที่เป็นการละเมิดกฎหมายอย่างเด็ดขาดอีกทั้งจะไม่ยอมให้มีการบุกยึดสถานที่ราชการสำคัญโดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา

นอกจากนี้ยังมีการประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากหน่วยบรรเทาสาธารณภัยจำนวน 6 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 4 คัน รถควบคุมผู้ต้องหาจำนวน 20 คันมาเตรียมการไว้บริเวณสะพานมัฆวานฯ และเพิ่มกล้องวงจรปิดโดยรอบทำเนียบรัฐบาล ในการตรวจสอบความเคลื่อนไหว ประเมินด้านการข่าวการชุมนุมกลุ่ม นปช.โดยหลักการสำคัญตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด เน้นการเจรจาต่อรองเป็นหลัก และให้จับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มมือที่สามที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมวันที่ 24 ก.พ.ครั้งนี้ถือเป็นการปฏิบัติการภาคสนามครั้งแรกของ พล.ต.ท.วรพงษ์ หลังนั่งเก้าอี้รับตำแหน่ง ผบช.น.คนใหม่ได้เพียงวันเดียวซึ่งต้องรอลุ้นกันดูผลงานปราบม็อบเสื้อแดงของ พล.ต.ท.วรพงษ์ จะเข้าตากรรมการและผ่านการประเมินผลปฏิบัติของรองนายกฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ หรือไม่
พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.คนใหม่
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ย้ายไปรับตำแหน่ง ผบช.ภ.4
กำลังโหลดความคิดเห็น