พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ขณะนี้ยังคงมีการชุมนุมของประชาชนกลุ่มหนึ่งจำนวนประมาณ 500 คน และไม่ได้สวมเสื้อสีแดง ที่ท้องสนามหลวง โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วง คือมีความพยายามปลุกกระแสว่าทหารทำร้ายประชาชน จึงต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน โดยยืนยันว่า ทหารใช้กระสุนปืนจริงในการยืงปืนขึ้นฟ้า เพื่อขู่กลุ่มผู้ชุมนุม แต่หากจำเป็นต้องป้องกันตัว เนื่องจากถูกกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามทำร้าย จะใช้กระสุนซ้อมรบซึ่งไม่มีหัวกระสุนเพื่อข่มขวัญเท่านั้น และจากการสอบถามแพทย์ผู้รักษาผู้บาดเจ็บ พบว่าไม่ได้ถูกกระสุนเอ็ม 16 ซึ่งเป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่ทหารใช้
พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวต่อว่า ทหาร 1 กองร้อย ที่ตรึงกำลังบริเวณท้องสนามหลวงจะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ในเรื่องการห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่าทหารจะสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หลังจากเคลียร์พื้นที่ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และเทเวศร์แล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีการปรากฏตัวแกนนำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่า จะต้องมีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า มีข่าวการเตรียมก่อเหตุหรือการก่อวินาศกรรมในคืนนี้จริง ดังนั้น ทหารจะปรับกำลังพลใน 50 เขตของกรุงเทพฯ และจะประสานตำรวจ พื่อตั้งจุดตรวจ และจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อการเข้าระงับเหตุ
พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวต่อว่า ทหาร 1 กองร้อย ที่ตรึงกำลังบริเวณท้องสนามหลวงจะเร่งทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุม ในเรื่องการห้ามชุมนุมตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเชื่อว่าทหารจะสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ หลังจากเคลียร์พื้นที่ที่บริเวณลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ และเทเวศร์แล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่มีการปรากฏตัวแกนนำที่ชัดเจน แต่เชื่อว่า จะต้องมีอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ โฆษกกองทัพบก ยอมรับว่า มีข่าวการเตรียมก่อเหตุหรือการก่อวินาศกรรมในคืนนี้จริง ดังนั้น ทหารจะปรับกำลังพลใน 50 เขตของกรุงเทพฯ และจะประสานตำรวจ พื่อตั้งจุดตรวจ และจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว รวมทั้งยังขอความร่วมมือจากประชาชนในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อการเข้าระงับเหตุ