xs
xsm
sm
md
lg

พบเหยื่อถูกลูกสาว “แป๋ง” หลอกเปิดบริษัทสูญพันล้าน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางกันตนิษฐ์ หรือ ปานจิต อังกินันท์ หรือ ชิ้นศิริ ผู้ต้องหาที่ถูกจับ
กองปราบเร่งสอบขยายผล “ลูกสาวแป๋ง” สวมศพสึนามิหนีหนี้ 8 พันล้าน สอบเส้นทางการเปลี่ยนชื่อ-บัตรประชาชน พร้อมติดต่อผู้เชี่ยวชาญบัตรเครดิตสอบเส้นทางเงิน พบข้อมูลเพิ่ม 2 ผัวเมียเปิดบริษัทที่ดินหลอกเหยื่อสูญ 1,000 ล้าน ส่วนนายตำรวจที่มีชื่อเอี่ยวเข้าช่วยเหลือ พบ ซื้อรถ และย้ายบ้านให้ผู้ต้องหาด้วย

วันนี้ (3 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น.ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.5 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าคดีจับกุม นางกันตนิษฐ์ หรือ ปานจิต อังกินันท์ หรือ ชิ้นศิริ และ นายชาญชัย ชิ้นศิริ สามีที่สวมศพสึนามิหนีหนี้ 8 พันล้าน ว่า วันนี้ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และได้แบ่งกำลังไปสอบถามข้อมูล จากเจ้าหน้าที่ที่ออกบัตรประชาชนให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.สระบุรี อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรสาคร และตรวจสอบเส้นทางการเปลี่ยนชื่อ การสวมบัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้มีผู้เสียหายที่ถูกผู้ต้องหาหลอกลวงเข้าให้ข้อมูล และแจ้งความเพิ่มกับสองสามีภรรยา แล้ว 3 ราย โดยทั้งหมดถูกหลอกลงทุนทำธุรกิจน้ำมันสูญเงินไปรายละ 10 กว่าล้านบาท นอกจากนี้ ได้ส่งหนังสือไปยังบริษัทประกันภัยที่ นางกันตนิษฐ์ และ นายชาญชัย ทำประกันชีวิตไว้ พร้อมทั้งได้ประสานข้อมูลจากเจ้าหนี้ของผู้ต้องหา 19 ราย เพื่อขอข้อมูลเส้นทางการเงินเพิ่มเติม

พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ติดต่อผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินเพื่อตรวจสอบบัตรเครดิตจำนวน 34 ใบ ที่ใช้ชื่อ น.ส.สาธิต โคมแก้ม ลูกสาว นางสุมลฑา ปรีดาเกียรติ เพื่อนสาวคนสนิท นายชาญชัย และจากการตรวจสอบพบว่า เมื่อปี 2544-2545 ผู้ต้องหาได้ตั้งบริษัท ปิยจิต จำกัด บริษัท ปานทรัพย์ จำกัด บริษัท เพิ่มพูนผล จำกัด โดยหลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุนเป็นกรรมการบริษัท จากนั้นได้นำบัตรประชาชนเหยื่อมาทำบัตรเครดิต โดยให้จะเงินค่าตอบแทนรายละ 10,000-20,000 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้ยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินของบริษัทออกไป ทำให้บริษัทขาดทุนเป็นหนี้หลายล้านบาท หลังจากนั้น เจ้าหนี้ดำเนินการฟ้องร้องบริษัทดังกล่าวและกรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดชอบหาเงินมาใช้หนี้ ซึ่งบางรายหมดเนื้อหมดตัวถึงกับต้องขายบ้านและที่ดินเพื่อมาใช้หนี้

“เราได้ข้อมูลเพิ่มเติมมา ว่า นางกันตนิษฐ์ และ นายชาญชัย เคยก่อเหตุฉ้อโกงนักธุรกิจใน จ.สุโขทัย ทำธุรกิจซื้อขายที่ดินและทำการเกษตรร่วมกัน โดยเหยื่อสูญเงินไปจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งนักธุรกิจคนดังกล่าวได้แจ้งความในข้อหาฉ้อโกงแก่ทั้งสองแล้ว นอกจากนี้ทรัพย์สินที่ถูกยักย้ายถ่ายเท พบว่า ได้นำไปซื้อหุ้นกับบริษัทแห่งหนึ่งถึง 50 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าหลายล้านบาท และได้ติดตามนอมินีที่ถือครองทรัพย์สินแทนผู้ต้องหาเบื้องต้นได้ออกหมายจับคนสนิททั้งสองแล้วสองราย อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ผกก.สภ.แห่งหนึ่งใน จ.สงขลา ที่ถูกระบุว่า ให้การช่วยเหลือสองสามีภรรยานั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผกก.คนดังกล่าวเคยซื้อรถให้ นายชาญชัย ขับ และยังช่วยเหลือย้ายทะเบียนบ้านให้กับผู้ต้องหาทั้งสองอีกด้วย” ผกก.5 บก.ป.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น