xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกคำร้องคืนสิทธิ์ “จุลพันธ์-ประสิทธิ์” แจกเงินปราศรัย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ศาลฎีกาเลือกตั้ง สั่งยกคำร้อง กกต.คืนสิทธิ์ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ - ประสิทธิ์ วุฒินันชัย” ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 เพื่อไทย หลังพบหลักฐาน กกต.มีพิรุธ พยานให้การขัดกันเองทั้งเรื่องวันปราศรัย-การรับเงิน ขณะที่ทั้งสอง ส.ส.ดีใจ เผย พร้อมลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ต่อ ปัดยังไม่คิดฟ้องกลับ ขณะที่ศาลนัดตัดสินคดีคุณสมบัติ ส.ว.“ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” 27 มี.ค.นี้

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง เมื่อเวลา 13.30 น.องค์คณะผู้พิพากษามีคำสั่งคำร้อง ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ยื่นขอให้มีการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 แทน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคพลังประชาชน (พปช.) ปัจจุบันสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) บุตรชาย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกใบเหลือง ผู้คัดค้านที่ 1 และ นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเดียวกัน ซึ่งถูกใบแดง ผู้คัดค้านที่ 2 กรณีทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 ที่ถูกกล่าวหาว่านำเงินไปให้ผู้นำชุมนุมแจกผู้มาฟังการปราศรัย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2550 ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยาน กกต.ผู้ร้อง หลายปากให้การขัดกันเป็นข้อพิรุธ โดยพยานกลุ่มแรกให้การไปในทำนองเดียวกันว่า นายประสิทธิ์ ผู้คัดค้านที่ 2 แจ้งให้ไปรับเงินแจกผู้มาฟังการปราศรัยในวันที่ 10 ธ.ค.2550 ที่จัดโรงเรียนฝางชนูปถัมป์ จังหวัดเชียงใหม่ และมีการทำบันทึกลงชื่อรับเงิน ขณะที่พยานอีกกลุ่มให้การว่าให้นำเงินไปแจกจ่ายให้กับประธานกลุ่มแม่บ้านชุมชนต่างๆ นำเงินไปแจกจ่ายให้ผู้ฟังปราศรัยในวันที่ 12 ธ.ค.2550 แต่ได้ความจากผู้อำนวยการโรงเรียนฝางฯ พยานผู้คัดค้าน ยืนยันว่า อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดการปราศรัยในวันที่ 11 ธ.ค.2550 เพียงวันเดียว ดังนั้น พยาน กกต.ผู้ร้องจึงให้การขัดกันอันเป็นข้อพิรุธ

นอกจากนี้ นางสุธรรม ไฮยล์มัน พยาน กกต.ผู้ร้องให้การว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2550 ได้แจ้งให้ประชาชนไปร่วมฟังการปราศรัยที่โรงเรียนฝางฯ ในวันที่ 10 ธ.ค.2550 และจะได้รับค่าตอบแทนคนละ 100 บาท โดยให้มีการทำบันทึกลงรายมือชื่อรับเงินไว้ แต่ นางสุจินต์ ดวงคำ พยาน กกต.ผู้ร้องปาก ให้การว่า ได้ขี่รถ จยย.ไปรับเงินและไปฟังปราศรัยที่โรงเรียนจริง แต่มีการทำบันทึกหลังวันที่ 10 ธ.ค.2550 แต่ภายหลัง นางสุจินต์ กลับคำให้การว่าไม่เคยรับเงิน เช่นเดียวกับ นางสุธรรม ที่ให้การต่อมาว่าไม่ได้นำเงินไปแจกจ่าย แต่นำเงินไปใช้ส่วนตัวจนการเลือกตั้งผ่านพ้นไป

ดังนั้น ศาลเห็นว่า พยาน กกต.ผู้ร้องมีพิรุธไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้อันควรเชื่อได้ว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 ในวันที่ 23 ธ.ค.2550 ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริต ที่จะให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่และเพิกถอนสิทธิ์ นายประสิทธิ์ ผู้คัดค้านที่ 2 กรณีที่มีผู้ร้องว่ามีการนำเงินไปแจกจ่ายให้ผู้มีสิทธิลงคะแนนเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือก ส.ส.พรรคพลังประชาชน อันเป็นการฝ่าฝืน ม.53 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง และให้แจงประธานสภาผู้แทนทราบโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งยกคำร้อง นายจุลพันธ์ ผู้คัดค้านที่ 1 ได้จับมือแสดงความดีใจกับ นายประสิทธิ์ ผู้คัดค้านที่ 2, ทีมทนายความ และ น.ส.วิสาระดี เตชะธีระวัฒน์ ส.ส.เขต 2 เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ด้วยสีหน้าท่าทางยิ้มแย้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 27 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น.ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง นัดฟังคำสั่ง กกต.ให้วินิจฉัย เรื่องคุณสมบัติขององค์กร ที่เสนอชื่อของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็น ส.ว.ในระบบสรรหา ภาคเอกชน ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 240 และมาตรา 134 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 หลังจากที่ กกต.มีคำวินิจฉัยว่า นิติบุคคลอาคารชุดเซนจูรี ปาร์ค ที่เสนอชื่อ นายเรืองไกร ไม่เข้าข่ายองค์กรที่มีสิทธิ์เสนอชื่อตามรัฐธรรมนูญ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์
นายประสิทธิ์ วุฒินันชัย ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3
กำลังโหลดความคิดเห็น