xs
xsm
sm
md
lg

เตือนระวัง! กดเอทีเอ็มแหล่งพลุกพล่าน เสี่ยงสูญเงิน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตู้เอทีเอ็ม หน้าร้านสะดวกซื้อทั่วไป (แฟ้มภาพ)
ดีเอสไอพบแก๊งอาชญากรรมใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ใหม่ล่าสุดจากสเปน แอบเข้าไปติดตั้งในตู้เอทีเอ็ม เตือนประชาชนงดใช้บริการตู้เอทีเอ็มในแหล่งคนพลุกพล่าน หลังพบแก๊งปลอมบัตรเครดิตระบาดหนักกว่า 10 กลุ่ม

วันนี้ (9 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผบ.สำนักกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเครือข่ายปลอมแปลงบัตรเครดิตของดีเอสไอ พบว่ายังมีเครือข่ายที่ยังไม่ถูกจับกุม 10-20 กลุ่ม โดยมีชาวยุโรปกลาง ร่วมกับชาวมาเลเซียและคนไทย เข้ามาติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต และบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งอุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดสั่งซื้อจากประเทศสเปนจะมีลักษณะใกล้เคียงกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งตามตู้กดเงินของธนาคารทั่วโลก หากไม่สังเกตก็จะคิดว่าเป็นอุปกรณ์ของธนาคาร โดยกลุ่มคนร้ายจะเลือกติดตั้งอุปกรณ์กับตู้กดเงินที่ตั้งอยู่ในสถานที่พลุกพล่าน เช่น หน้าเซเว่นอีเลฟเว่น หน้าโลตัสเอ็กซ์เพรส และปั๊มน้ำมัน จึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนหากไม่มั่นใจในการใช้บริการตู้กดเงินด่วน ขอให้เลือกใช้บริการจากตู้ที่ติดตั้งบริเวณหน้าธนาคาร ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่าตู้บริการเงินด่วนที่ติดตั้งในบริเวณอื่นๆ นอกจากนี้ยังขอฝากไปยังธนาคารต่างๆ ให้กวดขันเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการให้หมั่นตรวจสอบความผิดปกติของตู้เอทีเอ็ม

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ดีเอสไอกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อจับกุมเครือข่ายปลอมแปลงบัตรเครดิต โดยจะจับกุมได้ต่อเมื่อมีการนำข้อมูลไปทำเป็นบัตรปลอมและมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียน ซึ่งเครือข่ายปลอมบัตรจะพยายามหลบเลี่ยงการตรวจสอบ โดยไม่ทำปลอมบัตรเครดิตของคนไทยมาใช้ในประเทศ แต่จะนำข้อมูลบัตรเครดิตของคนไทยไปให้เครือข่ายต่างชาตินำไปทำปลอมเพื่อใช้ในประเทศต่างๆ และจะนำบัตรเครดิตปลอมของชาวต่างชาติมาใช้ในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางการของหลายประเทศจะพยายามกวาดล้างจับกุม แต่ก็ยังไม่สามารถทลายเครือข่ายปลอมบัตรเครดิตให้หมดไปได้ เนื่องจากอุปกรณ์มีการพัฒนาให้ขโมยข้อมูลบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้น

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวถึงกรณีเงินในบัญชีของพ่อค้าแม่ค้าผลไม้ใน จ.ชุมพร สูญหายหลังทำธุรกรรมผ่านตู้เอทีเอ็มว่า กลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นกลุ่มเดียวกับคนร้ายที่ดีเอสไอเฝ้าติดตามอยู่ ดีเอสไอจึงส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อขยายผลจับกุม โดยคนร้ายเป็นชาวมาเลเซียชื่อนายเตียว อายุประมาณ 48 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้จับกุมเครือข่ายของนายเตียวที่เป็นอดีตนายตำรวจสันติบาล ส่งอัยการสั่งฟ้องไปแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น