“ดีเอสไอ” รวบขบวนการยึดพื้นที่ จ.นครพนม ปลอมบัตรประชาชนให้ต่างด้าวกว่า 300 ราย เสียหาย 30 ล้าน แจ้ง 3 ข้อหา สารภาพบวชพระลักลอบเข้าไทย ก่อนติดต่อนายหน้าทำบัตรปลอมเรียกค่าหัวรายละ 100,000 เตรียมประสานหาตัวข้าราชการท้องถิ่นร่วมกระทำผิด พร้อมประสาน ปปง.ตรวจสอบเส้นทางการเงิน
วันนี้ (8 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงการจับกุมขบวนการทุจริตบัตรประจำตัวประชาชน ในพื้นที่จังหวัดนครพนม รายใหญ่ที่ได้ทำการปลอมบัตรประจำตัวประชาชนให้กับคนต่างด้าวสัญชาติพม่า ลาว ไปแล้วเกือบ 300 ราย เป็นมูลค่าความเสียหาย 30 ล้านบาท โดยหลังจากที่ดีเอสไอได้ขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจากศาลแล้วจำนวน 5 ราย เมื่อวานนี้ (7 มี.ค.) สามารถจับกุม นายวีระ ปากดี หรือ นายตุน ชาวเผ่าปะโอ เชื้อชาติปะโอ สัญชาติพม่า ที่จังหวัดพังงา ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้บวชเป็นพระ ฉายาพระอาซี อุตตระ จำพรรษาที่วัดนิกรวราราม (วัดย่านยาว) อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายพรศรี สอนแพง และ นางดวงใจ เล่ห์กล ซึ่งเป็นนายหน้าขบวนการดังกล่าว ได้ที่จังหวัดนครพนม เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในความผิดฐาน ร่วมกันทำ ใช้หรือแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นมีชื่อหรือมีรายการอย่างใดอย่างหนึ่งในทะเบียนบ้าน หรือเอกสารทะเบียนราชโดยมิชอบ โดยผู้กระทำผิดเป็นคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ และฐานร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานทำให้ผู้อื่นเสียหาย และฐานร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น นายวีระ ได้รับสารภาพว่าได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยบวชเป็นพระภิกษุจำพรรษาตามวัดต่างๆ ตั้งแต่อ.แม่สอด จ.ตาก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เพชรบุรี ชัยนาท นครปฐม และฉะเชิงเทรา โดยเดินทางไปจำพรรษาที่วัดย่านยาว จ.พังงา เป็นที่สุดท้าย และจำพรรษาเป็นเวลา 5 ปี จนได้รับแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาส โดยลาสิกขาบทออกมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหากับคณะกรรมการวัดเรื่องเงินทุน สำหรับขบวนการทุจริตปลอมบัตรประจำตัวประชาชนจะมีนายหน้ามาติดต่อ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายคนละ 100,000 บาท ส่วนลักษณะการปลอมของนายวีระ ได้ให้ข้าราชการปกครองท้องถิ่นที่น่าเชื่อถือมายืนยันพร้อมกับแจ้งว่า มารดาเป็นคนไทย เมื่อปลอมบัตรมาแล้วได้นำไปใช้ทำบัตรทองเพื่อใช้สิทธิ์รักษาพยาบาล สมัครเรียน กศน.รวมทั้งเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่ง นายวีระ มีรายได้นำมาจ่ายค่าทำบัตรปลอมจากการรับนิมนต์กิจของสงฆ์ต่างๆ นอกจากนี้ ในช่วงที่ นายวีระ จำพรรษาที่วัดย่านยาว เป็นช่วงที่เกิดภัยสึนามิ แต่ นายวีระ ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีการบริจาคเงินช่วยเหลือแต่อย่างใด
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวด้วยว่า จากการสอบสวนพบว่าส่วนใหญ่กลุ่มบุคคลด่างด้าวจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยโดยบวชเป็นพระภิกษุ จากนั้นจะไปทำบัตรประชาชน ในลักษณะเพิ่มชื่อไม่ใช่การสวมชื่อทับชื่อบุคคลอื่น และเมื่ออยู่ได้ช่วงเวลาหนึ่งก็จะสึกออกมาใช้ชีวิตแบบประชาชนทั่วไปอันเป็นพฤติกรรมกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและพุทธศาสนาในประเทศไทย โดยจะอ้างว่าเป็นบุคคลที่เกิดในประเทศไทย แต่ไม่มีเอกสารมาแสดง ก็จะใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือมายืนยัน ซึ่งหลังจากจับกุม นายวีระ ก็ได้ขยายผลจับกุม นายพรศรี และนางดวงใจ ได้ที่จังหวัดนครพนม ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 2 คน เป็นชายที่ทำบัตรปลอมอยู่ระหว่างติดตามจับกุม ทั้งนี้ ดีเอสไอจะขยายผลการกระทำผิดในส่วนของเจ้าหน้าที่ปกครอง ในหลายอำเภอของจังหวัดนครพนม เบื้องต้นจะแจ้งไปยังอธิบดีกรมการปกครองและรมว.มหาดไทยรับทราบเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดก็จะต้องนำตัวดำเนินคดีอาญาโดยส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) นอกจากนี้ จะประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามเส้นทางการเงิน