เชียงราย – เตรียมจัดประชุมพุทธสมาคมทั่วประเทศกลางเดือนหน้า ถกแนวทางส่งเสริมพุทธธรรมในสถานศึกษา รวมถึงอนาคตพระพุทธศาสนาถึงจุดวิกฤตแล้วหรือ พร้อมเดินหน้าช่วย 42 วัดกลางไฟใต้
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า นายกนก จันทร์ขจร เลขาธิการพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ร่วมกับนายหลุย ทิศสกุล นายกพุทธสมาคม จ.เชียงราย -นางพรสวรรค์ ศิริอินทราทร อุปนายกพุทธสมาคมฯ และนายวรสฤษฎิ์ ปิงเมือง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดประชุมสมาคมพุทธสนาทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 48 ซึ่ง จ.เชียงราย จะรับเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่หอประชุมกาสะลองคำ มรช.ระหว่างวันที่ 11-14 ธ.ค.51 นี้
โดยระบุเนื้อหาใหญ่ในการประชุมหลายหัวข้อแยกไปแต่ละวัน เช่น ความจำเป็นในการส่งเสริมพุทธธรรมในสถานศึกษา, พระพุทธศาสนาถึงจุดวิกฤตจริงหรือ เป็นต้น
นายกนก กล่าวว่า ปัจจุบันถือว่าพุทธสมาคมในหลายจังหวัดมีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะเชียงราย แม้ตั้งแต่มีการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นต้นมาจะมีการตัดทอนงบประมาณเกี่ยวกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนาผ่านพุทธสมาคม แต่ทางพุทธสมาคมก็ดำเนินการกิจกรรมเองเรื่อยมา โดยเฉพาะ จ.เชียงราย มีความเข้มแข็งและเสียสละเองมาก แต่ก็ยังมีพุทธสมาคมไม่ครบทุกจังหวัด
ขณะที่ภาพรวมของพระพุทธศาสนาพบว่าการเผยแพร่ทำได้ยากขึ้นเพราะเราไม่มีงบประมาณเพียงพอ ดังตัวอย่างการเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ เห็นได้ชัดเจนที่สุดว่าศาสนาอื่นมีการเผยแพร่อย่างมากมาย แต่เราไม่สามารถหาช่องได้เพราะต้องใช้เงินทุนสูง
นอกจากนี้ พบว่าหลายจังหวัดโดยเฉพาะภาคใต้ ก็เกิดปัญหาหรือได้รับความกระทบกระเทือนจากปัญหาไฟใต้ในพื้นที่ 3 จังหวัดอย่างมาก ส่งผลทำให้ไม่มีกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ฯลฯ ในจำนวน 42 วัดของ 3 จังหวัดเลย ซึ่งล่าสุดพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย โดยนายกสมาคมได้หารือกันและจัดสรรงบประมาณไปให้แล้ว 1.5 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือในด้านกิจกรรมต่างๆ
สำหรับการประชุมที่ จ.เชียงราย ในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 500 คน ซึ่งคงจะได้รับทราบปัญหาจากตัวแทนของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น และมีการประชุมหารือกลุ่มย่อยเพื่อหาวิธีการช่วยเหลือและแก้ไขกันต่อไป เพื่อจะได้ธำรงเอาไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาในประเทศไทยอย่างยั่งยืน สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่ไม่มีปัญหาเหมือนภาคใต้ก็จะมีการจัดสรรงบประมาณไปให้จังหวัดละประมาณ 2.5 หมื่น เพื่อดำเนินกิจกรรมได้ต่อไป
นายกนก กล่าวอีกว่า หลังการประชุมจะมีการจัดทำสรุปผลการประชุมเป็นปฏิญญาเพื่อให้ทุกฝ่ายนำไปถือปฏิบัติโดยพร้อมเพรียงกันต่อไป ซึ่งก็คงจะมีหลายๆ เรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาที่จะต้องพูดจากัน
ด้าน นายประพันธ์ คำจ้อย ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา จ.เชียงราย กล่าวว่า ในส่วนของวัดในเชียงราย มีประมาณ 1,000 กว่าวัด ที่ผ่านมามีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาหลากหลาย ดังนั้นจะมีการนำเสนอกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมพระพุทธศาสนาภายในสถานศึกษาต่างๆ เพื่อให้เป็นตัวอย่างกับจังหวัดอื่นๆ เพื่อจะได้นำไปประยุกต์ปฏิบัติในพื้นที่ของตัวเอง อันจะเป็นการช่วยกันพิทักษ์พระพุทธศาสนาต่อไป
ขณะที่ นายหลุย ทิศสกุล นายกพุทธสมาคม จ.เชียงราย กล่าวว่า การเผยแพร่ของศาสนาอื่นมีอย่างต่อเนื่องและทุ่มงบประมาณมหาศาล ภายในคือการที่มีองค์กรบางองค์กรที่เกี่ยวข้องกว๊านซื้อที่ดิน รุกป่า เช่าที่ดิน เพื่อเผยแพร่ศาสนาของเขาไปอย่างมากมาย บางครั้งใช้เงินทุนในการล่อใจทำให้ผู้คนหลงใหล ขณะที่พระพุทธศาสนาเราไม่ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาล เมื่อดูพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องต่างๆ ก็ยังถือว่าเราห่างไกลจากการได้รับการสนับสนุนมาก
“ก่อนหน้านี้ผมได้นำชาวเชียงรายลงรายชื่อรวมกันได้กว่า 4 หมื่นคน เพื่อเสนอไปยังรัฐสภา เพื่อขอให้บัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพื่อจะได้มีการออกกฎหมายลูกรองรับอันจะนำไปสู่การสนับสนุนจากรัฐบาลโดยเฉพาะงบประมาณ การบวชเป็นพระก็จะได้รับการดูแลให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ เป็นต้น แต่รัฐบาลยุคนั้นก็ถูกปฏิบัติรัฐประหารเมื่อ 19 กันยายน 2549 ต่อมาเมื่อถึงสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ก็ผลักดันแต่รัฐบาลก็ง่อนแง่นและพังลงไปอีก ดังนั้น ในการประชุมครั้งนี้ในวันแรกคงจะหารือกันอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหาแนวทางผลักดันต่อไป”
ปัจจุบันพุทธสมาคมใน 8 จังหวัดภาคเหนือได้รวมตัวกันเป็นสมาพันธ์พุทธสมาคม ภาค 5 เพื่อร่วมกันผลักดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาดังกล่าว และเราจะเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไปในอนาคตหรือไม่ก็ตาม เนื่องจากในประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ มาเลเซีย หรือแม้แต่กัมพูชา ต่างก็มีศาสนาประจำชาติ ขณะที่ประเทศไทยไม่ระบุชัดเจน