ดีเอสไอสาวเบื้องลึกต้นตอขบวนการสวมบัตรประชาชนไทยให้ต่างด้าว พบพัวพันตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านถึงปลัดจังหวัด อัตราค่าจ้างหนึ่งแสนบาทต่อหัว ชี้มีแก๊งลูกหมูสวมบัตรเปิดกิจการใหญ่โตย่านรัชดาภิเษก
วันนี้ (9 มี.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่ดีเอสไอจับกุมแก๊งสวมบัตรประจำตัวประชาชนให้คนต่างด้าวว่า ดีเอสไอได้นำคดีเกี่ยวกับการสวมบัตรประจำตัวประชาชนเข้าเป็นคดีพิเศษแล้ว 4 คดี ซึ่งความผิดดังกล่าวถือเป็นความผิดที่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ ซึ่งการจับกุมนายวีระ ปากดี อดีตรักษาการเจ้าอาวาสวัดย่านยาวจ.พังงา และผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คนนั้น จากการสืบสวนพบว่าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องอยู่ในระดับปลัดจังหวัด ซึ่งจะส่งข้อมูลให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อไป นอกจากนี้จะต้องประสานกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ติดตามเส้นทางการเงิน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า เมื่อปี 2548 ดีเอสไอได้ดำเนินคดีต่อแก๊งสวมบัตรที่ อ.แม่แตง ที่พบว่ามีการสวมบัตรกว่า 5,000 ราย และมีข้าราชการร่วมกระทำผิด และในปี 2550 มีผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดเปลี่ยนชื่อ ซึ่งนักค้ายาเสพติดชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะสวมบัตรเป็นคนไทยเพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายยาเสพติด โดยตนเห็นว่าการแก้ปัญหายาเสพติดจะต้องดำเนินการกับผู้ค้ำยันหรือผู้ให้ความช่วยเหลือนักค้า โดยเฉพาะข้าราชการ
พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ขั้นตอนของการออกบัตรประชาชนจะมีการเพิ่มรายชื่อเข้าไปในทะเบียนบ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ไปสอบถามกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในหมู่บ้านนั้นๆว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริง จากนั้นจะนำข้อมูลไปเพิ่มในฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรเพื่อขอออกบัตรประชาชน โดยมีผู้เกี่ยวข้องกับการออกบัตรประชาชนให้กับบุคคลต่างด้าวจะมีตั้งแต่ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดอำเภอจนถึงปลัดจังหวัด
พ.ต.อ.สุชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับขบวนการทำบัตรประชาชนให้กับคนต่างด้าวในจ.นครพนม ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นชาวพม่าเชื้อสายจีนฮ่อ และชาวลาว โดยคิดค่าใช้จ่ายรายละ 100,000 บาท ทั้งนี้จากการสืบสวนพบว่า หลังจากกลุ่มจีนฮ่อได้รับบัตรประชาชนจะโอนย้ายไปเข้าทะเบียนในหลายจังหวัด เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ ก่อนจะโอนเข้ามาอาศัยในกรุงเทพมหานคร ย่านรัชดาภิเษก บางรายพัวพันอยู่ในแก๊งลูกหมู มีหน้าฉากเป็นเจ้าของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดตะเข็บชายแดน เช่น อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และอ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงมีพฤติกรรมการลักลอบทำบัตรประชาชนให้คนต่างด้าว ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้จับกุมดำเนินคดีไปแล้ว แต่ยังไม่สามารถยุติขบวนการดังกล่าวได้
