“อำนวย” ลั่นไม่ตั้งด่านสกัด “เสื้อแดงเถื่ออ จะเคลื่อนไหวปิดล้อมทำเนียบ แต่ถ้าบุกรุก-ปิดกั้นทางเข้าออกสถานที่ราชการ แล้วสร้างความวุ่ยวายถือว่าผิดกฎหมาย ตำรวจยอมไม่ได้ต้องใช้มาตรการควบคุมฝูงชน
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการชุมนุมและประกาศจะเคลื่อนไหวปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24 ก.พ.นี้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มอบนโยบายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. และพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้ร่วมกันวางแผนในการรับมือและรักษาความปลอดภัยแล้ว ส่วนเรื่องที่จะเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบนั้น ตำรวจได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางแกนนำนปช. ก็ได้พูดผ่านรายการความจริงวันนี้หลายครั้งว่า การกระทำแบบไหนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หรือไม่อยู่ในกรอบบ้าง ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงทราบดีแล้วก็อยากให้ปฏิบัติตาม อย่าว่าแต่คนอื่นแล้วตัวเองเป็นซะเอง เพราะการบุกรุกหรือปิดกั้นสถานที่ราชการถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ทางศาลปกครองกลางมีแนวทางคำสั่ง หรือคำพิพากษาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ตำรวจจะอำนวยความสะดวก หากอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่หากทำผิดกฎหมายตำรวจก็ยอมไม่ได้ และหากเกิดความไม่สงบวุ่นวายเกิดขึ้นก็ต้องมีการควบคุมฝูงชน ซึ่งในวันนี้เวลา 15.00-16.00 น. จะมีการซักซ้อมการควบคุมฝูงชนสโมสรตำรวจอีกครั้ง
“ผมได้เสนอให้ ผบช.น. ลงนามในหนังสือส่งไปยังหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเป็นสักขีพยานการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันชุมนุมด้วย โดยเฉพาะป.ป.ช.แค่เปิดหน้าต่างมาก็เห็นแล้ว ให้มาดู มารู้ มาเห็น มาดูตั้งแต่แรกเลยว่าใครก่อเหตุ ใครทำเกินกว่าเหตุ มาค้นหาความจริงตั้งแต่ต้นจะได้ไม่ต้องไปนั่งค้นหาความจริงหลังเกิดเหตุแล้วมานั่งกล่าวหากันภายหลัง เพราะแบบนั้นมันไม่เป็นธรรมกับตำรวจเท่าที่ควร” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่มีข่าวว่าจะมีการการรวบรวมหลักฐานขอหมายจับดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯในการปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนขอย้ำว่า ไม่ว่าเสื้อสีใดก็แล้วแต่ หากทำผิดกฎหมายต้องว่ากันตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดไปเสนอต่อศาลภายในสัปดาห์หน้า ส่วนศาลจะออกหมายจับหรือไม่ก็แล้วแต่ เรื่องนี้ไม่ใช่ตำรวจไปหาเรื่องอีก ส่วนในเรื่องสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต้องดำเนินการเช่นกัน เพราะรวบรวมหลักฐานครบแล้ว จึงขอเรียนผู้ที่ร่วมชุมนุมในสัปดาห์หน้าด้วยว่า หากทำผิด ตำรวจจะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะหากบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายเป็นแค่กระดาษเปื้อนน้ำหมึก ใช้บังคับกันไม่ได้ บ้านเมืองก็คงจะอยู่กันลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ ป.ป.ช.สรุปผลออกมาว่า เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการ มันยังไม่จบสิ้น เนื่องจากมีหลายส่วนเกี่ยวข้องด้วยที่ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่ยืนยันว่า ทุกครั้งตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่ใช้ความรุนแรงในการชุมนุมครั้งนี้เป็นอันขาด
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า การชุมนุมของกลุ่มนปช.ในสัปดาห์หน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ไปตั้งด่านสกัด แต่จะเน้นดูแลในจุดสถานที่ราชการที่สำคัญมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเมื่อตำรวจปล่อยให้ผ่านแนวกั้นไปแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ชุมนุมฮึกเหิม แต่ต้องย้ำว่าห้ามบุกรุก หรือปิดกั้นทางเข้าออก โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาลเป็นหน้าตาของประเทศ ฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงทราบดีแล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด เพราะฉะนั้นอย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีการชุมนุมและประกาศจะเคลื่อนไหวปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 24 ก.พ.นี้ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มอบนโยบายให้ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. และพล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้ร่วมกันวางแผนในการรับมือและรักษาความปลอดภัยแล้ว ส่วนเรื่องที่จะเคลื่อนขบวนมาที่ทำเนียบนั้น ตำรวจได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ทางแกนนำนปช. ก็ได้พูดผ่านรายการความจริงวันนี้หลายครั้งว่า การกระทำแบบไหนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย หรือไม่อยู่ในกรอบบ้าง ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงทราบดีแล้วก็อยากให้ปฏิบัติตาม อย่าว่าแต่คนอื่นแล้วตัวเองเป็นซะเอง เพราะการบุกรุกหรือปิดกั้นสถานที่ราชการถือว่าผิดกฎหมายทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้ทางศาลปกครองกลางมีแนวทางคำสั่ง หรือคำพิพากษาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ตำรวจจะอำนวยความสะดวก หากอยู่ในกรอบของกฎหมาย แต่หากทำผิดกฎหมายตำรวจก็ยอมไม่ได้ และหากเกิดความไม่สงบวุ่นวายเกิดขึ้นก็ต้องมีการควบคุมฝูงชน ซึ่งในวันนี้เวลา 15.00-16.00 น. จะมีการซักซ้อมการควบคุมฝูงชนสโมสรตำรวจอีกครั้ง
“ผมได้เสนอให้ ผบช.น. ลงนามในหนังสือส่งไปยังหน่วยงาน องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช. กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาเป็นสักขีพยานการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันชุมนุมด้วย โดยเฉพาะป.ป.ช.แค่เปิดหน้าต่างมาก็เห็นแล้ว ให้มาดู มารู้ มาเห็น มาดูตั้งแต่แรกเลยว่าใครก่อเหตุ ใครทำเกินกว่าเหตุ มาค้นหาความจริงตั้งแต่ต้นจะได้ไม่ต้องไปนั่งค้นหาความจริงหลังเกิดเหตุแล้วมานั่งกล่าวหากันภายหลัง เพราะแบบนั้นมันไม่เป็นธรรมกับตำรวจเท่าที่ควร” พล.ต.ต.อำนวย กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า เรื่องที่มีข่าวว่าจะมีการการรวบรวมหลักฐานขอหมายจับดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯในการปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น ตนขอย้ำว่า ไม่ว่าเสื้อสีใดก็แล้วแต่ หากทำผิดกฎหมายต้องว่ากันตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดไปเสนอต่อศาลภายในสัปดาห์หน้า ส่วนศาลจะออกหมายจับหรือไม่ก็แล้วแต่ เรื่องนี้ไม่ใช่ตำรวจไปหาเรื่องอีก ส่วนในเรื่องสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ก็ต้องดำเนินการเช่นกัน เพราะรวบรวมหลักฐานครบแล้ว จึงขอเรียนผู้ที่ร่วมชุมนุมในสัปดาห์หน้าด้วยว่า หากทำผิด ตำรวจจะต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะหากบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์ กฎหมายเป็นแค่กระดาษเปื้อนน้ำหมึก ใช้บังคับกันไม่ได้ บ้านเมืองก็คงจะอยู่กันลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ ป.ป.ช.สรุปผลออกมาว่า เหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. เป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ นั้น พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ตนไม่ขอวิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการ มันยังไม่จบสิ้น เนื่องจากมีหลายส่วนเกี่ยวข้องด้วยที่ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง แต่ยืนยันว่า ทุกครั้งตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง และจะไม่ใช้ความรุนแรงในการชุมนุมครั้งนี้เป็นอันขาด
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า การชุมนุมของกลุ่มนปช.ในสัปดาห์หน้านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคงไม่ไปตั้งด่านสกัด แต่จะเน้นดูแลในจุดสถานที่ราชการที่สำคัญมากกว่า เพราะที่ผ่านมาเมื่อตำรวจปล่อยให้ผ่านแนวกั้นไปแล้วก็ยิ่งทำให้ผู้ชุมนุมฮึกเหิม แต่ต้องย้ำว่าห้ามบุกรุก หรือปิดกั้นทางเข้าออก โดยเฉพาะทำเนียบรัฐบาลเป็นหน้าตาของประเทศ ฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงทราบดีแล้วว่าอะไรถูกอะไรผิด เพราะฉะนั้นอย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย
