xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.บางรักไม่หวั่นถูกสอบเมินจับสินค้าเถื่อน ลั่นชี้แจงได้ทุกเรื่อง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ผกก.บางรัก ไม่หวั่นถูกตั้งคณะกรรมการสอบละเลยปฏิบัติหน้าที่ หลังชุด ฉก.กระทรวงพาณิชย์ บุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ย่านพัฒนพงษ์ ชี้เป็นเรื่องดีที่สามารถมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุกวดขันจับกุมสินค้าละเมิดในพื้นที่มาตลอด ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ขณะที่ผู้ค้าพัฒน์พงษ์ ร้องสภาทนายความ ถูกจนท.ทำเกินกว่าเหตุ

จากกรณีที่ชุดเฉพาะกิจของกระทรวงพาณิชย์ เข้าบุกจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่บริเวณย่านพัฒนพงษ์ จนเกิดเหตุปะทะกับผู้ค้าทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเกิดเรื่องจนบานปลาย และนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบ ผกก. และตำรวจ สน.บางรัก ความคืบหน้าล่าสุด

วันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก กล่าวชี้แจงกรณีนครบาลตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า ภายหลังจากที่ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน รอง ผบช.น.เป็นประธานกรรมการนั้น ตนเองก็ไม่ได้หนักใจหรือมีความวิตกกังวลอะไร การปฏิบัติหน้าที่ก็ยังคงเต็มที่เหมือนเดิม เพราะเรื่องทุกเรื่องสามารถชี้แจงรายละเอียดต่อคณะกรรมการได้ทุกเรื่อง ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สามารถมีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการทำงานเราทำงานของเราตามปกติ ซึ่งก็ยอมรับว่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย และก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งทุกเรื่องก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ซึ่งขณะนี้ทาง พ.ต.ท.ชลิก สุขวรรณ พงส.(สบ 3) เจ้าของคดี ก็เร่งดำเนินการในการสรุปสำนวนส่งฟ้องอยู่ โดยจนถึงขณะนี้มีแต่พ่อค้าแม่ค้าขายของพัฒนพงษ์ รวม 13 ราย และคนขับรถตู้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ว่าจ้างมาให้ขนถ่ายสินค้าเท่านั้น ที่เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีซึ่งกันและกัน

พ.ต.อ.เอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ กระทรวงพาณิชย์ ยังไม่มีการติดต่อเข้าให้ปากคำแต่อย่างใด ซึ่งก็ได้สั่งการกับทาง พ.ต.ท.ชลิก เจ้าของคดีไปแล้วว่า หากไม่มีการแจ้งความเพิ่มเติมก็ให้ทำการสรุปสำนวนส่งฟ้องไปก่อน ขณะนี้ทราบว่าทาง พ.ต.ท.ชลิก ก็ได้เตรียมทำหนังสือถึงอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อให้ดำเนินการส่งตัวเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์กระทรวงพาณิชย์ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งหนังสือดังกล่าวตนเองได้เตรียมส่งให้อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาภายในวันอังคารที่ 12 พ.ค.นี้

“เรื่องการกวดขันจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในพื้นที่โดยเฉพาะย่านพัฒนพงษ์ซอย 1 ปกติก็ได้มีการจับกุมตลอดมาอยู่แล้ว และก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ตนในฐานะที่เป็นผู้สั่งการ ก็ได้มีนโยบายเน้นหนักให้ทั้งฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปราม สน.บางรัก เข้มงวดกวดขันโดยเฉพาะเรื่องการนำสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าเข้ามาจำหน่าย ซึ่งขณะนี้กล่าวได้เลยว่าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่วางจำหน่ายอยู่ลดน้อยลงไปมาก บางครั้งก็ไม่ได้มีการนำมาวางจำหน่าย เราก็ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปทำการล่อซื้อจับกุม ซึ่งก็ได้ดำเนินคดีกับผู้ค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ไปหลายรายแล้ว” พ.ต.อ.เอกชัย กล่าว

ในวันเดียวกัน ที่สภาทนายความ ถนนราชดำเนิน นายสุภาพ ชัยเสน ตัวแทนกลุ่มผู้ค้าสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้าย่านพัฒนพงศ์ กว่า 100 ราย รวมตัวกันยื่นหนังสือต่อนายเดชอุดม ไกรฤกษ์ นายกสภาทนาย ขอให้ช่วยเหลือด้านคดีที่แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางรัก กรณีที่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เข้าจับกุมยึดสินค้าโดยใช้ความรุนแรงและอาวุธปืน เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายและบาดเจ็บหลายราย โดยนายเดชอุดม และนายเจษฎา อนุจารีย์ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ และคณะกรรมการสภาทนายความ เป็นผู้รับมอบ

โดยนางอุไร จำปาทอง อายุ 28 ปี กล่าวว่า ขายเสื้อผ้าย่านพัฒน์พงษ์มากว่า 10 ปีแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้น เจ้าหน้าที่ทำเหมือนโจรที่มาปล้นเอาทรัพย์สินไปทุกอย่าง สิ่งที่ไม่ควรเอาไปก็เอาไป โดยที่ตัวเราไม่สามารถปกป้องทรัพย์สินได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าหน้าที่เอาสมุดบัญชีพร้อมเงินสด 3,000 บาทไปหมด ยอมรับว่าสิ่งของที่เอาไปที่ถูกก็มีที่ผิดก็มี แต่เจ้าหน้าที่กลับเอาไปหมด

ด้านนายเดชอุดม กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่ได้รับทราบจากกลุ่มผู้ค้าย่านพัฒนพงศ์ ทราบว่าในวันที่จับกุม มีกลุ่มคนสวมเสื้อสีดำจำนวนมาก ไม่แสดงบัตรว่าเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามเฉพาะกิจของกระทรวงพานิชย์ เข้าจับกุมและยึดสินค้าโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและกระทำด้วยความรุนแรง ซึ่งตาม ม.66 กฎหมายลิขสิทธิ์แล้ว เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ต้องเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งต้องได้รับการแต่งตั้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ ซึ่งถ้าเป็นผู้ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นชุดเฉพาะกิจเข้าร่วมจับกุม ถือเป็นการกระทำของกลุ่มกองโจร ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วน นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพานิชย์ จะรู้เห็นด้วยหรือไม่เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่จะต้องทำการสอบสวน

นายเดชอุดม กล่าวว่า การตรวจค้นตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ต้องมีผู้แทนเจ้าทุกข์มาชี้ยืนยันให้จับกุมผู้กระทำผิด ไม่ใช่มากวาดยกเอาไปทั้งแผง แล้วของกลางเอาไปไว้ไหน หากเป็นเจ้าหน้าที่ก็ถือว่า ทำละเมิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องรับผิดชอบ โดยในคดีอาญา ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้วจึงได้แนะนำให้ผู้ค้าทยอยกันมาให้ข้อมูลเจ้าสภาทนายความเพื่อประโยชน์ในการให้การกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในส่วนการเรียกร้องความเสียหายนั้นได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปยื่นเรื่องต่อกระทรวงพานิชย์ ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตาม พ.ร.บ.ความรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งหากดำเนินการแล้วไม่มีความคืบหน้า ให้มาที่สภาทนายความเพื่อยื่นฟ้องผู้เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองต่อไป

พร้อมกันนี้ นายเดชอุดม ยังได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการบังคับใช้กฎหมายให้ชอบด้วยหลักนิติธรรมตามข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสภาทนายความ ไม่เห็นด้วยกับการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่การบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นไปตามขั้นตอน ไม่ใช่ลุแก่อำนาจอย่างที่ปฏิบัติอยู่ สภาทนายความ เห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ในโสตทัศนูปกรณ์ และลิขสิทธิ์ในรูปงานสร้างสรรค์ต่างๆ ที่มีการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ ถ.พัฒน์พงศ์นั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาที่ทำให้การจราจลและสถานการณ์วิกฤตในพัทยากรุงเทพมหานคร และอีกหลายจังหวัด โดยมีการใช้กำลังทหารในกรณีที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการใช้กองกำลังทั้งที่มีอาวุธและไม่มีอาวุธ เพื่อป้องกันตัวเองแล้ว กรณีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดส่วนตัวไม่ใช่คดีร้ายแรง ซึ่งแม้จะมีโทษจำคุกและค่าปรับค่อนข้างสูง แต่เป็นเรื่องที่สามารถยอมความและเลิกคดีต่อกันได้ โดยกระบวนการใช้กฎหมาย ดังนั้นการใช้กลุ่มพลังที่ไม่เกี่ยวข้องกับ พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ถูกต้องตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และดำเนินงานโดยใช้ความรุนแรงบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์จะต้องดำเนินกฎหมายตามขั้นตอนของหลักนิติธรรมที่ถูกต้อง ซึ่งทางออกที่ดีคือการสร้างสภาพบังคับกฎหมายภาษีสรรพสามิตของสินค้าลิขสิทธิ์ที่จะทำให้ควบคุมการจำหน่ายได้ดีมีประสิทธิภาพและจะไม่มีการละเมิดกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

นายเดชอุดม กล่าวว่า สภาทนายความอย่างเห็นความปรองดองและความเข้าใจในการบังคับใช้กฎหมายอย่างที่เป็นแบบสังคมที่เจริญแล้วและการละเมิดสิทธิของประชาชนไม่ว่าหน่วยงานรัฐหรือกลุ่มพลังใดๆที่ทำสิ่งที่เกินเลยกฎหมายกำหนดก็จะต้องมีมาตรการดำเนินการให้ถึงที่สุดอย่างต่อเนื่อง
พ.ต.อ.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผกก.สน.บางรัก
ภาพเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างผู้ค้าย่านพัฒน์พงศ์กับชุดเฉพาะกิจของกระทรวงพาณิชย์
กำลังโหลดความคิดเห็น