ASTVผู้จัดการรายวัน -“สุชาติ” กำชับตำรวจดูแลพันธมิตรฯเคลื่อนทัพบุกสภาด้วยความละมุนละม่อม ลั่นจะรักษาที่มั่นเท่าที่จะทำได้ เชื่อไม่มีเหตุรุนแรง ด้าน "อำนวย" ขู่ฟ่อ หากแกนนำฯ ดูแลม็อบไม่ได้ตำรวจเอาจริงแน่ ปากดี ท้า ป.ป.ช. คณะกรรมการสิทธิฯ ลงพื้นที่ดูม็อบบุกสภา เย้ยตรวจหลังเกิดเหตุไม่ได้อะไร
วานนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวถึงการดูการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความสงบของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐภาและจุดต่างๆ ให้ใช้ความละมุนละม่อม และคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะรักษาที่มั่นเท่าที่จะทำได้ เชื่อว่าคงจะไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ และสั่งกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงสุดในกรณีที่ถูกยั่วยุต่างๆ
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุระเบิดรายวันขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ต้องขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน สำหรับมาตรการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อกวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือกับทหารตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญต่างๆ
วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร ที่ปรึกษา (สบ 10) เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง รอง ผบช.น.,ผบก.น.1-9, ผบก.ตปพ., ผบก.จร. ตัวแทนจากทหาร เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเคลื่อนขบวนไปยังอาคารรัฐสภา
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะ รองโฆษก บช.น.กล่าวแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาจริง ซึ่งจากการที่ผ่านมาที่แกนนำพันธมิตรฯ ได้ใช้คำพูดในลักษณะที่ทำให้ประชาชนในกรุงเทพฯ เกิดความตื่นตระหนก ไม่ว่าจะเป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” “สงครามครั้งนี้ม้วนเดียวจบ” “ทุบหม้อข้าวเข้าตีเมือง ไม่ชนะไม่กลับ” หรือคำพูดที่รุนแรงกว่านั้น เช่น เลือดจะนองแผ่นดิน ซึ่งจริงๆ แล้วคำพูดเหล่านี้ไม่ควรที่จะพูดแล้ว จริงๆ ไม่ควรที่แม้แต่จะคิด ตนถือว่าแค่เพียงคิดก็แย่แล้ว เพราะแผ่นดินไทย ประเทศไทย คือสยามเมืองยิ้ม ทำไมต้องเลือดนองแผ่นดิน ทำไมต้องม้วนเดียวจบ ทำไมต้องทุบหม้อข้าวเข้าตีเมือง คำพูดเหล่านี้ถือเป็นคำที่มีความรุนแรงอยู่ในตัว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากฝากเตือนไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ในเมื่อบอกว่าจะชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ยืนอยู่บนหลักนั้น แต่จากคำพูดที่กล่าวมานั้นเจตนาไม่ใช่ตามนั้นแล้ว เช่นถ้าหากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจริงท่านต้องรับผิดชอบในความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เพราะก่อนที่จะพูดได้ต้องคิดก่อน คิดแล้วพูด พูดแล้วกระทำ ถือว่าครบองค์ประกอบของความผิด เพราะฉะนั้นจึงอยากแจ้งเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำว่าให้ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในความสงบอย่างแท้จริง ถ้าจะมีการเคลื่อนกำลังไปยังรัฐสภาหรือที่ไหนก็แล้วแต่
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวอีกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. หรือตัวแทนกองทัพที่มาประชุมร่วม เรายืนร่วมอยู่จุดเดียวกันคือ จะดูแลสถานการณ์อย่างละมุนละม่อม โดยใช้วิธีการสันติโดยไม่ใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด ยกเว้นสถานการณ์เกินที่จะควบคุมอย่างสงบได้ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่สงบให้จงได้
“อยากฝากถึงคณะกรรมการต่างๆ อันนี้ไม่ใช่การท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการสิทธิฯ คณะกรรมการคณะต่างๆ ก็ดี ซึ่งหากภายหลังเกิดเหตุการณ์แล้วท้าให้พิสูจน์ก็ต้องมาข้องแวะกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ผมอยากให้เดินออกมาดู มารู้ มาเห็นตั้งแต่ต้นว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุ ใครเป็นผู้เริ่มต้น ใครเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ใครเป็นผู้ทำเกินกว่าเหตุ จะมาอยู่กับตำรวจก็ได้ ดูว่าตำรวจทำอะไรบ้าง ลำดับขั้นตอนจากเบาไปหาหนักจริงหรือไม่ ใช้วิธีการสันติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่อย่างไร มาตั้งแต่ต้นเลยครับ อย่ารอตอนที่ผลออกมา เมื่อมีคนเจ็บขึ้นมาก็ตำรวจ มาดู มารู้ มาเห็นตั้งแต่ต้นเถอะครับว่าตำรวจทำอะไร ทหารทำอะไร ว่าสันติวิธีจริงหรือไม่ จากเบาไปหาหนักใช่หรือไม่ มาเดินกับผมเลยก็ได้ หรือมาเดินกับเจ้าหน้าที่เลยก็ได้” รองโฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมาแถลงข่าวในฐานะ รองโฆษก บช.น. อย่างครั้งที่แล้วตนออกมาแถลงข่าวแต่ไม่ได้เข้าในพื้นที่ ป.ป.ช. กลับเข้าใจว่าตนไปสั่ง กลายเป็นผู้แถลงข่าว พูดก็ผิดเสียแล้ว ดังนั้น ฝากมาเลยมาดูกันเสียเลย วันนี้ตนแถลงข่าวในนาม รองโฆษก บช.น. หลังเสร็จสิ้นการประชุม เพื่อให้ทราบว่านโยบายร่วมกันของกองทัพ บช.น.ที่จะดูแลเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยสันติวิธี ด้วยความละมุนละม่อม ดังนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็อย่าจงได้ใช้ความรุนแรงตามที่พูดออกมาเป็นอันขาด คนกรุงเทพฯ ตื่นตระหนกมาก อย่าสร้างความตื่นตระหนกขึ้นในสังคมกรุงเทพฯ ประชาชนเดือดร้อนกันมากพอสมควร ขอให้ได้ผ่อนคลาย ได้เดินหน้าเถอะ
วานนี้ (23 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกล่าวถึงการดูการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลรักษาความสงบของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะมีการเคลื่อนขบวนไปปิดล้อมรัฐภาและจุดต่างๆ ให้ใช้ความละมุนละม่อม และคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าวสามารถทำได้แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะรักษาที่มั่นเท่าที่จะทำได้ เชื่อว่าคงจะไม่เกิดเหตุร้ายใดๆ และสั่งกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างถึงสุดในกรณีที่ถูกยั่วยุต่างๆ
พล.ต.ท.สุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุระเบิดรายวันขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวคนร้ายอยู่ แต่เจ้าหน้าที่ต้องขอเวลาในการรวบรวมพยานหลักฐาน สำหรับมาตรการป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะมีมือที่ 3 เข้ามาก่อกวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานขอความร่วมมือกับทหารตั้งจุดตรวจตามสถานที่สำคัญต่างๆ
วันเดียวกันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัตร ที่ปรึกษา (สบ 10) เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง รอง ผบช.น.,ผบก.น.1-9, ผบก.ตปพ., ผบก.จร. ตัวแทนจากทหาร เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเคลื่อนขบวนไปยังอาคารรัฐสภา
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น.ในฐานะ รองโฆษก บช.น.กล่าวแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า จากการประเมินสถานการณ์เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนขบวนไปยังรัฐสภาจริง ซึ่งจากการที่ผ่านมาที่แกนนำพันธมิตรฯ ได้ใช้คำพูดในลักษณะที่ทำให้ประชาชนในกรุงเทพฯ เกิดความตื่นตระหนก ไม่ว่าจะเป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” “สงครามครั้งนี้ม้วนเดียวจบ” “ทุบหม้อข้าวเข้าตีเมือง ไม่ชนะไม่กลับ” หรือคำพูดที่รุนแรงกว่านั้น เช่น เลือดจะนองแผ่นดิน ซึ่งจริงๆ แล้วคำพูดเหล่านี้ไม่ควรที่จะพูดแล้ว จริงๆ ไม่ควรที่แม้แต่จะคิด ตนถือว่าแค่เพียงคิดก็แย่แล้ว เพราะแผ่นดินไทย ประเทศไทย คือสยามเมืองยิ้ม ทำไมต้องเลือดนองแผ่นดิน ทำไมต้องม้วนเดียวจบ ทำไมต้องทุบหม้อข้าวเข้าตีเมือง คำพูดเหล่านี้ถือเป็นคำที่มีความรุนแรงอยู่ในตัว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากฝากเตือนไปยังกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ในเมื่อบอกว่าจะชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ยืนอยู่บนหลักนั้น แต่จากคำพูดที่กล่าวมานั้นเจตนาไม่ใช่ตามนั้นแล้ว เช่นถ้าหากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นจริงท่านต้องรับผิดชอบในความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เพราะก่อนที่จะพูดได้ต้องคิดก่อน คิดแล้วพูด พูดแล้วกระทำ ถือว่าครบองค์ประกอบของความผิด เพราะฉะนั้นจึงอยากแจ้งเตือนไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำว่าให้ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในความสงบอย่างแท้จริง ถ้าจะมีการเคลื่อนกำลังไปยังรัฐสภาหรือที่ไหนก็แล้วแต่
นอกจากนี้ พล.ต.ต.อำนวย ยังกล่าวอีกว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. หรือตัวแทนกองทัพที่มาประชุมร่วม เรายืนร่วมอยู่จุดเดียวกันคือ จะดูแลสถานการณ์อย่างละมุนละม่อม โดยใช้วิธีการสันติโดยไม่ใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด ยกเว้นสถานการณ์เกินที่จะควบคุมอย่างสงบได้ก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก เพื่อควบคุมสถานการณ์ให้บ้านเมืองอยู่ในสถานการณ์ที่สงบให้จงได้
“อยากฝากถึงคณะกรรมการต่างๆ อันนี้ไม่ใช่การท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. คณะกรรมการสิทธิฯ คณะกรรมการคณะต่างๆ ก็ดี ซึ่งหากภายหลังเกิดเหตุการณ์แล้วท้าให้พิสูจน์ก็ต้องมาข้องแวะกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ผมอยากให้เดินออกมาดู มารู้ มาเห็นตั้งแต่ต้นว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุ ใครเป็นผู้เริ่มต้น ใครเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ใครเป็นผู้ทำเกินกว่าเหตุ จะมาอยู่กับตำรวจก็ได้ ดูว่าตำรวจทำอะไรบ้าง ลำดับขั้นตอนจากเบาไปหาหนักจริงหรือไม่ ใช้วิธีการสันติตามขั้นตอนถูกต้องหรือไม่อย่างไร มาตั้งแต่ต้นเลยครับ อย่ารอตอนที่ผลออกมา เมื่อมีคนเจ็บขึ้นมาก็ตำรวจ มาดู มารู้ มาเห็นตั้งแต่ต้นเถอะครับว่าตำรวจทำอะไร ทหารทำอะไร ว่าสันติวิธีจริงหรือไม่ จากเบาไปหาหนักใช่หรือไม่ มาเดินกับผมเลยก็ได้ หรือมาเดินกับเจ้าหน้าที่เลยก็ได้” รองโฆษก บช.น.กล่าว
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า วันนี้ตนมาแถลงข่าวในฐานะ รองโฆษก บช.น. อย่างครั้งที่แล้วตนออกมาแถลงข่าวแต่ไม่ได้เข้าในพื้นที่ ป.ป.ช. กลับเข้าใจว่าตนไปสั่ง กลายเป็นผู้แถลงข่าว พูดก็ผิดเสียแล้ว ดังนั้น ฝากมาเลยมาดูกันเสียเลย วันนี้ตนแถลงข่าวในนาม รองโฆษก บช.น. หลังเสร็จสิ้นการประชุม เพื่อให้ทราบว่านโยบายร่วมกันของกองทัพ บช.น.ที่จะดูแลเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยสันติวิธี ด้วยความละมุนละม่อม ดังนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมก็อย่าจงได้ใช้ความรุนแรงตามที่พูดออกมาเป็นอันขาด คนกรุงเทพฯ ตื่นตระหนกมาก อย่าสร้างความตื่นตระหนกขึ้นในสังคมกรุงเทพฯ ประชาชนเดือดร้อนกันมากพอสมควร ขอให้ได้ผ่อนคลาย ได้เดินหน้าเถอะ
