xs
xsm
sm
md
lg

ตามดูคดีความ “ทักษิณ” ไม่มีแม้เสี้ยวแผ่นดินในไทยให้หยัดยืน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

สืบเนื่องจาก 14 ก.พ.วันวาเลนไทน์ กลุ่ม 3 เกลอ เชลียร์นาย นปช.เสื้อแดง จัดงานเลี้ยงระดมทุนครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยอ้าง “4 เงื่อนไขไร้สาระ” โดยกำหนดดีเดย์ก่อม็อบป่วนในช่วงการประชุมอาเซียนซัมมิต ปลายเดือน ก.พ.นี้ ซึ่งมีกลุ่มญาติมิตรแฟนคลับคนเสื้อแดงมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมฟังการ “โฟนอิน” ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี “นายทุนใหญ่” ผู้ไร้แผ่นดินอยู่

งานนี้ “ทักษิณ” ยังคง “แผ่นเสียงตกร่อง” แอบอ้างแต่เปลือกของประชาธิปไตย แถมคุยโวจะกลับเมืองไทย หากประชาชนพร้อมจะให้กลับมา แม้จะถูกฆ่าตายก็ไม่เป็นไร ส่วนที่ทาง ปชป.เรียกร้องให้กลับมาขึ้นศาล ต้องถามก่อนว่าได้รับความเป็นธรรมเป็นหรือเปล่า

เกือบทุกครั้ง ในการ “โฟนอิน” ทักษิณ ยังคงเรียกร้องความสงสาร ด้วยการอ้างถูกดำเนินการนอกกติกา จนต้องตกเป็นผู้ต้องหา และจำเลยในหลายต่อหลายคดีแบบไม่เป็นธรรม ตอกย้ำว่า ตัวเขาไม่เชื่อถือใน “กระบวนการยุติธรรมไทย” ซึ่งใช้ “เงินจากการทุจริต” ซื้อหาไม่ได้เหมือนกับ “นักการเมืองดาวร้าย” ที่คอยเลียแข้งเลียขา

ส่วน คนไทยก็มีทั้งที่หลงเชื่อ และไม่เชื่อกับวาจา ของอดีตผู้นำจอมมารยาหน้าเหลี่ยม จนถูกเสี้ยมให้ทะเลาะกันจนประเทศชาติแตกแยก ดังนั้น เราจึงต้องมาจำแนกแจงแจงคดีความของทักษิณ เพื่อเป็นการเตือนความจำกันอีก

คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินรัชดาฯ เป็นคดีแรกที่สิ้นสุดไปแล้ว เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2551 ที่ผ่านมา เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษา จำคุก 2 ปี ทักษิณ ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช.กรณีปล่อยให้คุณหญิงพจมาน ภริยาเข้าเป็นคู่สัญญาประมูลซื้อที่ดิน 33 ไร่ ย่าน ถ.รัชดาฯ จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ได้ในราคา 772 ล้านบาท ซึ่งเป็นการซื้อขายที่ดินที่ต่ำกว่าราคาประเมิน ซึ่งทำให้ชื่อของ ทักษิณ ถูกบันทึกไว้ว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกพิพากษาจำคุกจากการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

อย่างไรก็ดี เมื่อ ทักษิณ ต้องหนีโทษจำคุกจากแผ่นดินไทย ส่งผลให้คดีทุจริตอีกมากมาย ต้องหยุดชะงัก ศาลฎีกาฯ ต้องจำหน่ายคดีไว้เป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย

คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว “หวยบนดิน” ซึ่ง คตส.ได้ยื่นฟ้อง ทักษิณ ครม.และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน เป็นจำเลย ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ

คดีทุจริตแปลงค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ-ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัท ชินคอร์ป ทำให้รัฐเสียหายกว่า 6.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ทักษิณ เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่รับสัมปทาน หรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการ หรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.ป.ป.ช.พ.ศ.2542

คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ 4,000 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลพม่า เพื่อดำเนินโครงการจัดซื้ออุปกรณ์กิจการโทรคมนาคมจาก บริษัทในเครือชินคอร์ป ของครอบครัวชินวัตร ซึ่ง ทักษิณ เป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการดูแลกิจการเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 และมาตรา 157

คงเหลือเพียงคดีแพ่งในส่วนของการยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 7.6 หมื่นล้าน อันได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติ ตกเป็นของแผ่นดิน จากการจงใจฝ่าฝืน พ.ร.บ.ป.ป.ช.ทำให้ธุรกิจครอบครัวมีการเพิ่มมูลค่านับแสนล้านบาท รวมทั้งมีการออกมาตรการแก้ไขสัญญาบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซึ่ง ศาลฎีกาฯ สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาต่อได้ โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการนัดตรวจพยานหลักฐานในช่วง เดือน มี.ค.นี้

การโฟนอินถี่ขึ้นในช่วงนี้ ด้วยท่วงที ลีลาแบบปลุกเร้า ปนเศร้าเรียกน้ำตา เชื่อว่า มีผลเพียงสร้างขวัญกำลังใจให้กลุ่มผู้สนับสนุนที่เริ่มจะอ่อนแรง แต่เมื่อดูจากคดีความที่รออยู่ยาวเป็นหางว่าวเช่นนี้ ไม่ว่าจะ โฟนอิน อีกกี่ที ทักษิณ คงไม่มีทางกลับมาเมืองไทย มาให้ “กลุ่มคนเสื้อแดง” ได้ชื่นใจกันอย่างแน่นอน
พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณ
กำลังโหลดความคิดเห็น