ผบช.ส.ระบุ ตำรวจสันติบาลมีหน้าที่ดูความเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น หาก “ใจลล์ ใจ” หนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปกบดานอังกฤษจริง เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดต้องติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า รศ.ใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ถูกกล่าวหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ได้เดินทางไปประเทศอังกฤษ หลังจากเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวชั่วคราว ซึ่งคาดการณ์ว่า จะเป็นการหลบหนีการถูกดำเนินคดี ว่า ตำรวจสันติบาลมีหน้าที่ดูความเคลื่อนไหวในประเทศเท่านั้น หากผู้ต้องหาหลบหนีจริงหน้าที่การติดตามตัวมาดำเนินคดีเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุดที่จะเป็นคนติดตามตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย
พล.ต.ท.ธีระเดช กล่าวต่อไปว่า ตำรวจสันติบาลได้ดูความเคลื่อนไหว หากมีการโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมเข้าข่ายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเผยแพร่ทางเว็บไซต์ ถ้าผิดกฎหมายแล้วดำเนินคดีตามกฎหมายไทยได้ตำรวจก็ดำเนินการ แต่หากเป็นการโพสต์ในเว็บไซต์ต่างประเทศก็จะดำเนินการยาก ทำได้คือประสานกระทรวงไอซีทีบล็อกเว็บไซต์ดังกล่าไว้ไม่ให้เผยแพร่ในประเทศไทย ซึ่งก็ติดตามดูอยู่ตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ รศ.ใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.ปทุมวัน พร้อมทั้งได้รับการประกันตัวชั่วคราว เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นสิทธิทำได้ เพราะไม่ได้ห้ามออกนอกประเทศแต่อย่างใด เนื่องจากคดียังไม่อยู่ในชั้นศาล แต่เมื่อประทับรับฟ้องคดีดังกล่าว หากผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีคดีก็ต้องออกหมายจับต่อไป ซึ่งเมื่อถึงขั้นตอนนั้นทางอัยการสูงสุดจะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี ทั้งนี้ ในวันดังกล่าวได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมารอให้กำลังใจ รศ.ใจลล์ ใจ จำนวนหนึ่ง พร้อมชูป้ายข้อความว่า “ม.112 กฎหมายเผด็จการ ล้าหลัง ทำลายเสรีภาพ”, “ใช้กฎหมายหมิ่นคุกคามเสรีภาพทางวิชาการ คือ เผด็จการทางปัญญา” พร้อมกับตะโกนเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุาภาพ ด้วย
“ใจล์ ใจ” รับทราบ-ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา “หมิ่นสถาบัน”