xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดจำหน่าย เซ็นเซอร์ “ดิ อีโคโนมิสต์” เหตุเนื้อหาพาดพิงสถาบันชัด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปกนิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ ฉบับล่าสุดที่ผู้จัดจำหน่ายตัดสินใจไม่วางแผงในประเทศไทย
เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการ – ดิ อีโคโนมิสต์ โดนแบนเล่มที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ผู้จัดจำหน่ายกลัวผิดกฎหมายหมิ่นฯ เหตุมีบทความอ้างเหตุ นักข่าวออสซี่ ถูกจำคุก - “ใจ” ถูกดำเนินคดี กล่าวพาดพิงสถาบันกษัตริย์ โจมตี กฎหมายหมิ่นฯ ม.112 เมืองไทย ว่า คร่ำครึ-ล้าสมัย

วันจันทร์ที่ผ่านมา (26) ผู้แทนจำหน่ายนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ในประเทศไทย ระบุกับผู้สื่อข่าว ว่า ทางบริษัทได้ปฏิเสธการกระจายหนังสือดังกล่าวไปให้กับสมาชิก โดยอ้างเหตุผลว่านิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาเกี่ยวกับการตัดสินจำคุกนักเขียนชาวออสเตรเลีย (นายแฮร์รี นิโคลายส์) ซึ่งไปดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ในประเทศไทย

การปฏิเสธการกระจายและจำหน่ายนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วในรอบ 2 เดือน โดยพนักงานของร้านเอเชีย บุคส์ กล่าวว่า นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ เล่มล่าสุด ถูกห้ามวางจำหน่ายบนแผง แต่ปฏิเสธที่จะบอกถึงสาเหตุ

“วันศุกร์ที่ผ่านมา นิตยสารไม่ได้ถูกวางขายที่นี่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรฉันก็ไม่ได้รับการแจ้งเสียด้วย” เธอกล่าวกับเอเอฟพี

ก่อนหน้านี้ ในเดือนธันวาคม 2551 นิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ก็เคยถูกระงับการกระจายและจำหน่ายในประเทศไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง คือ ฉบับระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค.โดยตีพิมพ์เผยแพร่ บทความเรื่อง “The king and them” และ “A right royal mess” ซึ่งมีการให้บิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ทั้งมีการกล่าวพาดพิงและให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย จนทำให้กระทรวงการต่างประเทศของไทย ต้องทำหนังสือชี้แจงและประท้วงถึงกองบรรณาธิการนิตยสารฉบับดังกล่าว

สำหรับนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ฉบับล่าสุด ที่เพิ่งถูกแบนในประเทศไทยนั้น หน้าปกเป็นเรื่อง Inside the banks โดยเนื้อหาภายในที่มีปัญหานั้นอยู่ในส่วนของข่าวในทวีปเอเชีย เป็นบทความที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (Thailand's lèse-majesté law) และใช้หัวเรื่องว่า ปัญหาของแฮร์รี (The Trouble with Harry) โดยกล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 19 ม.ค.นายแฮร์รี นิโคลายส์ ถูกศาลอาญาตัดสินจำคุกเป็นเวลา 3 ปี จากการเขียนหนังสือเรื่อง Verisimilitude ที่พาดพิงถึงบุคคลในสถาบันเบื้องสูงของไทย

นอกจากนี้ บทความ ดิ อีโคโนมิสต์ ชิ้นดังกล่าวยังอ้างอิงถึงคดี กรณีที่ นายใจ อึ๊งภากรณ์ นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน และความเคลื่อนไหวในการล่ารายชื่อนักวิชาการจำนวน 128 คน ในหลายประเทศที่เรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดีกับนายใจ โดยมีการพาดพิงไปถึงสถาบันเบื้องสูง และระบุด้วยว่า กฎหมายหมิ่นฯ ที่กดขี่นั้นคงมิอาจหยุดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์สถาบันได้ พร้อมกันนั้น ดิ อีโคโนมิสต์ ยังระบุด้วยว่ากฎหมายหมิ่นฯ ในเมืองไทยนั้นเป็นกฎหมายที่คร่ำครึ

ทั้งนี้ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา นิตยสา รดิ อีโคโนมิสต์ ถือว่า เป็นนิตยสารต่างประเทศฉบับหนึ่งที่นำเสนอข่าวการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และฝ่ายที่อยู่ตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเชิงลบอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยหลายครั้งข้อมูลที่นำเสนอก็เป็นข้อมูลที่ผิดพลาด บิดเบือน และปราศจากพื้นฐานของข้อเท็จจริง

กฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ กฎหมายหมิ่นฯ เป็นกฎหมายความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ในหมวด ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ระบุว่า “ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี”

นายแฮรี นิโคลายส์ นักเขียนชาวออสเตรเลีย (ภาพจากรอยเตอร์)
ดิ อีโคโนมิสต์ คือ ฉบับระหว่างวันที่ 6-12 ธ.ค. มีการกล่าวพาดพิงและให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยจนทำให้กระทรวงต่างประเทศของไทยต้องทำหนังสือชี้แจงและประท้วง
กำลังโหลดความคิดเห็น