ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เสื้อแดงประหยัดน้ำเลี้ยง ขนป้ายเดิมยกให้กำลังใจ “ใจ อึ๊งภากรณ์” ที่ สน.ปทุมวัน หลังจากสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งขนป้ายเดียวกันไปเชียร์ “จักรภพ” ที่สำนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ระบุข้อความ “กฎหมายหมิ่น เป็นกฎหมายเผด็จการ ทำลายเสรีภาพประชาชน”
จากกรณีที่ เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.วันนี้ (20 ม.ค.) นายใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เดินทางมาที่ สน.ปทุมวัน พร้อมกับทนายความ เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน และ พ.ต.ท.อุดม เปี่ยมศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน หลังจากถูกออกหมายเรียกในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 กรณีเขียนหนังสือเรื่อง A Coup for the Rich โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงประมาณ 30 คน และกลุ่มประชาธิปไตยแรงงานจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกประมาณ 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่า ป้ายให้กำลังใจ นายใจ ของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันนี้ บางส่วนมีความคล้ายคลึงกันกับป้ายกระดาษที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคยนำไปยกให้กำลังใจ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.เมื่อนายจักรภพ เดินทางไปรายงานตัวต่ออธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญา ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 112 เช่นเดียวกัน
สำหรับ “ป้ายกระดาษ” ดังกล่าวเป็นตัวอักษรสีดำที่พิมพ์ลงบนกระดาษสีขาวและแปะไปบนพลาสติกลูกฟูก (ฟิวเจอร์บอร์ด) สีดำอีกที ระบุข้อความว่า “ม.112 กฎหมายเผด็จการ ล้าหลัง ทำลายเสรีภาพประชาชน” ขณะที่ป้ายอื่นๆ ถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ในเชิงโจมตีว่า ประเทศไทยเป็นประเทศล้าหลังที่มีกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่มีบทลงโทษรุนแรง
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ระบุว่า “ผู้ใด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สามปีถึงสิบห้าปี”
สำหรับนายใจลล์ ใจ อึ๊งภากรณ์ เป็นบุตรชายคนเล็กของ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มีพี่ชายสองคน คือ นายจอน อึ๊งภากรณ์ และ นายไมตรี อึ๊งภากรณ์ ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ ในแวดวงวิชาการเป็นที่ทราบกันว่านายใจ เป็นผู้ที่นิยมชมชอบแนวคิดของลัทธิมาร์กซิสม์ ขณะที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็เขียนบทความหลายชิ้นโจมตีการรัฐประหาร โดยเมื่อเดือน มิ.ย.2551 ก็เพิ่งเขียนบทความเรื่อง “เขาพระวิหารเป็นของเขมร” ลงในเว็บไซต์ประชาไท พร้อมกับลงชื่อในตอนท้ายของบทความชิ้นดังกล่าวด้วยว่า “ใจ อึ๊งภากรณ์ (ผมไม่ใช่ “คนไทย” ภูมิใจเป็นจีนปนอังกฤษ)”