เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อทหารหน่วยรบพิเศษของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ทำการฝึกซ้อมทดสอบขีดความสามารถ ต่อหน้า ผบ.ทบ.เกิดความผิดพลาดขึ้น เมื่อเครื่องบินคอบร้ายิงจรวดพลาดเป้า ตกใส่เหล่าทหารที่กำลังฝึกซ้อมบาดเจ็บรวม 19 นาย ในจำนวนนั้นสาหัส 5 ราย ขณะที่ รมว.กลาโหม ชี้ เกิดจาก “กระสุนช็อต”
วันนี้ (28 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพบก เดินทางมาชมการฝึกซ้อมทดสอบขีดความสามารถของทหารหน่วยรบพิเศษ เพื่อสรุปแนวทางในการพัฒนาหน่วยรบในการป้องกันประเทศ ที่สนามฝึกบ้านท่าเดื่อ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี โดย พล.ท.ภุชงค์ รัตนวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (ผบ.นสศ.) พร้อมคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลพบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการฝึกซ้อมทดสอบขีดความสามารถของทหารหน่วยรบพิเศษครั้งนี้ มีกำลังพลจากกองพลรบพิเศษที่ 1 กรมรบพิเศษที่ 1, 2, 3 กองพันจู่โจม และศูนย์การบินทหารบก เข้าร่วมทำการฝึก รวมกำลังประมาณ 500 นาย แต่หลังการฝึกผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เป็นการสมมติเหตุการณ์กำลังทหารจำนวน 79 นาย จะเข้าโจมตีเป้าหมายทางภาคพื้นดิน โดยขอรับการสนับสนุนเครื่องบินคอบร้า (เฮลิคอปเตอร์แบบ 1 ของศูนย์การบินทหารบก) มาช่วยโจมตีทางอากาศด้วย และเครื่องบินคอบร้าได้ยิงจรวดชนิด 2.75 มม.ใส่เป้าหมายเพื่อทำลายฐานราบของข้าศึกตรง (บังเกอร์) หลังเครื่องบินยิงจรวดออกมาแล้ว ปรากฏว่า จรวดเกิดตกผิดที่ แทนที่จะพุ่งใส่เป้าหมาย กลับตกใส่กำลังทหารที่จะเข้าโจมตีเป้าหมายทางภาคพื้นดิน เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ทำให้ทหารที่กำลังจะเข้าโจมตีเป้าหมาย ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำนวนหลายสิบนาย
หลังเกิดเหตุ กองอำนวยการฝึกได้ส่งรถพยาบาลจำนวน 3 คัน ที่ไปคอยอำนวยความสะดวกในสถานที่ฝึก เข้าไปรับคนเจ็บที่ถูกสะเก็ดระเบิดส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี ให้แพทย์ทำการรักษาคนเจ็บ เบื้องต้นไม่พบผู้เสียชีวิต โดยมี พล.ต.พรเลิศ จำเรียง ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ระดมแพทย์และพยาบาลกว่า 30 นาย มาทำการช่วยเหลือคนไข้อย่างเร่งด่วน และนำเข้าห้องผ่าตัดทันที 2 นาย เพราะถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ท้องและขา ส่วนการฝึกยังดำเนินต่อไป เนื่องจากการฝึกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่ด้วยกัน จนกระทั่งถึงเวลา 12.00 น.จึงเสร็จสิ้นภารกิจในการฝึกช่วงแรก
ต่อมา พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และเมื่อเดินทางไปถึงทราบจากแพทย์และพยาบาล ว่า ทหารที่ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บและถูกส่งตัวมารักษามีด้วยกันทั้งหมด 19 นาย เป็นนายทหาร 1 นาย โดยมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส 5 นาย ประกอบด้วย ร.อ.สุรชาติ เทพอำนวย ผบ.ร้อยกองพันจู่โจม ส.อ.มนตรี ถิตะปุระ ส.อ.สุนทร จันทร์งาม พลทหารอนงค์ จันยานน พลทหารปราโมทย์ หาเวียนศิริ สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บที่เหลือ มี ส.อ.ชาญชัย บุตรลา ส.อ.สมยศ พลอยงาม ส.อ.กนก ศศิธร ส.อ.ภาสกร แสงสิงห์ ส.อ.สันติภาพ สุวรรณรังษี ส.อ.ศราวุธ วิวัฒนาการ ส.อ.วีระพจน์ ชอบแก้ว พลทหารต้อย วรวรรณ พลทหารอาทิตย์ เรือนเพชร และ พลทหารสิทธิพร สถานพงษ์ ทั้งหมดสังกัดกองพันจู่โจม หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ
สำหรับสาเหตุที่เครื่องบินยิงจรวดผิดเป้าหมาย ทำให้มีกำลังทหารที่กำลังฝึกภาคพื้นดินได้รับเจ็บจำนวนมากครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากการสื่อสารกันระหว่างภาคพื้นดินกับเครื่องเกิดความผิดพลาด หรือไม่ก็อาจจะมาจากการที่หลังจากเครื่องบินยิงจรวดออกไปแล้ว 4 ลูก และจรวด 2 ลูก เกิดอาการผิดพลาด ซึ่งอาจเป็นของเก่าที่เก็บไว้นานเกินไป ทำให้พุ่งไม่ถึงเป้าหมาย และตกใส่กำลังทหารที่กำลังฝึกภาคพื้นดินได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ซึ่งทหารจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เป็นอุบัติเหตุเกิดจากกระสุนช็อต ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้ว และได้กำชับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ไปตรวจสอบกระสุนล็อตดังกล่าวแล้ว สำหรับกระสุนที่เป็นปัญหาในครั้งนี้เป็นกระสุนที่ยังประจำการอยู่ และมีการทดสอบแล้วว่า มีประสิทธิภาพ จึงได้นำออกมาใช้ในการฝึก โดยไม่คิดว่าจะมีปัญหาอีก ส่วนเรื่องการดูแลสวัสดิการให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บนั้น กองทัพบกดูแลอย่างเต็มที่