“พล.ต.จำลอง” ติง “บิ๊กป๊อก” บอกรัฐบาลลาออกช้าไป ทั้งที่พันธมิตรฯ ไล่มานานแล้ว เตือนพี่น้องอย่าคาดหวังทหารจะบีบรัฐบาลให้ลาออก เพราะ ผบ.ทบ.โยนให้สังคมกดดันเอง ชี้รัฐบาลที่ประชาชนไม่ยอมรับ ทำประเทศชาติอ่อนแอ ทั้งทางเศรษฐกิจสังคม และการป้องกันประเทศ ปล่อยประเทศเล็กๆ อย่างเขมรข่มขู่
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พลตรีจำลอง ศรีเมือง ปราศรัย
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 16 ต.ค. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยที่ทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้สถานการณ์เข้มงวดมาทุกทีๆ เรามาชุมนุมโดยมีเป้าหมายที่แน่ชัด ไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 เรียกร้องให้รัฐบาลลาออกเพื่อนำไปสู่การเมืองใหม่ เป็นเพราะพวกเรา เขาจึงยังแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ ไม่เช่นนั้นแก้เสร็จไปนานแล้ว องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมคงจะถูกล้ม ใครที่เคยทำผิดคิดร้ายต่อประเทศชาติ โกงบ้านโกงเมืองมหาศาล ก็จะกลายเป็นคนถูก นี่คือผลงานเรา ซึ่งจริงๆ มีมากหว่านี้เยอะ
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า จากการที่เราเรียกร้องให้รัฐบาลลาออกนั้น การที่นายสมัคร สุนทรเวช ต้องออกไป และไม่สามารถกลับมาเป็นนายกใหม่นั้นก็เป็นผลมาจากพวกเราที่คัดค้านอย่างเต็มที่ จนกระทั่งพรรคร่วมรัฐบาลเองจากที่ตัดสินใจจะสนับสนุนนายสมัครเป็นอีก ต้องล้มเลิก ทั้งที่นายสมัครหมายมั่นปั้นมือจะกลับมาเป็นอีกครั้ง
“นายสมชายเองเราก็เรียกร้องให้ลาออกเช่นกัน วันนี้เราคงทราบแล้วว่า ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ที่ช่อง 3 เวลา 5 โมงเย็นเศษๆ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ตอบเกี่ยวกับการที่รัฐบาลนายสมชายสั่งให้ตำรวจทำร้ายทำลายพวกเรา จนมีการล้มตายบาดเจ็บสาหัส เขาถามว่าถ้า พล.อ.อนุพงษ์เป็นนายกฯ จะทำอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ก็พูดถึงเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคมว่า คนในสังคมรับไม่ได้ มันเกิดเป็นกระแสขึ้นมา กระแสจากพวกเรา
พล.อ.อนุพงษ์คิดว่าจะจบได้ต้องมีคนรับผิดชอบไม่ว่าระดับนโยบายหรือคนสั่งการ ถ้ารัฐบาลสั่งเอง จากการสอบสวนที่ได้ความมานั้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบ กระแสคนในชาติคงไม่ยอม คงปั่นป่วนแน่ ตอนหนึ่ง พล.อ.อนุพงษ์บอกว่า “ถ้าผมเป็นนายกก็ออกแล้ว ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม” แต่พวกเราอย่าดีใจเกินไปกว่านี้ จนกระทั่งคาดการณ์ว่าทหารจะไปบีบบังคับนายกหรือรัฐบาล มีคำถามต่อว่า จะปลดรัฐบาลหรือไม่ ก็ตอบว่าสังคมจะทำเอง สังคมคือใคร ก็พวกเราเอง พล.อ.อนุพงษ์เพิ่งมานึกได้ หลังผ่านวันที่ 7 ตุลาคมมา ว่ารัฐบาลควรลาออก ทั้งที่เรารู้มานานแล้ว” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า รัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมมานานแล้ว รัฐบาลที่ประชาชนเกลียดหรือไม่ยอมรับนั้นจะเป็นรัฐบาลที่อ่อนแอที่สุด เมื่อรัฐบาลอ่อนแอแล้วจะกระทบไปหมด เศรษฐกิจ สังคมก็เสียหาย แม้กระทั่งการป้องกันประเทศ ตอนนี้ เศรษฐกิจในบ้านเมืองเราทรุดเอาๆ จนกระทั่งไม่มีใครอยากจะติดตาม และมาทรุดเอาตอนเศรษฐกิจโลกย่ำแย่ เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลนายสมชายรีบออกเมื่อไหร่ จะเป็นประโยชน์ต่อชาติมากเท่านั้น
ในทางสังคม มีผลวิจัยความสุขของประชาชน ขณะนี้ลดเหลือ 1.98 จากเต็ม 10 แสดงว่าการบริหารงานของนายสมชายทำให้คนไทยมีความสุขต่ำที่สุด แล้วโยงไปถึงการป้องกันประเทศด้วย
พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้บอกว่าเราต้องปลุกระดมประชาชนให้บ้าคลั่งสงคราม เพราะสงครามนั้นถ้าไม่เกิดได้ดีที่สุด แต่ด้วยความอ่อนแอของรัฐบาลไทยจึงถูกประเทศที่เล็กกว่าอย่างเขมรมายืนขู่เอาๆ ตนเคยพูดเรื่องนี้มานานตั้งแต่มีเรื่องความขัดแย้งที่เขาพระวิหาร ว่าประเทศทั้งสองที่มีความขัดแย้งกันถ้าเจรจาไม่สำเร็จต้องนำไปสู่สงคราม ซึ่งจะแพ้ชนะอยู่ที่กำลังรบเปรียบเทียบ ซึ่งเรามีมากกว่ากัมพูชาอย่างเทียบกันไมได้ทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ แต่ที่เขาขู่เราได้ เพราะรัฐบาลเราอ่อนแอ สมควรแล้วที่รัฐบาลนายสมชายต้องออกไปเร็วๆ ไม่เช่นนั้นจะเสียบ้านเสียเมือง
นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง กล่าวต่อว่า การป้องกันอธิปไตยของรัฐบาลนายสมชายยังมีการสร้างข้อจำกัดให้กับการปฏิบัติการทางทหาร เช่น ระบุว่า การตอบโต้กัมพูชานั้นต้องพิจารณาตามความเหมาะสม อย่าพยายามขยายเขตออกไป หากกัมพูชายิงเข้ามาด้วยปืนเล็กซึ่งเป็นการยิงเตือนโดยไม่หวังผล ก็ไม่ควรยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกที่รัฐบาลมีข้อจำกัดให้ทหารขนาดนี้
“นี่หมายถึงทหารเขมรเริ่มยิงก่อนนะครับ ต้องดูมันยิงมาด้วยอาวุธอะไร ถ้ามันยิงมาด้วยปืนเล็กอย่ายิงด้วยกระสุนที่ใหญ่กว่านั้น คงจะต้องถึงขนาดนี้นะครับถ้ารัฐบาลให้ปฏิบัติไปตามนโยบายคงจะต้องนับจำนวนกระสุนด้วย มันยิงมาร้อยอย่ายิงเกินร้อย มันยิงมาพันอย่ายิงเกินพัน ฟังแล้วเศร้าครับในฐานะทหารเก่าที่ผ่านสมรภูมิรบมาแล้ว นี่หละครับรัฐบาลอ่อนแอ อะไรๆ มันก็อ่อนแอไปทั้งประเทศ” พล.ต.จำลองกล่าว
พล.ต.จำลอง กล่าวในตอนท้ายว่า ในการไปที่สวนลุมพินีเพื่อนำซีดีไปแจกในวันพรุ่งนี้ (17 ต.ค.) ให้แบ่งกำลังคนไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เพราะรัฐบาลเขาพูดทุกวันว่า จะต้องใช้กำลังสลายพันธมิตรฯ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลและสะพานมัฆวานรังสรรค์ ฉะนั้นอย่าประมาท เราไปกันตามสมควร อย่าไปมากมาย เดี่ยวที่นี่จะอ่อนแอ