เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้(28ม.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เดินทางไปเป็นประธานและร่วมชมการฝึกสาธิตทดสอบขีดความสามารถทางยุทธวิธีของทหารรบพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ที่สนามยิงปืนทางยุทธวิธีของทหารรบพิเศษ อ.ท่ามะเดือ จ.ลพบุรี พร้อมด้วยคณะนายทหารระดับสูงกองทัพบก อาทิ พล.อ. ธีระวัฒน์ บุณยประดับ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสธ.ทบ. โดยมีพล.ท. ภุชงค์ รัตนสุวรรณ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ(ผบ.นสศ.) ให้การตอนรับ
การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกความพร้อมประจำปีของนสศ. โดยจัดการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่ สมมุติเหตุการณ์เข้าโจมตีข้าศึกโดยมีกำลังทางอากาศจากศูนย์การบินทบ. เป็นหน่วยสนับสนุน ส่งกำลังทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าเข้าสนับสนุนในภารกิจ และจำลองเหตุการณ์ให้ทหารรบพิเศษเข้าทำการยึดพื้นที่ ซึ่งการฝึกซ้อมรบครั้งนี้จะใช้อาวุธและกระสุนจริงเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ โดยช่วงหนึ่งของการฝึก คือ ทหารหน่วยรบพิเศษกำลังจะเข้ายึดพื้นที่ และถูกต่อต้านของฝ่ายตรงข้าม จนต้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศเป็นการด่วน ซึ่งตามภารกิจศูนย์การบินทหารบก ส่งเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าติดอาวุธจรวด ขนาด 2.75 มิลิเมตร เข้าสนับสนุนโจมตีข้าศึก เพื่อให้กำลังทหารรบพิเศษเข้ายึดพื้นที่เป้าหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กำลังทางอากาศ ฮ.คอบร้า ได้ยิงจรวดจากเฮลิคอปเตอร์ ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุ เมื่อทิศทางของจรวดที่ต้องยิงไปพื้นที่ข้าศึกไม่ไปทิศทางที่กำหนด โดยเปลี่ยนทิศทางมาลงยังกองร้อยของทหารรบพิเศษที่อยู่ภาคพื้นดิน รอทำการเข้าตีข้าศึกหลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตี ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ19 คน จนต้องยุติการฝึกซ้อมทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่นำทหารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี
หลังเกิดอุบัติเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ธีระวัฒน์ และพล.อ.ประยุทธ มีสีหน้าเคร่งเครียด และนำคณะนายทหารเดินทางไปเยี่ยมอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ก่อนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯทันที ทั้งนี้ เมื่อคณะของพล.อ.อนุพงษ์ เดินทางมาถึงกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ) ในเวลา 14.00 น. โดยหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่รอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นเวลา 15.00 น.ที่สถานีโทรทัศน์วิทยุกองทัพบก (ททบ.5) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกระสุนที่เกิดการช็อต หรือข้อขัดข้องทางอิเลกทรอนิก ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนในรายละเอียดยังไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก
"อาวุธที่นำมาใช้ทดสอบซ้อมยิงครั้งนี้ ไม่ใช่อาวุธเก่า สามารถใช้ประจำการอยู่ได้ ซึ่งกองทัพจะมีการดูแลสวัสดิการกำลังพล และผู้บัญชาการทหารบกก็มีความห่วงใยเรื่องนี้" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ขณะนี้คงต้องมีการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นน่าจะเกิดการเครื่องยิงจรวดที่ติดกับเฮลิคอปเตอร์ แต่คงต้องตรวจสอบทั้งจากนักบิน และยุทโธปกรณ์ที่ทำการฝึก ทั้งนี้อุบัติเหตุครั้งนี้มีทหารบาดเจ็บ 19 นาย สาหัส 5 นาย โดยเป็นนายทหาร 1 นาย นายสิบ 12 นาย พลทหารอาสา 6 นาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ดูแลกำลังพลให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล
การฝึกครั้งนี้เป็นการฝึกความพร้อมประจำปีของนสศ. โดยจัดการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่ สมมุติเหตุการณ์เข้าโจมตีข้าศึกโดยมีกำลังทางอากาศจากศูนย์การบินทบ. เป็นหน่วยสนับสนุน ส่งกำลังทางอากาศด้วยเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าเข้าสนับสนุนในภารกิจ และจำลองเหตุการณ์ให้ทหารรบพิเศษเข้าทำการยึดพื้นที่ ซึ่งการฝึกซ้อมรบครั้งนี้จะใช้อาวุธและกระสุนจริงเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจ โดยช่วงหนึ่งของการฝึก คือ ทหารหน่วยรบพิเศษกำลังจะเข้ายึดพื้นที่ และถูกต่อต้านของฝ่ายตรงข้าม จนต้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศเป็นการด่วน ซึ่งตามภารกิจศูนย์การบินทหารบก ส่งเฮลิคอปเตอร์แบบคอบร้าติดอาวุธจรวด ขนาด 2.75 มิลิเมตร เข้าสนับสนุนโจมตีข้าศึก เพื่อให้กำลังทหารรบพิเศษเข้ายึดพื้นที่เป้าหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กำลังทางอากาศ ฮ.คอบร้า ได้ยิงจรวดจากเฮลิคอปเตอร์ ปรากฏว่าเกิดอุบัติเหตุ เมื่อทิศทางของจรวดที่ต้องยิงไปพื้นที่ข้าศึกไม่ไปทิศทางที่กำหนด โดยเปลี่ยนทิศทางมาลงยังกองร้อยของทหารรบพิเศษที่อยู่ภาคพื้นดิน รอทำการเข้าตีข้าศึกหลังเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตี ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ19 คน จนต้องยุติการฝึกซ้อมทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่นำทหารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอานันทมหิดล จ.ลพบุรี
หลังเกิดอุบัติเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ธีระวัฒน์ และพล.อ.ประยุทธ มีสีหน้าเคร่งเครียด และนำคณะนายทหารเดินทางไปเยี่ยมอาการทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ก่อนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯทันที ทั้งนี้ เมื่อคณะของพล.อ.อนุพงษ์ เดินทางมาถึงกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ) ในเวลา 14.00 น. โดยหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่รอสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากนั้นเวลา 15.00 น.ที่สถานีโทรทัศน์วิทยุกองทัพบก (ททบ.5) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกระสุนที่เกิดการช็อต หรือข้อขัดข้องทางอิเลกทรอนิก ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาแล้วหนึ่งครั้ง ส่วนในรายละเอียดยังไม่ทราบ แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก
"อาวุธที่นำมาใช้ทดสอบซ้อมยิงครั้งนี้ ไม่ใช่อาวุธเก่า สามารถใช้ประจำการอยู่ได้ ซึ่งกองทัพจะมีการดูแลสวัสดิการกำลังพล และผู้บัญชาการทหารบกก็มีความห่วงใยเรื่องนี้" พล.อ.ประวิตรกล่าว
ด้าน พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกกล่าวว่า ขณะนี้คงต้องมีการตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ก่อนว่าเกิดจากอะไร เบื้องต้นน่าจะเกิดการเครื่องยิงจรวดที่ติดกับเฮลิคอปเตอร์ แต่คงต้องตรวจสอบทั้งจากนักบิน และยุทโธปกรณ์ที่ทำการฝึก ทั้งนี้อุบัติเหตุครั้งนี้มีทหารบาดเจ็บ 19 นาย สาหัส 5 นาย โดยเป็นนายทหาร 1 นาย นายสิบ 12 นาย พลทหารอาสา 6 นาย แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุ พล.อ.อนุพงษ์ ให้ดูแลกำลังพลให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล