“สุเทพ” แจง ฮ.ทัพบกซ้อมยิงกระสุนพลาดโดนกำลังพลบาดเจ็บนับสิบ เป็นอุบัติเหตุ ยันศูนย์สงครามพิเศษงบไม่ขาด ฝึกซ้อมตลอด ลั่นทัพบกเยียวยาผู้บาดเจ็บอย่างดี
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 29 ม.ค.52 นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีเรื่องความรับผิดชอบต่อการเสียหายที่เกิดจากการฝึกทดสอบทางยุทธวิธีของทหารรบพิเศษว่า ระหว่างการฝึกทดสอบขีดความสามารถของทหารหน่วยรบพิเศษ ที่บริเวณสนามฝึกกระสุนจริงท่าเดื่อ ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมือง จ.ลพบุรี ต่อหน้า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เฮลิคอปเตอร์ซึ่งใช้อาวุธจริงในการฝึกซ้อมได้ยิงจรวดพลาดเป้าเข้าใส่กำลังทหารที่ฝึกซ้อมอยู่บนภาคพื้นดินจนมีผู้บาดเจ็บถึง 19 นาย และที่ผ่านมามีปัญหาในการฝึกซ้อม ขอถามว่าสาเหตุในการฝึกซ้อมอาวุธจริง หรือขาดการฝึกซ้อมหรือขาดแคลนงบประมาณจัดซื้องบประมาณเพราะรัฐบาลไม่จัดสรรงบกลางปีให้กองทัพ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร และมีการตรวจสอบกระสุนหมดอายุ ที่ทำให้ยิงไม่ถึงเป้า มีการตรวจกระสุนก่อนเคลื่อนย้ายไปฝึกซ้อมหรือไม่ และกระสุนชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่จะมีการตรวจสอบก่อนฝึกเพื่อความปอลดภัยของทหารในการฝึกจู่โจมจะต้องสูญเสียไปก่อนเวลาอันควร
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่าสาเหตุดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการรบหน่วยพิเศษ กองบัญชาการสงครามพิเศษ ที่มีการฝึกกระสุนจริงทำให้เหมือนเหตุการณ์จริงทุกประการ การฝึกมี 4 ขั้นตอน ซึ่งเหตุเกิดในขั้นที่ 3 ของกองร้อยจู่โจม โดยมีการยิงสนับสนุนจากเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวดโจมตี ซึ่งเป็นการยิงสนับสนุนจำนวน 20 นัด ชุดละ 4 นัด แต่การยิงชุดหนึ่งเกิดขัดลำกล้อง จรวดไปไม่ถึงที่หมาย แต่ไปตกห่างที่หมาย 200 เมตร จำนวน 2 นัด มีนัดหนึ่งไปตกที่กำลังพลที่จะเข้าโจมตีเป้าสมมติ ทำให้มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้นมี 17 นาย ไม่ใช่ 19 นาย ส่วนอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดร่ม ขณะนี้ทุกคนปลอดภัยแล้วเพราะได้มีการเตรียมพร้อมอย่างดี คณะแพทย์เตรียมพร้อมตลอดเวลา ซึ่งได้ขนผู้ป่วยอย่างรวดเร็วทำให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลได้อย่างปลอดภัยทันเวลา
ส่วนที่ถามว่าเหตุที่เกิดขึ้นมาจากขาดการฝึกซ้อมที่ดี หรือขาดงบประมาณนั้น ความจริงการฝึกซ้อมมีปกติ ถือว่าหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ มีความขีดความสามารถสูงกองทัพไทย มีประสิทธิภาพโดยก่อนซ้อม ได้มีการฝึกยิงจรวด แต่วันฝึกจริงได้มีการซ้อมยิง 10 นัด มี 1 นัดที่ขัดลำกล้องทำให้กระสุนไปไม่ถึงเป้าหมาย จากการตรวจสอบซักถามว่าทำไมเกิดเหตุ ได้รับคำตอบกรณีนี้อาจเกิดได้ในทางทหาร อาวุธที่นำมาใช้รุ่นนี้มี 1 หมื่นกว่านัด ใช้ไปแล้ว 6,000 นัด เหลืออีก 8,000 นัด ซึ่งไม่เกี่ยวกับงบประมาณไม่พอ และมีอุปกรณ์ทุกอย่างเพียบพร้อม โดยศูนย์สงครามพิเศษไม่เคยมีปัญหาเรื่องบประมาณ
นายสุเทพ กล่าวว่า จรวดนี้ผลิตมานาน ปี 2512 สหรัฐมอบให้พร้อมเฮลิคอปเตอร์ใช้ยิงจรวด ซึ่งตั้งแต่มอบให้มาใช้ได้ดีมาตลอด และมีการตรวจสอบสภาพ ความพร้อมอาวุธอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งจรวดทุกลูกได้กำหนดเลขรหัสเอาไว้ ได้รับการตรวจสภาพจากแผนกตรวจซ่อมทำลายของทางกรมสรรพาวุธอย่างต่อเนื่องและตรวจสอบเมื่อเดือน ก.ค.50 พร้อมกำหนดว่าสามารถใช้การได้ ทำให้หน่วยปฎิบัติสามารถเบิกนำไปใช้ได้
ส่วนที่เหลือ 8,000 นัด ได้สอบถามพบว่าเมื่อเกิดเหตุแผนกตรวจสอบซ่อมทำลายคลังแสง กรมสรรพาวุธจะสุ่มตรวจสอบจรวดทดลองยิงเพื่อให้มีความมั่นใจว่าจะใช้งานได้หรือไม่ ตนเชื่อว่าทางกรมสรรรพาวุธทหารบก มีความระมัดระวังเรื่องคุณภาพอาวุธและเชื่อว่าการตรวจสอบ เชื่อถือได้ ทั้งนี้ กองทัพได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพิเศษ โดยใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธจรวด และเฮลิคอปเตอร์ยิงจรวด หากมีผลคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป