หันมาดูแวดวงสีกากีกันบ้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้จะยกระดับมาจากกรมตำรวจ ที่เคยอยู่ใต้สังกัดกระทรวงมหาดไทย ก็ให้มาอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่ใหญ่กว่า นัยว่าเพื่อหนีการแทรกแซงของนักการเมือง แต่แล้วก็ยังหนีกรรมไม่พ้นเหมือนหนีเสือปะจระเข้ ล่าสุด"บิ๊กป็อด" พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ผบ.ตร. ก็มีอันต้องสังเวยนักการเมืองชั่วถูกเด้งไปนั่งตบยุงอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี ว่ากันว่าการถูกย้ายครั้งนี้น่าอดสูยิ่งนัก เพราะ"หน้าตัวเมีย"มันสั่งเด้ง และที่ว่า"หน้าตัวเมีย"ก็เพราะ มันเป็นคำสั่งมาจากเมียนั่นเอง....
ว่ากันไปแล้ว การจัดทัพสีกากีครั้งที่ผ่านมา ก็พอดูได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่วงในกระซิบกันมาว่า ผบ.ตร. เป็นแค่ตรายาง มี"อีแอบ" ที่ตัวเป็นชายแต่ใครกับเรียกพี่แกว่า"เจ๊" เป็นผู้จัดการให้ "เจ๊" คนนั้น ในอดีตก็เคยถูกเด้งจากขั้วอำนาจใน สตช. มาก่อน ครั้งนี้เจ้าตัวถึงกับทำใจไม่ได้ต้องร้องแรกแหกกระเชอไปฟ้องศาลปกครองมาแล้ว เมื่อได้ทีลูกพี่เป็นใหญ่ทางการเมืองเลยทำให้เพื่อนรักอย่าง"บิ๊กป็อด"มีอันต้องม้วย เพราะดันไม่ไปสนองเด็กของเมียทั่นเข้า...
เข้ามารักษาการเก้าอี้ผบ.ตร. "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ ท่ามกลางความตกต่ำและกังขาในสายตาประชาชนของวงการตำรวจ อันดับแรก "บิกอ๊อด" จึงเรียกใช้งาน "จูดี้" พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วยผบ.ตร. โดยให้มาทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง หวังกู้ภาพลักษณ์ของตำรวจ แต่ไม่รู้งานนี้ "บิ๊กอ๊อด"เลือกผิดหรือถูก
พอพันธมิตรฯประกาศยุติการชุมนุม บรรดาตำรวจน้อยใหญ่ ต่างถอนหายใจกันดังเฮือก แต่นายพลหน้าขาว พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. กลับจ้องที่จะตามเช็กบิลบรรดาแกนนำในข้อหา"ก่อการร้าย" ก็อยากให้ลองมองกระจกนึกทบทวนดูให้ดีว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2551 นั้น ใครบ้างที่ควรจะถูกดำเนินคดีทั้ง "เจ้าเบื๊อก" พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กับ"ตานวย เชิญยิ้ม" พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. นั่นน่าถูกเช็คบิลมากที่สุดฐานเป็นผู้บัญชาการให้ทำร้ายประชาชนจนบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ถ้า "เสือไม่กินเนื้อเสือ" ก็ให้จับตาดูป.ป.ช.ไว้แล้วกัน จำเรื่อง"โอ๋ สืบ 6"กันได้ไหม บั้นปลายชีวิตเป็นอย่างไร....
ใครยังไม่เคยเห็นธาตุแท้ของนายตำรวจที่ชื่อ "จงรัก" ก็ขอให้ย้อนไปดูหลังเกิดเหตุตำรวจฆ่าประชาชนเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา นายตำรวจผู้นี้ก็หายหน้าไปจากจอทีวี โผล่อีกทีตอนพันธมิตรฯประกาศชัยชนะและยุติการชุมนุม "จงรัก" ก็โผล่หน้ามาอีกเร่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯ ถึงขนาดสั่งให้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 เตรียมนักประดาน้ำไว้งมหาอาวุธสงครามในคลองผดุงกรุงเกษม หน้าทำเนียบฯหวังเอาไว้เป็นหลักฐานเล่นงานพันธมิตรฯ นี่แหละ "จงรัก" ตัวจริงเสียงจริง นี่การเมืองเปลี่ยนขั้วพี่แกก็จะเปลี่ยนสีไปอีกแบบ.
นายตำรวจน้ำดี และมือดีของบช.น. ที่ถูกโยกไปกินลมชมวิวยังต่างจังหวัดเมื่อสมัย"บิ๊กตู่" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส นั้น บัดนี้ ได้กลับเข้ากรุ เอ้ย... เข้ากรุงมาเกือบหมดแล้ว ก็ขอให้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่ถนัดกันต่อไป อย่าได้ตั้งหน้าตั้งตา"วิ่ง"เพื่อหวังกรุยทางให้ได้ยศได้ตำแหน่งดีๆเพิ่ม บทเรียนครั้งที่ผ่านมาก็ถือว่า "ฟาดเคราะห์"ไปก็แล้วกัน....