xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯโต้กระแสบิดเบือนของสำคัญในทำเนียบฯอยู่ครบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พันธมิตรฯชี้แจงข้อเท็จจริงความเสียหายทำเนียบฯ และสนามบินทั้ง 2 แห่ง หลังถูกบิดเบือน ใส่ร้าย ยันทรัพย์สินสำคัญยังอยู่ครบ ส่วนบางอย่างที่สูญหาย คาดเป็นฝีมือกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวเข้ามา และถูกจับส่งให้ตำรวจ สน.นางเลิ้งไปแล้วกว่า 10 ราย ด้าน"จงรัก"ยอมรับปัญหาของในทำเนียบฯหาย เอาผิดแกนนำพันธมิตรฯยาก เตรียมส่งนักประดาน้ำงมหาอาวุธสงครามในคลองผดุงกรุงเกษม

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า หลังการประกาศยุติเการชุมนุมชั่วคราวของพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ และผู้มีส่วนรับผิดชอบคารสถานที่ทั้ง 3 แห่ง ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย และมีความพยายามสร้างกระแสว่า พันธมิตรฯ ได้สร้างความเสียหายไว้ในหลายๆ ส่วนนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง และยืนอยู่บนข้อเท็จจริง จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1. กรณีความเสียหายในทำเนียบรัฐบาลที่ปรากฎเป็นข่าวไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์บางส่วนหายไป โต๊ะถูกงัดแงะ หรือเบาะที่ถูกกรีดนั้เป็นความเสียหายในตึกบัญชาการ 1 และ 2 ส่วนตึกสำคัญที่มีทรัพย์สินของราชการสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกไทยคู่ฟ้า ห้องทำงานนายกฯ ที่ประชุม ครม. ห้องรับแขกบ้านแขกเมือง ตึกสันติไมตรี และตึกนารีสโมสร ทุกอย่างอยู่ครบ ผ.อ.กองสถานที่ทำเนียบ และคณะกรรมการผู้ทรงคูณวุฒิ 8 องค์กร ไม่ว่าจะเป็นจาก คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ คณะกรรมาธิการสิทธิฯ ส.ว. พีเน็ต สตง. สถาบันวิจัยจุฬาฯ LDI วิศวกรรมสถาน ที่เข้าไปตรวจสอบในวันแรก ก็ยืนยันตรงกันว่า ไม่มีความเสียหายใดๆ ทุกอย่างอยู่ครบเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิมทุกประการ หากมีภาพความเสียหายในตึก 3 ตึกปรากฎออกมา เท่ากับว่ามีการกลั่นแกล้งพันธมิตรฯ ซึ่งในระหว่างตรวจสอบเราได้บันทึกภาพวีดีโอ และถ่ายภาพนิ่งไว้แล้ว ไม่วิตกแต่อย่างใดและพร้อมนำเป็นพยานในชั้นศาล
2. สำหรับความเสียหายที่ปรากฎในตึกอื่นๆ และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ บางส่วนที่ถูกขโมยไป ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง สำหรับเบาะที่ถูกกรีด และข้าวของที่หายไปบางส่วนเชื่อว่าเป็นฝีมือของมิจฉาชีพ และพวกที่แฝงตัวเข้ามาสร้างความเสียหาย และโยนผิดให้กับพันธมิตรฯ เพราะในระหว่างชุมนุมที่ทำเนียบ การ์ดพันธมิตรฯ จับกุมแก๊งมิจฉาชีพที่เข้ามาขโมยคอมพิวเอตร์ รถมอเตอร์ไซด์ และข้าวของอื่นๆในทำเนียบฯ ซึ่งจับกุมในกว่า 10 คน และส่งตัวให้ตำรวจ ส.น.นางเลิ้งลงบันทึกคำให้การไว้ทุกครั้ง รวมทั้งเก็บของกลางไว้หลายส่วน
นอกจากนี้ระหว่างชุมนุมยังให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ หลายส่วนเข้ามาเอาเอกสาร และขึ้นไปตรวจตราทรัพย์สินทุกตึก เพื่อมั่นใจว่ายังอยู่ครบทุกอย่าง เราไม่เคยละเลยเรื่องนี้ และอยากเตือนเจ้าหน้าที่ทำเนียบฯ บางคนอย่าฉวยโอกาสกลั่นแกล้งพันธมิตรฯ ถ้าต้องถูกดำเนินคดีแกนนำพันธมิตรฯ ก็พร้อมต่อสู้ และถ้าแพ้คดีก็พร้อมรับผิดชอบไม่มีปัญหาอะไร ขอให้ทุกอย่างว่าไปตามข้อเท็จจริง
ทั้งนี้หากพันธมิตรฯ มุ่งหมายให้เกิดเสียหาย หรือทำลายทรัพย์สินในทำเนียบฯ จริงทำใมไม่เลือกลงมือที่ตึกสำคัญ 3 ตึก คือตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกนารีสโมสร ที่เป็นหัวใจสำคัญของทำเนียบรัฐบาล มีทรัพย์สินราชการมูลค่ามหาศาล ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีความเสียหายใดๆ เลย
3. ส่วนภาพรวมความเสียหายอื่นๆ ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นที่ทำเนียบรัฐบาล ที่สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมินั้น สนามบินทั้ง 2 แห่ง แทบไม่มีความเสียหาย ถ้าจะมีก็เกิดจากระเบิดที่ถูกยิงเข้ามาจากฝ่ายตรงกันข้าม และในช่วงเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานฯ ที่เข้ามาเจรจากับพันธมิตรฯ เพื่อเปิดสนามบิน ก็รับทราบ และยืนยันว่าจะไม่มีการดำเนินคดี เรื่องนี้ถ้าเสียหายจริงก็คงไม่สามารถเปิดสนามบินทั้ง 2 แห่งได้รวดเร็วขนาดนี้
การเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากพันธมิตรฯ หลายหมื่นล้านบาท จากบอร์ดการบินไทย และบอร์ดการท่าฯ จึงเป็นการผิดสัจจะวาจา เพราะบอร์ดของทั้ง 2 องค์กรหลายคน รับใช้ระบอบทักษิณ ทำให้คุณค่าของการเจรจาเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้รับความน่าเชื่อถือจากทั้ง 2 องค์กร ถ้ามีความขัดแย้งในรอบหน้า อาจทำให้การเจรจาเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองไม่มีความหมายอีกต่อไป
ประการสำคัญ ความเสียหายจากการปิดสนามบินในครั้งนี้ พันธมิตรฯไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มีความเสียหาย และคงเทียบไม่ได้กับการสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวอย่างสันติ อหิงสา จนต้องเสียชีวิตทั้งหมด 7 คน และบาดเจ็บมากกว่า 700 คน จากการปราบปรามของรัฐบาลทรราช ซ้ำร้ายยังปฏิเสธความรับผิดชอบมาตลอด ทุกฝ่ายต้องทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมูลเหตุจากความไม่เอาไหนของรัฐบาลทรราช ที่ปล่อยให้บริหารบ้านเมืองไปแม้แต่นาทีเดียวก็ไม่ได้ เพราะจะยิ่งสร้างความเสียหายให้กับสังคมทุกส่วนมากขึ้นแบบทบเท่าทวีคูณ พันธมิตรฯ ขอย้ำว่า ไม่ได้มีเจตนาสร้างความเสียหาย แต่การเคลื่อนไหวทั้งหมดของเราโดยเฉพาะยุทธการม้วนเดียวจบ ต้องการหยุดความไม่ชอบธรรมของรัฐบาล หยุดความเสียหาย และความพินาศของชาติบ้านเมืองให้เร็วที่สุดเท่านั้นเอง

ของทำเนียบฯหายเอาผิดแกนนำยาก

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผบ.ตร. กล่าวถึงการเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในทำเนียบรัฐบาลว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ต้องรับผิดชอบกรณีสิ่งของภายในทำเนียบรัฐบาลสูญหาย เนื่องจากเป็นความผิดเฉพาะบุคคล แต่หากพิสูจน์ได้ว่ารู้เห็นเป็นใจให้เอาทรัพย์สินไป แกนนำจึงจะมีความผิด แต่ยอมรับว่าคงจะพิสูจน์ได้ยาก
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทรัพย์สินที่สูญหาย มีตั้งแต่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ทีวี เครื่องคอมพิวเตอร์ รวมถึงเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของหน่วยงานในทำเนียบรัฐบาล
"ขอเตือนผู้ที่หยิบไป หรือรับซื้อของโจรให้ระวังความผิดทางอาญา จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี"พล.ต.อ.จงรัก กล่าว

งมหาอาวุธสงครามในคลองผดุงฯ

รองผบ.ตร.ผู้นี้กล่าวอีกว่าได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 นำนักประดาน้ำ เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบของผิดกฎหมาย หรืออาวุธสงคราม ที่อาจซุกซ่อนอยู่ภายในคลองผดุงกรุงเกษม ในเร็ววันนี้ ขณะที่การตรวจสอบในเบื้องต้นนอกจากพบอาวุธเป็นจำนวนมากแล้ว ยังพบยาเสพติดประเภทใบกระท่อม และยาแก้ไอ 4 x 100 ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้หลังจากเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ซึ่งเกิดเหตุการณ์ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมของประชาชนบริเวณหน้ารัฐสภา และหน้าบช.น. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมากนั้น พล.ต.อ.จงรัก ไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ หรือแสดงคงวามคิดเห็นต่อการชุมนุมของพันธมิตรฯ แต่เมื่อภายหลังแกนนำพันธมิตรฯประกาศยุติการชุมนุมแล้ว พล.ต.อ.จงรัก จึงออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง โดยล่าสุด ให้สัมภาษณ์ในเชิงจะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวน รีบดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตรฯทั้งหมด ในข้อหา ก่อการร้าย เนื่องจากบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น