ตำรวจวางกำลังเข้มรปภ.บ้านพักตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมเพิ่มกำลังดูแลพื้นที่ศาลปกครองขณะศาลอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรค "พลังประชาชน-มัชฌิมาฯ-ชาติไทย” และให้ จนท.ฝ่ายสืบสวน เร่งประสานการทางพิเศษฯ ตรวจสอบวงจรปิดบนโทลล์เวย์ คาดอาจเป็นจุดที่คนร้ายใช้ยิงเอ็ม 79 ใส่ผู้ชุมนุมที่ดอนเมือง ด้านศาลปกครองได้สั่งให้ นปช.ออกนอกพื้นที่ใน 15 นาที แต่ผู้ชุมนุมไม่พอใจสร้างสถานการณ์ใช้ไม้กระทุ้งหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด
วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมปิดล้อมศาลรัฐธรรมนูญแถลงปิดคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่ามีการเพิ่มกำลังตำรวจคุมเข้มพื้นที่มากกว่าปกติใช้กำลังจาก บก.น.2 บก.น.7 และ บก.ตปพ. จำนวน 750 นาย ดูแลพื้นที่โดยรอบศาลปกครอง พร้อมประสานกำลังทหารดูแลเพิ่มเติม และหากมีผู้ชุมนุมมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะมีการเพิ่มกำลังตำรวจเข้าไปดูแลตามควบคุมสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเชื่อว่าคงไม่มีมือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ตำรวจที่อยู่ในท้องที่บ้านพักของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจัดกำลังตำรวจไปดูแลความปลอดภัยบ้านพักทุกคน
พล.ต.ต.สุพร ยังกล่าวถึงการเข้าตรวจสอบความเสียหายภายในทำเนียบรัฐบาลภายหลังผู้ชุมนุมพันธมิตรฯยอมถอนตัวคืนพื้นที่ให้รัฐบาลว่า ช่วงบ่ายนี้ พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจากกองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษจะเข้าตรวจพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ และเมื่อมีการบันทึกความเรียบร้อยของพื้นที่แล้ว ตำรวจก็จะมีการจัดวางกำลังดูแลพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ
โฆษก บช.น.ยังกล่าวถึงกรณีการคืนทำเนียบรัฐบาลโดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมและแกนนำนั้นว่า ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตำรวจในการดำเนินการขึ้นอยู่กับสำนักนายรัฐมนตรีว่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ ตำรวจมีหน้าที่ทำตามหน้าที่หากมีการฟ้องร้องกัน ยืนยันดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีการละเว้นอย่างเด็ดขาด
ส่วนการดูแลความปลอดภัยดอนเมือง พล.ต.ต.สุพร กล่าวว่า ตำรวจได้วางมาตรการดูแลความปลอดภัยในภาพรวมโดยรอบสนามบินดอนเมือง ส่วนที่มีการยิงระเบิด เอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เร่งประสานกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเพื่อตรวจสอบโทรทัศน์วงจรปิดบนทางด่วนโทลล์เวย์ ซึ่งอาจจะเป็นจุดที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นจุดยิง
“ส่วนการดูแลพื้นที่นั้นขณะนี้ตำรวจจะวางมาตรการให้เข้มข้นมากขึ้น และจะประสานกับทหารเพื่อตรวจพื้นที่ร่วมกับตำรวจ ป้องกันผู้ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์” พล.ต.ต.สุพร กล่าว
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ ว่า ภายหลังที่ศาลปกครองอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย พรรคมัชฌิมา ส่งผลให้กลุ่ม นปช.สวมเสื้อแดงประมาณ 1,500 คน ที่ชุมนุมอยู่ภายในบริเวณศาลไม่พอใจคำตัดสินของศาล ได้ช่วยกันใช้ไม้กระทุ้งหม้อแปลงไฟฟ้าที่อยู่เสาไฟฟ้าหน้าศาลจนทำให้หม้อแปลงระเบิดขึ้นมา ทำให้ไฟฟ้าภายในศาลดับไปชั่วขณะ แต่ทางศาลมีไฟสำรองจึงไม่มีปัญหาอะไร
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้แม้ว่าศาลจะมีคำสั่งให้กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง นปช.เคลื่อนย้ายออกจากศาลทันทีภายใน 15 นาที แต่ผู้ชุมนุมก็ยังดื้อด้านอยู่ภายในบริเวณศาลต่อไปไม่ยอมฟังคำสั่งใดๆ
ต่อมาเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม นปช.ได้ล่าถอยเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ศาลปกครอง ทยอยขึ้นรถ 10 ล้อ จำนวน 2 คัน มุ่งหน้าไปปักหลักชุมนุมที่ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานครต่อไป
