โจ๋วัย 17 ปี ช้ำรักแค้นแฟนสาวไม่สนใจ บุกถึงห้องใช้มีดจ้วงแทงไม่ยั้ง ก่อนปลิดชีวิตตัวเองตายตามทิ้งข้อความปริศนาไว้ที่ผนังห้อง ตร.ตั้งปมเรื่องชู้สาว
วานนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 20.30 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ สาคร ร้อยเวร สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในหมู่บ้านทวีทรัพย์วิลเลจ ถนนสามวา ซอย 16 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม.จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์ รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์แบ่งให้เช่า บนชั้น 2 ภายในห้องไม่มีเลขที่ พบศพนายสมพงษ์ ศรีบัวลมย์ อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่367 ม.3 ต.วังน้ำลัด อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่บริเวณลำตัวและราวนมด้านซ้ายหลายแผล และยังพบว่ามีมีดพับปักอยู่ที่ข้างลำตัว 1 เล่ม ใกล้กันพบศพ น.ส.อากาเป้ โพธิ์ทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 ม.1 ต.บึงทับแรต อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร สภาพศพนอนตะแคงสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่บริเวณลำตัว จำนวน 8 แผลและที่ข้อพับขาขวาอีก 1 แผล คาดว่าผู้ตายทั้ง 2 รายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-12 ชั่วโมง นอกจากนี้ที่บริเวณผนังห้องยังมีข้อความเขียนเอาไว้ด้วยว่า “มึงต้องตายแบบเลือดเย็น ตายแบบทรมาน มึงชั่วเกินหมา” เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนางกาญจนา มารดาของ น.ส.อากาเป้ ทราบว่า ผู้ตายเป็นลูกสาวของตนและรู้จักกับนายสมพงษ์เนื่องจากเป็นญาติกัน หลังจากที่ลูกสาวเรียนจบชั้น ม.6 ก็ไม่ได้ทำงานอะไร เพราะลูกสาวป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเส้นประสาท เวลาปวดจะขึ้นสมองต้องกินยาอยู่ตลอดเวลา ตนจึงส่งไปอยู่กับน้าที่ จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลาหลายปีแล้วซึ่งฝ่ายชายก็อยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานีด้วย ผู้ตายทั้งสองจึงรู้จักกันและคบหากันแบบพี่น้องเรื่อยมา จนกระทั่งทราบเพียงว่านายสมพงษ์ได้เดินทางมาทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ ต่อมาตนเห็นว่าลูกสาวมีอาการดีขึ้นมากแล้วจึงตามตัวให้กลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะฝากลูกสาวให้เข้าทำงานกับคนรู้จัก โดยลูกสาวได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นก็มาหาห้องเช่าอยู่ด้วยกันกับลูก
นางกาญจนา กล่าวต่อว่า ขณะที่ย้ายมาถึงห้องเช่าดังกล่าวก็ยังไม่ทันจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ ตนก็ต้องออกไปทำธุระข้างนอก จนกระทั่งช่วงบ่ายกลับมาที่ห้องและเคาะประตูเรียกลูกสาวแต่ก็ไม่มีใครเปิด แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จึงออกไปซื้อของแล้วคิดว่าจะกลับมาเรียกลูกใหม่ แต่แม่ของนายสมพงษ์ได้โทรศัพท์มาหาตนพร้อมกับบอกว่าลูกชายหายไป ตนจึงเอะใจกลับไปเคาะที่ห้องอีกก็ไม่มีคนเปิด จึงงัดบานเกล็ดหน้าต่างแล้วแหวกม่านดูก็พบขาของผู้ชายเปื้อนเลือดเต็มไปหมด จึงเรียกแม่ของนายสมพงษ์มาดู ซึ่งตอนนั้นก็ไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียชีวิตด้วยเช่นกัน แต่เมื่อแหวกผ้าม่านอีกรอบก็ต้องตกใจเพราะเห็นว่าลูกสาวนอนเสียชีวิตอยู่ด้วย จึงรีบโทร.แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
“ไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปรักกันตอนไหน หรือมีปัญหาอะไรกัน อาจจะเป็นตอนที่ลูกไปอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็เป็นได้ แต่ที่ผ่านมาฉันก็ไม่รู้ว่ามีใครมาแอบชอบลูกบ้าง เพราะลูกสาวคุยได้กับทุกคน กับนายสมพงษ์ ลูกฉันคุยเหมือนเป็นพี่น้องกันมากกว่า แต่นายสมพงษ์อาจจะแอบชอบลูกสาวของฉันอยู่ เพื่อนข้างห้องก็เล่าให้ฟังว่าคืนวันเกิดเหตุได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย แต่ก็ไม่มีใครสนใจอะไรจนกระทั่งเสียงเงียบไป” นางกาญจนา กล่าว
ด้าน ร.ต.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องชู้สาว ฝ่ายชายน่าจะแอบชอบฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายหญิงไม่สนใจ ทำให้ฝ่ายชายเกิดความหึงหวง อย่างไรก็ตามจะต้องสอบปากคำญาติของผู้ตายและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป